โออิชิ กรุ๊ป ปั้นร้านอาหารโมเดลขนาดจิ๋วเจาะแหล่งชุมชน ชูรูปแบบบริการส่งถึงบ้าน รับกระแสคนงดกินข้าวนอกบ้าน เจียดงบ 5-10 ล้านบาท ทดลอง 5 สาขา แย้มศึกษาร้านอาหารญี่ปุ่นใหม่ ส่วนครึ่งปีหลังเล็งขยายสาขาร้านอาหารโออิชิเพิ่ม 10 แห่ง สิ้นปีหวังกวาดยอดขาย 1.8 พันล้านบาท

นายไพศาล อ่าวสถาพร ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการร้านอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านอาหาร ชาบู ชาบูชิ โออิชิบุฟเฟ่ โออิชิเอ็กซ์เพรส โออิชิราเมน เปิดเผยว่า แผนการตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะลงทุนเปิดร้านอาหารขนาดเล็กหรือเรียกว่ารูปแบบเดลโก โดยมีขนาดพื้นที่เฉลี่ยราว 20 ตารางเมตร รูปแบบร้านจะให้บริการในการส่งอาหารให้กับลูกค้าถึงบ้าน และมีที่นั่งให้บริการภายในร้านประมาณ 10 ที่นั่ง เน้นเจาะบริการตามแหล่งชุมชน อาคารสำนักงานและโรงพยาบาล ในเบื้องต้นวางแผนเปิดตัว 5 สาขาภายในสิ้นปีนี้ โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนสาขาละ 1-2 ล้านบาท หรือรวมแล้วกว่า 5-10 ล้านบาท

“การขยายธุรกิจในรูปแบบดังกล่าว เป็นเพราะในช่วงครึ่งปีแรก แนวโน้มของธุรกิจการบริการส่งอาหารให้กับลูกค้าถึงบ้านมีอัตราการขยายตัวสูงถึง 20% เนื่องจากผู้บริโภคมีการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทานอาหารนอกบ้าน”

ล่าสุดบริษัทได้เปิดทดลองสาขานำร่องไปแล้ว 1 สาขา ที่ ลาดพร้าว 71 หลังจากเปิดให้บริการมา 1 เดือน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดี จึงมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ ที่ โรงพยาบาลพญาไท 3 ต่อไป พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้ชื่อใหม่อีก 1 ร้านซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาและพัฒนารูปแบบร้าน ทำให้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

นายไพศาล กล่าวว่า ครึ่งปีหลังบริษัทเน้นการทำงานในเชิงรุก เพื่อผลักดันยอดขายให้ได้ตามเป้า เนื่องจากการแข่งขันธุรกิจอาหารมีความรุนแรง จากเดิมที่ธุรกิจร้านอาหารจะรอให้ลูกค้าเข้าร้าน แต่ต่อจากนี้จะเอาธุรกิจร้านอาหารเข้าไปหาผู้บริโภคมากขึ้น โดยจะต้องเข้าไปเปิดตามแหล่งชุมชน ซึ่งทำเลที่เปิดสาขานั้น จะต้องมีประชากรไม่น้อยกว่า 2 หมื่นหลังคาเรือน

ส่วนร้านอาหารของกลุ่มโออิชิ กรุ๊ป มีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 10 แห่ง โดยเน้นเปิดร้านชาบู ชาบูชิ มากที่สุด 4 สาขา เนื่องจากเป็นร้านที่มีอัตราการเติบโตที่ดี ส่วนที่เหลือจะเป็นโออิชิ บุฟเฟ่ 1 แห่ง ราเมน 3 แห่ง ซูชิบาร์ 1 แห่ง โออิชิ เอ็กซ์เพรส 1 สาขา จากปัจจุบันมีสาขาร้านอาหารทั้งหมด 9 ร้าน รวม 78 สาขา

สำหรับธุรกิจกลุ่มร้านอาหารบริษัทใช้งบราว 5% ของยอดขายในปีนี้ โดยมุ่งเน้นการทำโปรโมชันตามกลุ่มเป้าหมาย เช่น หากเป็นสาขาที่สยามสแควร์ ก็จะทำโปรโมชันที่เน้นกับกลุ่มนักศึกษา หรือหากเป็นสาขาที่อยู่ใกล้อาคารสำนักงาน ลักษณะของโปรโมชันก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น

ผลประกอบการสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้า 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมามียอดขาย 1.5 พันล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากร้านอาหารในกลุ่มบุฟเฟ่ 37% ชูบูชิ 26% ราเมน 26% ที่เหลือเป็นร้านชูชิบาร์ อินแอนด์เอ้าท์ เบเกอรี่ สำหรับรายได้ทั้งกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ตั้งเป้าหมายมีอัตราการเติบโต 20% หรือราว 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจอาหาร 35% และเครื่องดื่ม 65%