|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เทรนด์กระแสอาหารญี่ปุ่นยังไปได้สวย "ชิบูย่า" น้องใหม่แบรนด์ไทย ขอกระโดดร่วมวง สู้ศึกร้านอาหารญี่ปุ่นอีกราย ชูการทำเส้นสด เป็นจุดขาย ทุ่มทุนกว่า 15 ล้านบาท ผุดสาขาอย่างน้อย 5 สาขาในปีนี้ ล่าสุดเปิดให้บริการแล้ว 2 สาขา ลูกค้าให้การตอบรับสูงเกินคาด ก้าวต่อไปเตรียมเปิดสาขาที่ 3 ที่ ซีคอนสแควร์ พร้อมสยายปีกลุยธุรกิจแฟรนไชส์ ในรูปแบบคีออส มั่นใจสิ้นปีขายแฟรนไชส์ได้ 20 หน่วย พร้อมรายได้รวมเข้ากระเป๋าในปีนี้แรกไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
นางสาวปริชาติ อัศวเศรณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิบูย่า ฟู้ด จำกัด ดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นแบบจานเดียว ภายใต้แบรนด์ "ชิบูย่า" เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า กระแสการรับประทานอาหารญี่ปุ่นไทยกำลังเป็นที่นิยมจากเดิมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะมีผู้เล่นอยู่ไม่กี่ราย แต่กลับมีกาแข่งขันค่อนข้างสูง และแต่ละรายมีความแตกต่างกันไป จึงเห็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจ ว่ายังมีที่ว่างพอให้เข้ามาทำตลาดได้ แต่ต้องมีความแตกต่างที่โดดเด่น
ดังนั้นการที่บริษัทฯตัดสินใจดำเนินธุรกิจด้านร้านอาหารญี่ปุ่น ภายใต้แบรนด์ ชิบูย่า “Shibuya” ซึ่งบริษัทฯเลือกที่จะมุ่งไปยังกลุ่มอาหารญี่ปุ่นประเภทจานเดียวเป็นหลัก อย่างราเม็ง โดยนำเอาจุดเด่นในเรื่องของการทำเส้นสดวันต่อวัน มาทำให้ลูกค้าได้เห็น อีกทั้งยังมีเส้นให้เลือกอย่างหลากหลาย ได้แก่ เส้น Udon, Soba, Ramen, Inaniwa และ Somen พร้อมเมนูอาหารรวมกว่า 50 เมนู ราคาเฉลี่ยตั้งแต่ 59-119 บาท ต่อเมนู โดยมีกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่อายุ 18-35 ปี รวมถึงกลุ่มครอบครัว
“การที่บริษัทฯเลือกที่ทำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น ที่อยู่ในรูปแบบอาหารจานเดียวนั้น เนื่องจากในตลาดมีคู่แข่งและเจ้าตลาดเพียงไม่กี่ราย คือ โออิชิ, ราเม็ง และฮาจิบัง ตามลำดับ จึงมองเห็นโอกาสว่าจะสามารถทำตลาดในส่วนนี้ได้ ขณะเดียวกันการที่สามารถทำเส้นสดวันต่อวัน เนื่องจากได้บริษัท เนเจอร์ เบส ฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ช่วยซัพพรอตวัตถุดิบให้ โดยเป็นวัตถุดิบนำเข้า 70% และในประเทศอีก 30% จึงสามารถนำเรื่องการทำเส้นสดวันต่อวัน มาเป็นจุดขายได้”
ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้าเปิดให้บริการในรูปแบบร้านอาหารทั้งหมด 5 สาขาในปีนี้ โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณแต่ละสาขาที่3ล้านบาท หรือคิดเป็นเม็ดเงินรวมกว่า 15 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 5 สาขานี้ จะเปิดในห้างสรรพสินค้าทั้งหมด และจะทำให้ทั้ง 5 สาขานี้เป็นร้านต้นแบบที่ได้มาตรฐาน หากในอนาคตบริษัทฯจะทำการขยายสาขาโดยการขายแฟรนไชส์ต่อไป
นางสาวอวิกา บุญกมลสวัสดิ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ชิบูย่า ฟู้ด จำกัด กล่าวว่า ล่าสุดได้เปิดให้บริการไปแล้ว 2สาขา คือ เอสพลานาด ส่วนสาขาที่สอง เพิ่งเปิดให้บริการในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พบว่า ทั้งสองสาขา ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะสาขาแรกที่เอสพลานาด เฉลี่ยรายได้ต่อวันที่ 30,000บาท หรือกว่า 1.5 ล้านบาทต่อเดือน
ส่วนสาขาที่3 กำลังจะเปิดให้บริการที่ซีคอนสแควร์ ขณะที่อีก 2 สาขา ที่เหลือ กำลังหาทำเลอยู่ ซึ่งได้มีการเจรจากับทางเครือเดอะมอลล์ กรุ้ป และทางเมเจอร์ ซึ่งยังไม่ได้สรุปออกมาว่าจะเปิดที่ใด แต่มองว่าจะต้องเป็นทำเลที่อยู่ใจกลางเมือง อย่าง สยามพารากอน เป็นต้น เพราะมีสาขาที่อยู่ชานเมืองแล้ว
นางสาวอวิกา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาหลังจากเริ่มเปิดให้บริการ ยอมรับว่ายังไม่ได้ใช้เม็ดเงินไปกับการทำตลาดแต่อย่างไร แต่ส่วนใหญ่จะใช้ความสนิทส่วนตัวในการทำตลาดมากกว่า ในการให้ข้อมูลข่าวสาร พร้อมคำสัมภาษณ์ ไปยังหนังสือและนิตยสารต่างๆ ในการช่วยสร้างแบรนด์ร้านชิบูย่า ซึ่งถือว่าได้ผลในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามบริษัทฯจะทำการเปิดแกรนท์โอเพ่นนิ่ง ร้าน ชิบูย่า ในวันที่ 10 ก.ย. ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้ลูกค้าได้รู้จักแบรนด์ ชิบูย่ามากยิ่งขึ้น
เดินหน้าลุยขายแฟรนไชส์รูปแบบคีออส
นางสาวปริชาติ กล่าวว่า หลังเปิดให้บริการร้านอาหารญี่ปุ่น ชิบูย่า พบว่า มีลูกค้าให้ความสนใจในการที่จะซื้อแฟรนไชส์ เพื่อไปธุรกิจต่อเป็นจำนวนมาก แต่ทางบริษัทฯมองว่า ต้องการให้รูปแบบร้านในระยะแรก เป็นการลงทุนโดยบริษัทฯเองก่อน แต่ก็มองเห็นโอกาสในการเติบโตทางช่องทางการขายแฟรนไชส์ จึงได้มีแผนธุรกิจขายแฟรนไชส์ในรูปแบบคีออสขึ้นมาอีกส่วนหนึ่งด้วย
โดยได้เตรียมเข้าร่วมงานโอกาสธุรกิจ&แฟรนไชส์ ครั้งที่ 11 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 23-26 สิงหาคมที่จะถึงนี้ คาดว่าจะมีลูกค้าให้ความสนใจซื้อแฟรนไชส์ประมาณ 10-15 ราย หรือคิดเป็นจำนวนคีออสที่ 20 หน่วย เน้นเป็นคีออสที่ขายในกรุงเทพฯเป็นหลัก โดยคิดค่าแฟรนไชส์อยู่ที่ประมาณ 1แสนบาท
“จากการเปิดให้บริการในสาขาแรก ที่ประสบความสำเร็จเกินขาด จนทำให้บริษัทฯเพิ่มการลงทุนขยายสาขา และการขายแฟรนไชส์อีกช่องทางหนึ่ง เชื่อว่าอย่างน้อยรายได้รวมในปีแรกนี้น่าจะสามารถทำได้ถึง 50 ล้านบาทแน่นอน” นางสาวปริชาติ กล่าวในที่สุด
|
|
|
|
|