Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน9 สิงหาคม 2550
"พฤกษา"สยายปีกสู่ตลาดโลกตั้งงบแค่400ล้านป้องกันความเสี่ยง             
 


   
search resources

พฤกษา เรียลเอสเตท, บมจ.
Real Estate




"พฤกษา" สยายปีกสู่ตลาดโลก เผยอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในตลาด เวียดนาม อินเดีย เล็งผุดที่อยู่อาศัยราคาถูก คาดได้ข้อสรุปภายในปีนี้ แจงต้องการหาตลาดใหม่เพื่อขยายการลงทุน เบื้องตั้งงบลงทุนแค่ 300-400 ล้านบาท

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ ซึ่งการศึกษาจะครอบคลุมในทุกด้าน เช่น ความเป็นไปได้ของการลงทุน ข้อกฎหมาย ความต้องการของตลาด รูปแบบที่อยู่อาศัย ผลตอบแทน ฯลฯ

ขณะนี้ได้ทำการศึกษาใน 2 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย และเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีรูปแบบการพัฒนาอสังหาฯ ราคา ใกล้เคียงกับประเทศไทย อีกทั้งความต้องการที่อยู่อาศัยยังใกล้เคียงกับเซกเมนท์ที่พฤกษาดำเนินการอยู่ นอกจากนี้ทั้ง 2 ประเทศดังกล่าวยังมีอัตราการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจสูงมาก ประชากรขาดแคลนที่อยู่อาศัยสูง

โดยเฉพาะในอินเดีย ประชาชนมีความต้องการบ้านระดับกลางขึ้นสูงถึง 10 ล้านยูนิต ประกอบกับจำนวนประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก อินเดียต้องสร้างบ้านถึง 40,000 หลังต่อวันจึงจะเพียงพอต่อจำนวนประชากร ซึ่งบริษัทได้ทำการศึกษาในเมืองบังกาลอ และมุมไบ ส่วนระดับราคาบ้านที่ประชากรส่วนใหญ่รับได้ประมาณ 6 แสนบาท ซึ่งราคาดังกล่าวพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมถึงจะสามารถทำได้

สำหรับกฎหมายอินเดีย ของนักลงทุนต่างชาติกำหนดให้ต้องลงทุนขั้นต่ำ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ พัฒนาพื้นที่ไม่น้อยกว่า 50,000 ตร.ม. หรือ 20 เอเคอร์ และห้ามถอนเงินลงทุนหรือนำเงินกลับประเทศจนกว่าจะครบ 3 ปี แต่หากร่วมลงทุนกับนักลงทุนท้องถิ่นจะต้องลงเงินไม่น้อยกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนตลาดอสังหาฯในเวียดนามนั้น ได้ศึกษาที่เมืองไซงอน ซึ่งราคาที่ดินสูงกว่าเมืองไทย อีกทั้งยังเป็นการเช่าระยะยาว 50 ปี ทำให้คอนโดมิเนียมได้รับความนิยมสูงสุดถึง 90% ของที่อยู่อาศัยทั้งหมด ซึ่งเวียดนามถือเป็นตลาดเกิดใหม่อยู่ในช่วงอัตราการเติบโตสูง เหมือนไทยในช่วง 10-15 ปีก่อนหน้านี้ แต่ยังถือว่าเล็กกว่าเมืองไทยมาก โดยคิดเป็น 10% อสังหาฯในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น

ทั้ง 2 ประเทศ ราคาที่ดินจะสูงกว่าไทย ส่วนราคาวัสดุนั้นอยู่ระหว่างการเปรียบเทียบ แต่เชื่อว่าโดยรวมแล้วต้นทุนการก่อสร้างจะไม่แตกต่างจากไทยมากนัก อย่างไรก็ดีทั้ง 2 ประเทศค่าแรงถูกกว่าไทยมาก หากมีการบริหารจัดการที่ดีน่าจะสามารถลงทุนได้ โดยจากการศึกษาพบว่าผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 30%

"บริษัทต้องการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน จึงต้องขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่บริษัทในการก้าวสู่ตลาดโลก อีกทั้งยังเป็นการรองรับการเปิดการค้าเสรีในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งการลงทุนในต่างประเทศถือเป็นหนึ่งในมาสเตอร์แพลนของพฤกษา"

นายทองมา กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นจะเลือกลงทุนในประเทศที่มีศักยภาพที่สุดเพียงประเทศเดียวก่อน ส่วนจะเข้าไปลงทุนในรูปแบบลงทุนเอง หรือร่วมทุนกับนักลงทุนท้องถิ่นนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาอยู่ ส่วนเม็ดเงินลงทุนนั้นคาดว่าจะใช้ประมาณ 300-400 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท และถือว่าเป็นเม็ดเงินที่ไม่สูงมากนัก เนื่องจากเป็นการทดสอบตลาดใหม่ จึงไม่ต้องการลงทุนสูงเป็นการลดความเสี่ยงอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งหากตลาดไปได้ก็จะดำเนินการต่อเนื่องและขยายไปสู่ตลาดอื่นๆต่อไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us