Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน9 สิงหาคม 2550
CMCทุ่ม 40ล้านสร้าง6แบรนด์ใหม่หวังปูฐานตลาดครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม             
 


   
search resources

Real Estate
เจ้าพระยามหานคร, บจก.




"เจ้าพระยามหานคร" ทุ่ม 140 ล้านบาท จ้าง จ้าง "เคีรยเอทีฟ จูยส์" สร้างแบรนด์สินค้าใหม่ พร้อมรีแบรนด์ดิ้ง3 แบรนด์เดิม ครอบคุลมกลุ่มลูกค้าทุกระดับในตลาดอสังหาฯ คาดปี51 เห็น6 แบรนด์ใหม่ แจงแผนธุรกิจ ไตรมาส 4 เปิดตัวบ้านเดี่ยวไฮเอน ย่านพระรามที่ 2 ระบุสัญญาตลาดไฮเอ็นเริ่มฟื้น ชี้อัตราระบายออกบ้านแพงปลายปี 49 ต่อเนื่อง 6 เดือนแรกปี 50 ขยายตัว สต็อกเดิมในตลาดเริ่มหมด มั่นใจยอดขายตามเป้า 3,000 ล้านบาท

นายวิเชียร แพทยานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด หรือ CMC กล่าวว่า บริษัทได้วางงบประมาณในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าไว้ 140 ล้านบาท เพื่อสร้างแบรนด์สินค้าใหม่ของบริษัทเพิ่มรวมถึงการรีแบรนด์ดิ้งของบริษัททั้ง 3 แบรนด์เดิมให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นที่รับรู้ในกลุ่มลูกค้าและผู้บริโภคในตลาดมากขึ้น โดยล่าสุดได้ว่าจ้างบริษัท เคียรเอทีฟ จูยส์ ให้ทำหน้าที่สร้างสรรค์แบรนด์สินค้าใหม่เพิ่มอีก 4 แบรนด์ เพื่อรองรับการการขยายฐานตลาดให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าในอนาคตให้มากขึ้น

ทั้งนี้ การสร้างแบรนด์ใหม่นั้นขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการเก็บข้อมูลและการวางคอนเซ็ปต์ รวมถึงการตั้งชื่อแบรนด์สินค้ากลุ่มใหม่ เพื่อให้ตรงกับตำแหน่งสินค้าให้และกลุ่มเป้าหมาย โดยคาดว่าการสร้างแบรนด์ใหม่นี้จะเสร็จและสามารถเปิดตัวได้ในปี 51 ปัจจุบัน บริษัทมีแบรนด์สินค้าอยู่ 3 ตัวประกอบด้วย แบรนด์ ชาโต ซึ่งพัฒนาสินค้าในกลุ่ม ซิตี้คอนโดมิเนียม ราคาขาย 40,000-60,000 บาทต่อตารางเมตร แบรนด์ คาซ่า ยูเรก้า ซึ่งพัฒนาสินค้าในกลุ่มทาวน์โฮม ราคา 2-4 ล้านบาท และแบรนด์ รอยัลรีเจนท์ พัฒนาสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียม ไฮเอน ราคาขาย 60,000 ต่อตารางเมตรขึ้นไป

สำหรับการสร้างแบรนด์ใหม่และการรีแบรนด์สินค้าเดิมนั้น CMC ได้ให้โจทย์แก่ บริษัท เครียเอทีฟ จูยส์ ว่าให้มีการพัฒนาแบรนด์ใหม่เพิ่มอีก 4 แบรนด์ และทำการรีแบรนด์สินค้า 3 ตัวเดิมด้วย ซึ่งจะทำให้ในปี 51 บริษทัจะมีแบรนด์สินค้ารวมทั้งสิ้น 6 แบรนด์ ประกอบด้วย 1.แบรนด์สินค้า บ้านเดี่ยว ไฮเอน ระดับราคาขาย 10ล้านบาทขึ้นไป 2.กลุ่มสินค้า คอนโดฯไอเอน ราคาขาย 60,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป 3.กลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวระดับกลาง ราคา 4-8 ล้านบาท 4.กลุ่มสินค้าซิตี้คอนโดฯระดับราคา 40,000-60,000 บาทต่อตารางเมตร, 5.กลุ่มสินค้า ทาวน์เฮาส์และโฮมออฟฟิศ ระดับบนราคา 4-10ล้านบาท และ 6. กลุ่มสินค้าทาวน์เฮาส์และทาวน์โฮมระดับกลาง ราคาขาย 2-4 ล้านบาท

นายวิเชียร กล่าวว่า สำหรับแผนธุรกิจในช่วง 5 เดือนหลังจากนี้นั้น บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอน เพิ่มอีก 1 โครงการ ย่านพระราม 2 ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 50 นี้ โดยโครงการบ้านเดี่ยวดังกล่าวจะเป็นบ้านเดี่ยวระดับราคา 14 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 40 ยูนิต ซึ่งบ้านแต่ละยูนิตจะมีพื้นที่ขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป

ทั้งนี้ จากการศึกษาความต้องการในตลาดและการระบายออกของสินค้าในกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับบนในช่วงที่ผ่านมานั้น มีปริมาณการระบายออกสินค้าในตลาดที่สูงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะใช่วงปลายปี 2549 ต่อเนื่องถึงช่วง ต้นปี 50 จนถึงปัจจุบันนั้น อัตราการระบายออกของสินค้าบ้านเดี่ยวไฮเอนเริ่มขยับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ในขณะที่จำนวนสต็อกบ้านเดี่ยวไฮเอนในตลาดที่มีอยู่ถูกระบายออกไปจำนวนมาก ทำให้ซับพลายในตลาดลดลง และเหลือจำนวนที่น้อย ซึ่งเป็นสัญญาบอกว่าตลาดบ้านเดี่ยวไฮเอ็นเริ่มฟื้นตัวกลับมาบ้างแล้ว

อย่างไรก็ตามในไตรมาสที่ 3 นี้ บริษัท ได้เปิดพรีเซลโครงการ แบงค์คอก ฮอไรซอน โครงการคอนโดมิเนียม ไฮไลท์ 37 ชั้น ย่านรามคำแหง มูลค่าโครงการรวม 1,500 ล้านบาท มีพื้นที่การพัฒนาโครงการ 3 ไร่ 1 งาน จำนวน 586 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท ถึง 20ล้านบาท โดยตั้งเป้าว่า ในช่วงพรีเชลนี้จะมียอดขายประมาณ 25% โดย10%จะมาจากการขายในงาน Thailand condo Expro และอีก15% จะมาจากยอดพรีเซล ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดการขายโครงการได้ทั้งหมดภายในเดือน ธ.ค.50 นี้

สำหรับในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาบริษัท มียอดขายแล้ว 50% ของเป้ายอดขายทั้งปีที่วางไว้ 3,000 ล้านบาท และยังมั่นใจว่าในปีนี้จะมียอดรับรู้รายได้รวมที่ 2,000 ล้านบาท จากการขายสินค้าใน 5 โครงการที่เปิดขายอยู่ แม้ว่าสถานการณืตลาดในขณะนี้อาจจะยังไม่สดใสเท่าที่ควร แต่จากการประเมินสถานการณ์แล้ว เห็นได้ชัดว่าความชัดเจนในด้านต่างๆ เริ่มคลี่คลายและเชื่อว่า ในช่วงปลายปีนี้ตลาดน่าจะฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us