Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน8 สิงหาคม 2550
ททท.รับหน้าเสื่อวิ่งหาเงินเข้ากองทุน             
 


   
www resources

โฮมเพจ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

   
search resources

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
Tourism
พรศิริ มโนหาญ




ททท.รับหน้าเสื่อ ช่วยหาเงินเข้ากองทุนเพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย หลังหลายหน่วยงานแห่ขอใช้เงินกองทุนกันเพียบกว่า 200 โครงการ มากกว่า 400 ล้านบาท พร้อมเร่งจัดทำแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี หวั่งเป็นเบี้ยหัวแตกใช้เงินไม่ตรงจุดประสงค์

นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยภายหลังการประชุม คณะอนุกรรมการจัดทำแผนยุทธศาสตร์กองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ซึ่งมี นายกิตติวัฒน์ อุชุปาละนันท์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีกำหนดยุทธศาสตร์ 3 ปี โดยจะมีการวางกรอบการใช้เงิน และ แนวทางการหาเงินเข้ากองทุนฯ โดยไม่ต้องพึ่งงบประมาณจากภาครัฐ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ได้ระดมความคิดจากคณะอนุกรรมการ ประกอบด้วยตัวแทนจากภาครัฐและเอกชน ซึ่งต่างก็เสนอข้อคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป คาดว่าการประชุมครั้งต่อไปจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน

เบื้องต้นที่ประชุมเห็นว่า กองทุนดังกล่าว จะต้องมีทั้งฝ่ายหาเงิน และ ฝ่ายใช้เงิน จึงได้มอบหมายให้ ททท.ดูแลในส่วนของการหาแหล่งเงินทุนที่จะเข้ามาสมทบใน กองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย เพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นภาระให้รัฐบาลต้องมาจัดสรรงบประมาณให้อีก โดยกองทุนฯจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง เบื้องต้น ททท.มีแนวคิดว่า จะแบ่งการหาเงินออกเป็น 2 แนวทาง คือ 1. ขอเป็นเงินสดจากหน่วยงานต่างๆ มาไว้ในกองทุนฯ และ 2. คัดเลือกโครงการที่จะขอใช้เงินกองทุนฯและเป็นโครงการที่น่าสนใจ นำไปเสนอขอเงินสนับสนุนจากผู้มีอุปการคุณ(สปอร์นเซอร์) ซึ่ง ททท. รู้จักหน่วยงานในต่างประเทศหลายหน่วยงาน ที่ยินดีสนับสนุนโครงการที่มีวัตถุประสงค์ในเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ

“ปัจจุบัน เงินในกองทุนฯมีอยู่ประมาณ 400 ล้านบาท เศษ ปัจจุบันมีผู้เสนอขอใช้เงินจากกองทุนกว่า 200 โครงการ ซึ่งมีทั้งหน่วยงานส่วนท้องถิ่น , สำนักพัฒนาการท่องเที่ยว และ ททท. เองก็เสนอใช้เงินกอนทุนนี้เช่นกัน โดยแต่ละโครงการใช้เงินเฉลี่ย 1-2 ล้านบาท ดังนั้นกองทุนจะต้องมีทั้งฝ่ายอนุมัติให้ใช้เงิน และ ฝ่ายที่หาเงินเข้ากองทุนโดยไม่ต้องเป็นภาระรัฐบาล”

สำหรับการกำหนดกรอบการใช้เงินกองทุนฯ ตามแผนยุทธศาตร์ 3 ปี (พ.ศ. 2551-2553)ที่ประชุมได้เสนอแนวคิดที่หลากหลาย อาทิเช่น อนุกรรมการบางท่านเสนอให้โครงการที่จะใช้เงินกองทุนจะต้องเป็นโครงการขนาดใหญ่ เพื่อให้ได้ผลรับในการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อย่างรวดเร็ว แต่อนุกรรมการบางท่านก็เสนอว่าต้องการให้การใช้เงินกองทุนฯ เพื่อโครงการขนาดเล็กที่ลงไปพัฒนาชุมชนอย่างแท้จริง ในประการสุดท้ายนี้ ททท.ก็เห็นด้วยเช่นกัน

“ความจริงจุดประสงค์หลักของการขอใช้เงินกองทุน ก็เพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเป็นหลัก ซึ่งในโครงการขนาดใหญ่ ส่วนมากจะมีหน่วยงานรัฐคอยดูแลอยู่แล้ว และ งบประมาณก็จะเป็นงบพิเศษจากส่วนกลาง หรือไม่ก็เป็นงบประมาณจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ดังนั้น กองทุนฯนี้ควรจะหันมาช่วยพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน การสร้างชุมชนเข้มแข็ง ตลอดจนพัฒนาคนในชุมชนให้เป็นเจ้าบ้านที่ดีรู้หลักการบริการจัดการ” นางพรศิริ กล่าว

สุวิทย์ปิ๊งไอเดียจัดกีฬาเลียบฝั่งอันดามัน

ร.ท. สุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จากการตรวจเยี่ยมพื้นที่ จังหวัดกระบี่ และการติดตามโครงการภายใต้แผนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข ประจำปี 2550 ซึ่งรัฐบาลจัดสรรงบประมาณ 5,000 ล้านบาทให้ทั่วประเทศ ได้เล็งเห็นว่า จ.กระบี่มีศักยภาพที่จะใช้เป็นสถานที่จัดกีฬาระดับนานาชาติ ที่สามารถดำเนินการควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวได้ เช่น การวิ่ง หรือปั่นจักรยานเลียบฝั่งทะเล อันดามัน 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต กระบี่ และ พังงา และที่สำคัญ จังหวัดกระบี่ สามารถสร้างนักท่องเที่ยวคุณภาพ เฉพาะ(Niche Markets) การท่องเที่ยววิถีไทย และเป็นตัวอย่างของการท่องเที่ยวในประเทศด้านสุขภาพและคุณภาพที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนจังหวัดกระบี่ตลอดทั้งปี ดังนั้นจึงสั่งการให้ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการเสนอแผนงานร่วมกับ 3 จังหวัด (กระบี่ พังงา ภูเก็ต) ภายใน 30 วัน เพื่อจะเป็นแผนงานเชิงปฏิบัติในปีงบประมาณต่อไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us