|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ททท.รับหน้าเสื่อ ช่วยหาเงินเข้ากองทุนเพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย หลังหลายหน่วยงานแห่ขอใช้เงินกองทุนกันเพียบกว่า 200 โครงการ มากกว่า 400 ล้านบาท พร้อมเร่งจัดทำแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี หวั่งเป็นเบี้ยหัวแตกใช้เงินไม่ตรงจุดประสงค์
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยภายหลังการประชุม คณะอนุกรรมการจัดทำแผนยุทธศาสตร์กองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ซึ่งมี นายกิตติวัฒน์ อุชุปาละนันท์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีกำหนดยุทธศาสตร์ 3 ปี โดยจะมีการวางกรอบการใช้เงิน และ แนวทางการหาเงินเข้ากองทุนฯ โดยไม่ต้องพึ่งงบประมาณจากภาครัฐ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ได้ระดมความคิดจากคณะอนุกรรมการ ประกอบด้วยตัวแทนจากภาครัฐและเอกชน ซึ่งต่างก็เสนอข้อคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป คาดว่าการประชุมครั้งต่อไปจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
เบื้องต้นที่ประชุมเห็นว่า กองทุนดังกล่าว จะต้องมีทั้งฝ่ายหาเงิน และ ฝ่ายใช้เงิน จึงได้มอบหมายให้ ททท.ดูแลในส่วนของการหาแหล่งเงินทุนที่จะเข้ามาสมทบใน กองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย เพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นภาระให้รัฐบาลต้องมาจัดสรรงบประมาณให้อีก โดยกองทุนฯจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง เบื้องต้น ททท.มีแนวคิดว่า จะแบ่งการหาเงินออกเป็น 2 แนวทาง คือ 1. ขอเป็นเงินสดจากหน่วยงานต่างๆ มาไว้ในกองทุนฯ และ 2. คัดเลือกโครงการที่จะขอใช้เงินกองทุนฯและเป็นโครงการที่น่าสนใจ นำไปเสนอขอเงินสนับสนุนจากผู้มีอุปการคุณ(สปอร์นเซอร์) ซึ่ง ททท. รู้จักหน่วยงานในต่างประเทศหลายหน่วยงาน ที่ยินดีสนับสนุนโครงการที่มีวัตถุประสงค์ในเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ
“ปัจจุบัน เงินในกองทุนฯมีอยู่ประมาณ 400 ล้านบาท เศษ ปัจจุบันมีผู้เสนอขอใช้เงินจากกองทุนกว่า 200 โครงการ ซึ่งมีทั้งหน่วยงานส่วนท้องถิ่น , สำนักพัฒนาการท่องเที่ยว และ ททท. เองก็เสนอใช้เงินกอนทุนนี้เช่นกัน โดยแต่ละโครงการใช้เงินเฉลี่ย 1-2 ล้านบาท ดังนั้นกองทุนจะต้องมีทั้งฝ่ายอนุมัติให้ใช้เงิน และ ฝ่ายที่หาเงินเข้ากองทุนโดยไม่ต้องเป็นภาระรัฐบาล”
สำหรับการกำหนดกรอบการใช้เงินกองทุนฯ ตามแผนยุทธศาตร์ 3 ปี (พ.ศ. 2551-2553)ที่ประชุมได้เสนอแนวคิดที่หลากหลาย อาทิเช่น อนุกรรมการบางท่านเสนอให้โครงการที่จะใช้เงินกองทุนจะต้องเป็นโครงการขนาดใหญ่ เพื่อให้ได้ผลรับในการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อย่างรวดเร็ว แต่อนุกรรมการบางท่านก็เสนอว่าต้องการให้การใช้เงินกองทุนฯ เพื่อโครงการขนาดเล็กที่ลงไปพัฒนาชุมชนอย่างแท้จริง ในประการสุดท้ายนี้ ททท.ก็เห็นด้วยเช่นกัน
“ความจริงจุดประสงค์หลักของการขอใช้เงินกองทุน ก็เพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเป็นหลัก ซึ่งในโครงการขนาดใหญ่ ส่วนมากจะมีหน่วยงานรัฐคอยดูแลอยู่แล้ว และ งบประมาณก็จะเป็นงบพิเศษจากส่วนกลาง หรือไม่ก็เป็นงบประมาณจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ดังนั้น กองทุนฯนี้ควรจะหันมาช่วยพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน การสร้างชุมชนเข้มแข็ง ตลอดจนพัฒนาคนในชุมชนให้เป็นเจ้าบ้านที่ดีรู้หลักการบริการจัดการ” นางพรศิริ กล่าว
สุวิทย์ปิ๊งไอเดียจัดกีฬาเลียบฝั่งอันดามัน
ร.ท. สุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จากการตรวจเยี่ยมพื้นที่ จังหวัดกระบี่ และการติดตามโครงการภายใต้แผนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข ประจำปี 2550 ซึ่งรัฐบาลจัดสรรงบประมาณ 5,000 ล้านบาทให้ทั่วประเทศ ได้เล็งเห็นว่า จ.กระบี่มีศักยภาพที่จะใช้เป็นสถานที่จัดกีฬาระดับนานาชาติ ที่สามารถดำเนินการควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวได้ เช่น การวิ่ง หรือปั่นจักรยานเลียบฝั่งทะเล อันดามัน 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต กระบี่ และ พังงา และที่สำคัญ จังหวัดกระบี่ สามารถสร้างนักท่องเที่ยวคุณภาพ เฉพาะ(Niche Markets) การท่องเที่ยววิถีไทย และเป็นตัวอย่างของการท่องเที่ยวในประเทศด้านสุขภาพและคุณภาพที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนจังหวัดกระบี่ตลอดทั้งปี ดังนั้นจึงสั่งการให้ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการเสนอแผนงานร่วมกับ 3 จังหวัด (กระบี่ พังงา ภูเก็ต) ภายใน 30 วัน เพื่อจะเป็นแผนงานเชิงปฏิบัติในปีงบประมาณต่อไป
|
|
|
|
|