“อเมริกัน สแตนดาร์ด” ปฏิเสธข่าวควบรวม “โคเลอร์” ระบุ Bain Capital ซื้อกิจการทั่วโลกทั้ง 100% มูลค่า 1.755 พันล้านเหรียญสหรัฐ คาดกระบวนการเสร็จสิ้นภายในต.ค.นี้ ด้านผลการดำเนินงานโต 3-5% เหตุรับอานิสงส์ตลาดคอนโดฯบูม พร้อมขยายตลาดสู่ระดับกลาง-ล่าง ล่าสุดเปิดตัว “AS Cub” คลับสำหรับสถาปนิกและมัณฑนากร หวังมัดใจคนซื้อสินค้า

นายจอน ริกก์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อเมริกันสแตนดาร์ด บีแอนด์เค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวการควบรวบกิจการระหว่าง อเมริกันสแตนดาร์ดฯ และโคเลอร์ว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งผู้ที่มาซื้อกิจการของบริษัทคือ Bain Capital ซึ่งเป็นบริษัทเงินทุนเอกชนรายหนึ่ง ลงทุนในหลายธุรกิจ เช่น ดันกิ้นโดนัท และธุรกิจอื่นๆ โดยการซื้อดังกล่าวเป็นการซื้อหุ้นทั้ง 100% ทั่วโลก มูลค่ารวม 1.755 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ปัจจุบัน ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากอเมริกันสแตนดาร์ดมีสาขาหรือบริษัทในเครืออยู่ทั่วโลก ทำให้ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในแต่ละประเทศให้เรียบร้อย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ ส่วนนโยบายของบริษัทนั้น คงต้องรอให้การพิจารณาข้อกฎหมายแล้วเสร็จ หลังจากนั้นเชื่อว่าผู้ถือหุ้นใหม่จะมีนโยบายออกมาในภายหลัง

สำหรับภาวะตลาดสุขภัณฑ์ในประเทศไทย มีการชะลอตัว ซึ่งไม่ใช่เฉพาะธุรกิจนี้เท่านั้น แต่เป็นการชะลอตัวในทุกอุตสาหกรรม และเป็นการชะลอตัวของเศรษฐกิจโดยรวม ที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับตัวด้วยการขยายตลาดสู่ตลาดระดับกลาง-ล่าง ระดับราคา 2,000-4,000 บาท (โถสุขภัณฑ์) จากเดิมเน้นเฉพาะตลาดระดับกลางและระดับบน ราคาเริ่มต้นของโถสุขภัณฑ์ประมาณ 6,000 บาทขึ้นไป

ทั้งนี้ การปรับตัวดังกล่าว นับว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยมีกระแสตอบรับเข้ามาจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก โดยคาดว่าในปีนี้จะมียอดขายไม่น้อยกว่า 2,600 ล้านบาท หรือโตจากปีที่ที่ผ่านมา 3-5% จากยอดขาย 2,500 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทอเมริกันสแตนดาร์ดฯ มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 38% นอกจากนี้ยังมีการเติบโตจากโครงการที่อยู่อาศัยอีกด้วย อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากการเติบโตของประเทศเพื่อนบ้านที่บริษัทฯได้ส่งออก ได้แก่ ประเทศพม่า , กัมพูชา, มาเลเซีย และลาว ที่เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นายจอน กล่าวต่อว่า แม้ว่าตลาดอสังริมทรัพย์จะมีการชะลอตัว แต่เนื่องจากการสั่งซื้อสุขภัณฑ์หรือวัสดุอื่นๆ จะช้ากว่าเวลาขึ้นโครงการประมาณ 8-12 เดือน ดังนั้น กลุ่มสุขภัณฑ์จะได้รับผลกระทบช้ากว่าอสังหาฯ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดบ้านจัดสรรจะมีการชะลอตัว แต่ในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียมในเมืองมีการขยายตัวอย่างมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมียอดขายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากพฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่ที่เปลี่ยนมานิยมอยู่อาศัยในเมืองมากขึ้น ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางไปยังที่ทำงาน ดังนั้น บริษัทจึงได้มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับคอนโดฯออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ส่วนกรณีค่าเงินบาทแข็งค่านั้น บริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากการส่งออกส่วนใหญ่เป็นการส่งไปยังกลุ่มบริษัทของอเมริกันสแตนดาร์ดเอง การซื้อขายเป็นเงินดอลาล์หสรัฐ นอกจากนี้ในแต่ละบริษัทจะมีการบริหารต้นทุนของตัวเองเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รับผลกระทบในส่วนที่ส่งออกโดยตรงไปยังลูกค้า แต่ก็มีจำนวนน้อยมาก

ล่าสุด บริษัทอเมริกันสแตนดาร์ดฯ ได้เปิดตัว “ASคลับ” คลับสำหรับสถาปนิกและมัณฑนากรโดยเฉพาะ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสัมพันธ์อันดีกับสถาปนิกและมัณฑนากร ผู้มีอิทธิพลสูงสุดในการตัดสินใจเลือกซื้อสุขภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังเป็นช่องทางสำคัญในการให้บริการด้านข้อมูล ข่าวสาร และโปรโมชันต่าง ๆ ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ยังเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารของบริษัท ผลิตภัณฑ์ใหม่ ดีไซน์ใหม่ๆ รวมไปถึงนวัตกรรมต่างๆ ของอเมริกันสแตนดาร์ด ทั้งยังเปิดให้สถาปนิกและมัณฑนากรได้แสดงความคิดเห็น ติชม สินค้ารวมถึงบริการต่างๆ เพื่อที่บริษัทจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไป

สำหรับ ASคลับ สมาชิกผู้ถือบัตรจะได้รับข้อมูล ข่าวสาร ด้านสินค้าและงานดีไซน์ พร้อมสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ การใช้บริการศูนย์ข้อมูล ห้องประชุม พร้อมด้วยโสตทัศนูปกรณ์ที่ทันสมัย รวมทั้งอินเทอร์เน็ต Wi-Fi มุมห้องสมุดและการบริการเครื่องดื่มที่บริษัทอเมริกัน สแตนดาร์ดฯ บาธเฮ้าส์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การมีส่วนร่วมในกิจกรรมพิเศษ เช่น การชมภาพยนตร์ และการแข่งขันกีฬาที่จัดขึ้นสำหรับสมาชิกASคลับโดยเฉพาะ อีกทั้งยังได้รับส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำต่าง ๆ ที่เป็นพันธมิตรของอเมริกัน สแตนดาร์ดอีกด้วย

อีกทั้ง บริษัทอเมริกัน สแตนดาร์ดฯ ยังได้ทำการเปิด “อเมริกัน สแตนดาร์ด บาธเฮ้าส์” แฟล็กชิพ โชว์รูม ซึ่งเป็นศูนย์บริการข้อมูลและผลิตภัณฑ์ห้องน้ำครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย ตั้งอยู่ ณ ชั้น 5 โซนซี ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ มีพื้นที่ใช้สอยรวม 410 ตารางเมตร งบประมาณการตกแต่งราว 10 ล้านบาท

การเปิดอเมริกัน สแตนดาร์ด บาธเฮ้าส์ มีวัตถุประสงค์เพื่อการจัดแสดงผลิตภัณฑ์เต็มรูปแบบ พร้อมมีระบบทดสอบการใช้งานจริง และสิ่งอำนวยความสะดวกในการเลือกชมผลิตภัณฑ์ ด้วยการให้บริการด้านข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์จากพนักงานผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ทางศูนย์ฯ ยังมีห้องประชุมสำหรับสถาปนิก และมัณฑนากร ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการออกแบบห้องน้ำให้กับลูกค้า และดีไซน์ คอร์เนอร์ หรือ มุมห้องสมุดที่ประกอบไปด้วยหนังสือด้านการออกแบบตกแต่งบ้าน ห้องน้ำ และแฟชั่น จากทั่วโลก ทั้งนี้การให้บริการดังกล่าวไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

“อเมริกัน สแตนดาร์ด บาธเฮ้าส์ แห่งนี้เปรียบเสมือนแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่าสถาปนิก และกลุ่มลูกค้าที่กำลังต้องการสร้าง หรือปรับเปลี่ยนห้องน้ำ อีกทั้งยัง สามารถอัพเดทเทรนด์การตกแต่งล่าสุดเพื่อการสร้างสรรค์ห้องน้ำในฝันให้เป็นจริงได้ง่าย และสะดวกขึ้นอีกด้วย” นายจอน กล่าว