Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์6 สิงหาคม 2550
“สตาร์”ปรับทิศเร่งตลาดส่งออกสวนกระแสตลาดซบ-ค่าบาทแข็ง             
 


   
www resources

โฮมเพจ สตาร์ ซานิทารี่แวร์

   
search resources

Sanitary Wares
สตาร์ ซานิทารี่แวร์, บมจ.




สตาร์ฯ สวนกระแสอสังหาฯ ซบ หวนกลับรุกทำตลาดไทย ปรับทิศชูสุขภัณฑ์ 4 รุ่นส่งออกรุกตลาดกลาง-บน หลังเน้นส่งออกเป็นหลัก เชื่อมั่นรายได้ปีนี้ยังเติบโต บาทแข็งไม่กระทบ แม้รายได้ส่วนใหญ่มาจากการส่งออก พร้อมขยายกำลังการผลิตเท่าตัวรองรับตลาดส่งออกโต หลังแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานได้จบ

ก่อนหน้านี้ภาพของ “สตาร์” ในตลาดสุขภัณฑ์ไทยที่ผู้บริโภครับรู้มากว่า 19 ปี คือ สินค้าที่เจาะตลาดระดับกลาง-ล่าง หลายปีที่ผ่านมาสตาร์ค่อนข้างจะเงียบหายไปจากการรับรู้ของตลาด เนื่องจากหันไปให้น้ำหนักกับการส่งออกมากขึ้น และหลังจากประสบความสำเร็จในการรุกตลาดมาแล้วในหลายประเทศ ปีนี้สตาร์ประกาศความพร้อมที่จะรุกตลาดในประเทศอย่างจริงจังอีกครั้ง พร้อมๆ กับเดินหน้าทำตลาดส่งออกต่อไป เป็นการสวนกระแสแม้จะเกิดภาวะค่าเงินบาทแข็งที่กระทบภาคส่งออกอย่างรุนแรง รวมทั้งภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศที่ยังอยู่ในภาวะซบเซา

สมชัย ว่องอรุณ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสุขภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “สตาร์” กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ หันไปเน้นการทำตลาดต่างประเทศเป็นหลัก โดยเป็นสินค้ารูปแบบใหม่ที่เน้นดีไซน์ เพื่อเจาะตลาดระดับกลาง-บนเป็นหลัก ซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดีในแง่ของคุณภาพ โดยเป็นผู้ผลิตไทยที่ได้รับรองมาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์จากหลายประเทศ เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อเมริกา แคนาดา ทำให้สัดส่วนรายได้ขณะนี้มาจากการส่งออก 70% และการขายในประเทศ 30%

จากการตอบรับสินค้ารุ่นใหม่เป็นอย่างดีในตลาดต่างประเทศ ทำให้สตาร์ตัดสินใจที่จะนำสินค้ารุ่นดังกล่าวเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยด้วย โดยปรับเฉพาะระบบภายในตัวสินค้าให้สอดคล้องกับการใช้งานในประเทศไทย ในขณะที่ดีไซน์ภายนอกยังคงเดิม

ทั้งนี้จะเริ่มต้นวางจำหน่าย 4 รุ่น ได้แก่ Curve Suite, Angular Suite, Lofty Suite และ Innocence Suite เป็นการเจาะตลาดระดับกลาง-บนเป็นครั้งแรก ราคาขายเริ่มต้น 8,000-11,000 บาทต่อชุด ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน และต่ำกว่าราคาขายในต่างประเทศ เพื่อจูงใจกลุ่มเป้าหมาย โดยมีคุณภาพที่ไม่แตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่ที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน และจะมีการพัฒนาสินค้ารุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องในอนาคต

บริษัทฯ ตั้งเป้าจะเพิ่มมาร์เก็ตแชร์จาก 7% เป็น 9% ให้ได้ภายในปีหน้า โดยจะเน้นตลาดรีโนเวทที่ยังมีโอกาสขยายตัวได้ในช่วงนี้ มากกว่าตลาดลูกค้าโครงการบ้านจัดสรร ซึ่งชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ คาดว่าปีนี้ตลาดสุขภัณฑ์จะมีการเติบโตไม่เกิน 4% จากเดิม 10% ต่อปี มีมูลค่าตลาดรวม 3 ล้านชิ้นต่อปี คิดเป็น 1,000 ล้านบาท

สมชัย กล่าวว่า “การหันมาทำตลาดระดับกลาง-บนในไทย ไม่ใช่เพราะบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็ง แต่เป็นเพราะเรามั่นใจในดีไซน์และคุณภาพที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งที่เป็นผู้นำตลาดได้ และปีหน้าจะมีการปรับราคาขายขึ้นอีกประมาณ 10% เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุน หลังจากที่ไม่เคยปรับราคาขึ้นติดต่อกันกว่า 10 ปี ในด้านตลาดส่งออกยังไปได้ด้วยดี เนื่องจากอเมริกาไม่ใช่ตลาดหลักของสตาร์ แต่จะกระจายไปในหลายประเทศ จึงไม่ผูกติดกับค่าเงินดอลล่าร์ ทำให้บริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว อีกทั้งตลาดอเมริกายังนิยมฟังก์ชั่นมากกว่าความสวยงาม ซึ่งไม่ตรงกับสินค้าของสตาร์ ทำให้สินค้าจีนที่มีราคาถูกกว่าได้เปรียบ ในขณะที่ตลาดยุโรปจะชอบสินค้าที่มีดีไซน์ ทำให้เราได้เปรียบคู่แข่งมากกว่า”

สตาร์ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 300 ล้านบาท เติบโต 40% จากปี 2549 ที่มีรายได้ 210 ล้านบาท โดยมีความพร้อมที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 100% จาก 10,000 ตันต่อปีเป็น 20,000 ตันต่อปีภายในปีหน้า เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดต่างประเทศ ใช้งบลงทุน 80 ล้านบาท แม้ปัจจุบันกำลังการผลิตจะใช้ไปเพียง 70% เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งบริษัทฯ เร่งแก้ไขด้วยการจ้างแรงงานต่างด้าวแทน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us