|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
สีฟ้าเล็งแผนบเปิดร้าน เบเกอรี่ชอป พร้อมรุกตลาดอาหารพร้อมปรุง ประเดิมทดลองตลาดสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ หวังศึกษารายละเอียด เร่งเครื่องรีโนเวตสาขาเก่า เพื่อขยายฐานสู่กลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ มากขึ้น เผยบริการดีลิเวอรี่ยอดพุ่งเติบโต 20%
นายกร รัชไชยบุญ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ห้องอาหารสีฟ้า จำกัด เปิดเผยว่า ทางกลุ่มสีฟ้ามีแผนที่จะขยายธุรกิจด้วยการเปิดร้านซิงเกิลชอป (Single Shop) ประเภทเบเกอรี่ ซึ่งมีแนวคิดที่จะจำหน่ายเฉพาะเบเกอรี่ เค้ก ขนม เครื่องดื่ม ไอศกรีม เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ได้ร่างแผนงานคร่าวๆไว้แล้วและอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อเสนอให้กับผู้บริหารระดับสูงของสีฟ้า อย่างไรก็ตามเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น ส่วนจะเริ่มเมื่อไรนั้นยังไม่สามารถตอบได้
ทั้งนี้สีฟ้าได้เริ่มทดลองบ้างแล้ว โดยใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งของร้านสีฟ้าสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ที่เพิ่งรีโนเวทเสร็จ มาเป็นพื้นที่จำหน่ายเบเกอรี่ ดังกล่าว ขณะเดียวกันก็มีเคานต์เตอร์จำหน่ายเล็กๆอยู่ที่โรงพยาบาลเทพธารินทร์แต่ไม่มีชื่อร้านเป็นเพียงมุมบริการเท่านั้น ซึ่งเปิดบริการมาได้ระยะหนึ่งแล้ว และได้รับการตอบรับค่อนข้างดี
นอกจากนั้นแล้วยังเริ่มทดลองทำตลาดผลิตภัณฑ์ประเภท อาหารพร้อมปรุงกึ่งสำเร็จรูป (Seefah Ready to cook) ซึ่งเริ่มจำหน่ายที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ที่เดียวเช่นกัน โดยคัดเฉพาะเมนูที่ปรุงได้สะดวกด้วยตัวเองเช่น ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลา เกี๊ยวปลา บะหมี่สีฟ้า เป็นต้น เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อีกรูปแบบหนึ่ง และมีแผนที่จะขยายไปยังสาขาอื่นๆเช่นกัน
ปัจจุบันกลุ่มสีฟ้ามีร้านอาหารหลายแบรนด์ ร้านสีฟ้า, รานบลูสไฟซ์ อาหารนานาชาติ มี 6 แห่งให้บริการ, ร้านอ่มไทยนูเดิ้ลบาร์ มีสาขาที่คิวเฮ้าส์ลุมพินี, ร้านบลูไลท์บายสีฟ้าเป็นคีออสที่เซ็นทรัลฟู้ดฮอล์ ที่ชิดลมและเซ็นทรัลเวิลด์
สำหรับการลงทุนในปีนี้มีแผนที่จะขยายสาขาใหม่ต่อเนื่อง โดยเปิดไปแล้วที่แฟชั่นไอส์แลนด์ และเตรียมที่จะเปิดอีกที่ศูนย์การค้าดิเอสพละนาด รัชดาภิเษก และศูนย์เดอะคริสตัล ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ด้วยงบลงทุนรวมประมาณ 15-20 ล้านบาท ปัจจุบันสีฟ้ามีสาขารวมทั้งสิ้น 18 แห่ง อยู่ในกรุงเทพทั้งหมด และยังไม่มีแผนขยายสาขาในต่างจังหวัดรวมทั้งไม่มีนโยบายขายแฟรนไชส์ด้วย เป็นการลงทุนเองทั้งหมด
ส่วนสาขาเก่าที่ได้ทำการรีโนเวตแล้วคือที่ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์และสาขาราชดำริ และเตรียมที่จะทยอยรีโนเวตเพิ่มให้ครบทุกแห่ง สาขาต่อไปเช่น สาขาตึกธนิยะ สยามสแควร์ เป็นต้น คาดว่าจะใช้งบรีโนเวทแต่ละสาขาเฉลี่ย 2 ล้านบาท และใช้งบประมาณรีโนเวททุกสาขารวมประมาณ 30 ล้านบาท โดยรูปแบบใหม่จะมีความทันสมัยในแต่ละสาขาแตกต่างกันไป แต่ยังคงคอนเซ็ปท์ความเป็นสีฟ้า มีกลิ่นอายย้อนยุค
หลังจากที่ได้เปิดบริการสาขาที่ผ่านการรีโนเวตไปแล้วพบว่า มีลูกค้ากลุ่มใหม่ๆเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นเช่น วัยรุ่น และคนอายุต่ำกว่า 30 ปีลงมา แต่ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าใหญ่ยังคงเป็นครอบครัว คนทำงาน และคนอายุ 30 ปีขึ้นไป โดยมีระดับการใช้จ่ายเฉลี่ย 120-150 บาทต่อคนต่อครั้ง
ส่วนบริการดีลิเวอรี่นั้น ปัจจุบันได้เปิดบริการเพียง 6 สาขาคือที่ สาขาราชดำริ ธนิยะ เสนา แจ้งวัฒนะ ทองหล่อ ประชาชื่น และดิเอสพละนาดก็จะมีบริการดีลิเวอรี่ด้วย โดยใช้เบอร์ 02-800-80-80
ทั้งนี้ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และคาดว่าปีนี้ทั้ง0ปีจะเติบโต 3-5% โดยมียอดขายปีที่แล้วมากกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งแบ่งสัดส่วนรายได้มาจากช่องทางดังนี้ บริการในร้านอาหาร 80% ดีลิเวอรี่ 10% อื่นๆเช่น แคเธอริ่ง ชุดปิ่นโต เป็นต้น 10% โดยเมื่อเร็วๆนี้ได้ปิดสาขาที่ซีคอนสแควร์ หลังจากเปิดบริการมานานพร้อมกับศูนย์การค้า เพราะผลประกอบการไม่ค่อยดี
“ในช่วงที่ผ่านมา จากสภาพเศรษฐกิจสังคมและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้ปีที่ผ่านมาบริการสีฟ้าดีลิเวอรี่มีการเติบโตขึ้นประมาณ 10-20% มีลูกค้าทั้งในกลุ่มออฟฟิศบิวดิ้ง 60% ลูกค้ากลุ่มหมู่บ้าน คอนโดมิเนียม หอพักต่างๆ 40%”
นายกรกล่าวต่อว่า ในปีหน้าร้านสีฟ้าจะครบรอบปีที่ 72 จะมีการจัดกิจกรรมรวมทั้งโปรโมชั่นต่างๆมากมาย มีเป้าหมายที่จะสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เพื่อต้องการตอกย้ำให้ผู้บริโภครู้ถึงความเป็นร้านอาหารที่อยู่มานาน แต่มีการปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมกับยุคสมัย แต่ยังคงคุณค่าและคุณภาพของอาหารและบริการตลอดมา และหวังขยายฐานตลาดมากขึ้น เช่น นักชิมรุ่นใหม่ นักเรียน นักศึกษา
“ธุรกิจร้านอาหารถือว่ามีการแข่งขันที่รุนแรง มีร้านอาหารดั้งเดิมและร้านใหม่เกิดขึ้นหลากหลายรูปแบบ ในขณะที่กลุ่มผู้บริโภคก็มีไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไปจากเดิม มีการรับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มขึ้น โดยเลือกรับประทานจากร้านอาหารที่มีคุณภาพมากขึ้น”
|
|
|
|
|