Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน2 สิงหาคม 2550
ทุนฮ่องกงขอซื้อหุ้นแสนสิริเพิ่ม30ล.หุ้น             
 


   
www resources

โฮมเพจ แสนสิริ

   
search resources

แสนสิริ, บมจ.
เสริมสิน สมะลาภา
Real Estate




กลุ่มทุนฮ่องกง "อัลลิน่า ซาลิม" ขอซื้อหุ้นแสนสิริจากเอ็นพาร์ค เพิ่มอีก 30 ล้านหุ้น เป็น 330 ล้านหุ้นหรือ 22% กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ระบุอยู่ระหว่างตกลงราคาซื้อ-ขาย ด้านแสนสิริระบุไม่กระทบแผนดำเนินงาน เหตุผู้ถือหุ้นรายใหม่จะไม่เข้ามามีส่วนในการบริหารงาน

นายเสริมสิน สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แนเชอรัลพาร์ค จำกัด หรือ N-Prak ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงเรื่องความคืบหน้าในการขายหุ้นของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ให้แก่นักลงทุนต่างประเทศ ตามแนวทางการแก้ไขปัญหาการชำระหนี้สถาบันการเงิน เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา บริษัทได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า จะขายหุ้นสามัญของบริษัท แสนสิริฯ จำนวน 300 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.09 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 927 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาปิดเฉลี่ย 90 วันทำการย้อนหลังนับจากวันทำรายการซื้อขาย ให้แก่กลุ่มนักลงทุนจากฮ่องกง นำโดยดร. อัลลิน่า ซาลิม (Dr. Allina Salim) โดยแบ่งการขายออกเป็น 2 ส่วน โดยเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้ขายหุ้นส่วนที่ 1 จำนวน 205 ล้านหุ้น ไปแล้ว

สำหรับการขายหุ้นส่วนที่ 2 จำนวน 95 ล้านหุ้น ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาการซื้อขายภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2550 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า กลุ่มทุนฮ่องกงได้ขอขยายเวลาซื้อออกไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากผู้ซื้อต้องการที่จะซื้อหุ้น แสนสิริส่วนที่ 2 เพิ่มเติมอีก 30 ล้านหุ้น จาก 95 ล้านหุ้น รวมเพิ่มเป็น 125 ล้านหุ้น ซึ่งหากผู้ซื้อและบริษัทสามารถตกลงราคาซื้อขายและเงื่อนไขอื่นๆ ได้ กลุ่มทุนฮ่องกงจะซื้อหุ้นของแสนสิริ ในส่วนที่ 2 จำนวนรวม 125 ล้านหุ้นในคราวเดียว ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้

แหล่งข่าวจาก N-Prak เปิดเผยว่า เดิมหุ้นในส่วนที่สองได้ตกลงซื้อขายกันในราคาเดียวกับส่วนแรก คือ 3.09 บาท/หุ้น แต่เนื่องจากกลุ่มทุน ดร.อัลลิน่า ต้องการซื้อหุ้นของแสนสิริเพิ่มอีก 30 ล้านหุ้น จึงขอตกลงซื้อขายกันใหม่ ทั้งในเรื่องของเงื่อนไข และราคา คาดว่าจะมีข้อสรุปในเร็วๆนี้ และหากสามารถตกลงซื้อขายกันได้ ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มทุน ดร.อัลลิน่า กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 330 ล้านหุ้น หรือประมาณ 22% ส่วนอันดับที่ 2 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือ 233.6 ล้านหุ้น หรือ 15.66%

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้แสนสิริฯ ได้ระบุว่า การเข้ามาถือหุ้นของกลุ่ม ดร.อัลลิน่า จะไม่ส่งผลกระทบหรือมีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่จะไม่เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารงานแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาแสนสิริ ได้ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 12,610 ล้านบาท จากเดิม 6,628 ล้านบาท ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการบริษัท แสนสิริ ฯ มีแผนซื้อหุ้นเพิ่มทุนของแสนสิริ เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจากที่ถืออยู่ 0.06% เป็น 24% คาดว่าจะใช้เม็ดเงินประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท ดังนั้นแสนสิริฯจึงได้ขออนุมัติจากคณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกวอร์แรนต์ จัดสรรให้แก่นายเศรษฐาเพียงคนเดียว แต่การออกวอร์แรนต์ดังกล่าวเป็นการเข้าข่ายจัดสรรหุ้น ESOP หรือหุ้นที่ออกให้แก่ผู้บริหาร กรรมการหรือพนักงานของบริษัท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างก.ล.ต.พิจารณาอนุมัติ หากก.ล.ต.อนุมัติจะทำให้นายเศรษฐาขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทันที   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us