ผลสำรวจการเปิดตัวโครงการใหม่เดือนมิ.ย. เปิดตัวเพิ่ม 31 โครงการ มูลค่ารวม 14,948 ล้านบาท เผยคอนโดมิเนียมยังคงความนิยม ยอดเปิดตัวสูงถึง 2,107 หน่วย ตามด้วยทาวน์เฮาส์ 1,717 หน่วย และบ้านเดี่ยว 1,015 หน่วย
บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอร์แฟร์ส จำกัด สำรวจการเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ประจำเดือนมิ.ย.2550 พบว่ามีโครงการเกิดใหม่ 31 โครงการ เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา 4 โครงการ เป็นการพัฒนาในรูปแบบที่อยู่อาศัย 28 โครงการ และประเภทอื่น 3 โครงการ
ในจำนวน 31 โครงการ มีจำนวนรวม 5,620 หน่วย มีมูลค่ารวม 14,948 ล้านบาท ประกอบด้วย ที่อยู่อาศัย 5,218 หน่วย หรือประมาณ 93% โดยอาคารชุดยังคงเปิดตัวสูงอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยมีหน่วยขายถึง 2,107 หน่วย หรือประมาณ 38% ของจำนวนหน่วยขายทั้งหมด แต่มีจำนวนหน่วยลดลงจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน 1,334 หน่วย ซึ่งเดือนที่ผ่านมามีจำนวน 3,441 หน่วย หรือลดลง 39%
รองลงมาคือทาวน์เฮาส์มีหน่วยขายจำนวน 1,717 หน่วย หรือประมาณ 31% อันดับ 3 คือบ้านเดี่ยวมีหน่วยขาย 1,015 หน่วย หรือประมาณ 18% โดยพบว่าในเดือนนี้มีการลงทุนทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการหันไปสร้างคอนโดมิเนียมจำนวนมาก ทำให้สินค้าประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์มีขายน้อยลง ขณะที่ยังความต้องการเช่นเดิม
หากพิจารณาแง่มูลค่ารวม 14,948 ล้านบาท พบว่ามีมูลค่าสูงกว่าเดือนที่ผ่านมา 690 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5% แต่มีจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายลดลง 124 หน่วย หรือลดลง 2% และในเดือนนี้ก็ยังคงมีลักษณะการพัฒนาใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมาคือมีการเปิดตัวอาคารชุดระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทมากขึ้น โดยมีหน่วยขายในกลุ่มนี้มากถึง 43% ของจำนวนอาคารชุดที่เปิดขายในเดือนนี้ทั้งหมด คิดเป็น 909 หน่วย จากทั้งหมด 2,107 หน่วย
โดยอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุดคืออสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักผ่อน ได้แก่ วิลล่า และอาคารชุดตากอากาศ ซึ่งมีระดับราคาสูง มีมูลค่าการพัฒนา 3,875 ล้านบาท หรือ 25% รองลงมาคืออาคารชุดพักอาศัย ซึ่งมีมูลค่า 3,559 ล้านบาท หรือ 24% ของ และอันดับ 3 คือบ้านเดี่ยวมีมูลค่า 3,423 ล้านบาท หรือ 23%
โดยอาคารชุดที่เปิดใหม่จำนวน 96% ของการเปิดขายทั้งหมดเป็นอาคารชุดที่มีระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ส่วนบ้านเดี่ยวที่เปิด 86% เป็นอาคารชุดที่มีระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท
หากพิจารณาถึงมูลค่าโครงการโดยรวมจะสูงกว่าเดือนพ.ค.เล็กน้อย และมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยสูงกว่าเล็กน้อยเช่นกัน เนื่องจากการพัฒนาจะมีลักษณะใกล้เคียงกัน คือมีจำนวนหน่วยขายที่มีระดับไม่ราคาเกิน 3 ล้านบาท สูงถึง 81% ของหน่วยขายทั้งหมด แต่มีมูลค่าเพียง 52% ของมูลค่าทั้งหมด
สำหรับราคาขายเฉลี่ยของเดือนนี้จะมีราคาสูงกว่าเดือนก่อน โดยมีราคาขายเฉลี่ย 2.66 ล้านบาทต่อหน่วย สูงกว่าเดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยที่ 2.48 ล้านบาทต่อหน่วย และพบว่าไม่มีหน่วยขายใหม่ที่มีราคาต่ำกว่า 500,000 บาทเลย และระดับราคาที่มีจำนวนหน่วยขายมากที่สุดจะอยู่ที่ระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายมากถึง 3,369 หน่วย หรือ 60% ของหน่วยขายทั้งหมด ที่ระดับราคา 2-3 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขาย 1,186 หน่วย หรือ 21% ที่ระดับราคา 3-5 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขาย 740 หน่วย หรือ 13% ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 5% จะเป็นหน่วยขายที่มีระดับราคาเกิน 5 ล้านบาทขึ้นไป
โดยรวมแล้วจะพบว่ามีจำนวนหน่วยขายที่ระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขาย มากที่สุด แต่มีมูลค่ารวมกันสูงเพียง 41% ของมูลค่าทั้งหมด หรือ 4,645 ล้านบาท จากมูลค่ารวม 14,948 ล้านบาท ที่ระดับราคา 2-3 ล้านบาท มีมูลค่า 21% หรือ 3,191 ล้านบาท ส่วนมูลค่าที่ระดับราคา 3-5 ล้านบาท มีมูลค่ารวมกัน19% หรือ 2,791 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 29% เป็นหน่วยขายที่มีราคาเกิน 5 ล้านบาท ซึ่งมีอยู่เพียง 325 หน่วย หรือ 5% เท่านั้น แต่มีมูลค่าโครงการสูงถึง 29% คิดเป็น 4,322 ล้านบาท ซึ่งราคาขายเฉลี่ยของหน่วยขายที่มีระดับราคาเกิน 5 ล้านบาทขึ้นไปมีราคาเฉลี่ยต่อหน่วยสูงถึง 13.29 ล้านบาท ซึ่งราคาขายเฉลี่ยจะสูงกว่าเดือนที่ผ่านมาถึง 45% ซึ่งเดือนก่อนราคาเฉลี่ยที่ 9.7 ล้านบาท
เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ พบว่าเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์เพียง 5 บริษัท คือ เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง ,แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ ,ปรีชา กรุ๊ป,ปริญสิริ และควอลิตี้ เฮ้าส์ รวมถึงบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ด้วย
|