“ทัศพล”เดินสายแจงสัดส่วนหุ้น ไม่มีการเมืองเกี่ยวข้องหลังซื้อหุ้นคืนจาก เอเชีย เอวิเอชั่นคืนหมดแล้ว พร้อมให้ความร่วมมือ ส่งข้อมูลให้ตรวจสอบ ชี้ธุรกิจไม่กระทบยังโตต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจ “สรรเสริญ”ยันให้ความเป็นธรรม

นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันที่ 26 ก.ค. 2550 ที่ผ่านมานายทัศพล แบเลเวลล์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย ได้เข้าพบและชี้แจงถึงสัดส่วนหุ้นในบริษัทไทยแอร์เอเชีย ซึ่งในส่วนของกระทรวงคมนาคมนั้นได้ยืนยันกับไทยแอร์เอเชียชัดเจนว่า จะดำเนินการตามข้อเท็จจริง

โดยในขณะนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบซึ่งหากผลการตรวจสอบเป็นอย่างไรก็ต้องดำเนินการไปตามข้อเท็จจริง และเป็นธรรมซึ่งหากบริษัทผิดก็ต้องถูกปรับตามกฎหมาย

“ไทยแอร์เอเชียไม่ได้ติดใจหรือต้องการร้องเรียนใดๆ เพราะทราบถึงขั้นตอนกระบวนการการพิจารณาของเรื่องนี้ดี และพร้อมจะถูกลงโทษหากพบว่า มีความผิดจริง”นายสรรเสริญกล่าว

ด้านนายทัศพล แบเลเวลล์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชียกล่าวว่า ตนได้ชี้แจงว่า ได้มีการซื้อหุ้นของบริษัทเอเชีย เอวิเอชั่นคืนมาทั้งหมดแล้ว และขณะนี้ ไทยแอร์เอเชียไม่มีการเมืองเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

โดยพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ที่ตรงกัน ส่วนกรณีที่ถูกสอบสวนก่อนหน้านี้หากมีข้อสรุปว่าบริษัทผิด ก็พร้อมที่จะถูกปรับ ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนได้เข้าพบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแล้วเช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ บีโอไอ กรมการขนส่งทางอากาศ ฯลฯ

“ผมต้องการให้เรื่องนี้จบเร็วๆ เพราะจะได้ไม่เกิดข้อสงสัยใดๆ อีก ซึ่งเมื่อมีการซื้อหุ้นจาก บริษัทเอเชีย เอวิเอชั่นคืนมาทั้งหมดแล้ว ทำให้มั่นใจว่าบริษัท ดำเนินการได้ถูกต้อง แต่สิ่งที่ต้องการคือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมายืนยันด้วย”นายทัศพลกล่าว

นายทัศพลกล่าวถึงธุรกิจการบินของไทยแอร์เอเชียว่า แม้กระบวนการตรวจสอบเรื่องหุ้นของบริษัทยังไม่เรียบร้อย แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทซึ่งเป็นสายการบินราคาถูก (โลว์คอสต์แอร์ไลน์) เพราะการเดินทางโดยเครื่องบินขึ้นกับภาวะทางเศรษฐกิจและการทำตลาดของแต่ละสายการบิน ซึ่งจำนวนผู้โดยสารของไทยแอร์เอเชียยังเติบโตตามเป้า โดยคาดว่าในปี 2550 จะมีผู้โดยสารประมาณ 4.2 ล้านคน จากปี ก่อนที่มีจำนวนผู้โดยสารประมาณ 3 ล้านคน โดยในปี 2551-52 จะขยายตลาดการบิน โดยเปิดจุดบินที่ประเทศจีนเพิ่มอีก 4-5 เมือง โดยจะใช้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินหลักเพียงแห่งเดียว

สำหรับการตรวจสอบบริษัทไทยแอร์เอเชียนั้น กรมการขนส่งทางอากาศ(ขอ.) ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์และยังไม่ได้คำตอบว่าไทยแอร์เอเซียเป็นนอมินีหรือไม่ ซึ่งระหว่างรอคำตอบจากกระทรวงพาณิชย์ ทางขอ.ไม่มีสิทธิ์สั่งให้ไทยแอร์เอเซียหยุดบิน ส่วนในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นและทางไทยแอร์เอเซียไม่ได้ขอใบอนุญาตเข้ามา ก่อนหน้านี้ ทาง ขอ.ได้แจ้งความดำเนินคดีที่สน.ดอนเมืองไปแล้ว ซึ่งขั้นตอนการดำเนินการอยู่ระหว่างการส่งเรื่องให้อัยการเพื่อใช้ดำเนินคดีฟ้องร้องในขั้นศาลต่อไป