เมืองไทยประกันชีวิตประกาศผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก มีเบี้ยประกันรวม 6,537 ล้าน เติบโต 38% โดยส่วนใหญ่ยังเป็นการขายผ่านตัวแทนในจำนวน 3,435 ล้าน เติบโต 11% ยันเป็นการเติบโตอย่างมั่นใจและยั่งยืน พร้อมจับมือพันธมิตรเดินหน้ารุกธุรกิจต่อ แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนของปีว่า บริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 619 ล้านบาท โดยบริษัทมีเบี้ยประกันรวมสูงถึง 6,537 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเบี้ยประกันภัยรวม 4,729 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นประกันผ่านตัวแทน 3,435 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผ่านธนาคาร 2,124 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 176%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผ่านพันธมิตรอื่น 550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเป็นส่วนของประกันภัยกลุ่ม 428 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นตามนโยบายการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพื่อให้บริษัทมีความเจริญก้าวหน้าและเติบโตในธุรกิจได้อย่างภาคภูมิและจากรากฐานของธุรกิจประกันชีวิตที่แท้จริง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้บริษัทเติบโตท่ามกลางสภาวะทางเศรษฐกิจที่ผันผวนอย่างในปัจจุบันได้ ประกอบกับนโยบายด้านการตลาดเชิงรุกที่ยึดมั่นในนโยบาย Multi Distribution Channel, Multi-market ที่ผ่านมา และยังได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนการขายประกันผ่านธนาคารกสิกรไทยทั่วประเทศที่นับเป็นช่องทางการจำหน่ายที่สำคัญอีกช่องทางหนึ่งรองจากตัวแทนที่เป็นช่องทางหลัก
ขณะเดียวกันบริษัทได้พัฒนามาตรฐานในการกำกับดูแลการบริหารงานให้มีมาตรฐานสูงกว่าธุรกิจประกันชีวิตโดยทั่วไป จะเห็นได้จากการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคอยกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งในด้านของความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่งจากการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพส่งผลให้บริษัทฯ มีการเติบโตและแข็งแกร่ง ด้วยเงินกองทุนสูงถึง 5,477 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่กรมการประกันภัยกำหนดถึง 8 เท่า และเทียบเท่ากับ 248 % ของมาตรฐานการดำรงเงินกองทุนในดำเนินงานธุรกิจประกันชีวิตของสหภาพยุโรปหรือ EU Standard และมีสินทรัพย์รวม 42,704 ล้านบาท เงินสำรอง 35,362 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2550
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจมากมายในการจัดกิจกรรมเชิงกลยุทธ์มาใช้ในการบริหารงาน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบริษัทกับผู้เอาประกัน ได้แก่การจัดตั้ง “เมืองไทย Smile Club” เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า โดยเลือกสรรกิจกรรมที่หลากหลาย สนุกสนานและเข้าถึงชีวิตประจำวันของผู้เอาประกันครบทุกไลฟ์สไตล์ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไม่เพียงแต่เฉพาะกรุงเทพฯเท่านั้น โดยเชิญชวนผู้เอาประกันสมัครเข้าเป็นสมาชิกเพื่อรับสิทธิพิเศษในการร่วมกิจกรรมอันแสนสนุกในทุกรูปแบบ ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 100,000 รายทั่วประเทศ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการแล้วเป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปี
"นับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาบริษัทได้จับมือกับพันธมิตรใหม่ และจัดตั้งคณะทำงานเพื่อพัฒนาช่องทางการขายเหล่านั้นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความเหมาะสมกับแต่ละช่องทางเพื่อเหมาะสมกับความต้องการและกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่มและจะเป็นประโยชน์อย่างสูงสุด โดยบริษัทยังได้มองหาพันธมิตรใหม่ๆ ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้นและพร้อมเป็นผู้นำแห่งการสร้างพันธมิตรการขายในหลายหลากช่องทางของธุรกิจ"นายสาระกล่าว
|