Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 กรกฎาคม 2550
คลังโวมิ.ย.ปรับหนี้ตปท.ฉลุยคืนเจบิกเร็วขึ้น-ลดดอกเบี้ย1.8พันล้าน             
 


   
www resources

โฮมเพจ กระทรวงการคลัง

   
search resources

กระทรวงการคลัง
Economics




สบน.โชว์ฝีมือปรับโครงสร้างหนี้เดือน มิ.ย.50 จ่ายหนี้คืนเจบิกก่อนกำหนดกว่าหมื่นล้านบาท ลดภาระดอกเบี้ยได้กว่า 1.8 พันล้านบาท ขณะที่ 9 เดือนแรกของปีงบฯ สามารถลดยอดหนี้คงค้าง 2.8 หมื่นล้านบาท ลดภาระดอกเบี้ย 2.3 พันล้านบาท เผยภาครัฐก่อหนี้รวม 1.9 แสนล้านบาท ดันหนี้สาธารณะเพิ่มเล็กน้อยมาอยู่ที่ 38.24% ของจีดีพี

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า การดำเนินการบริหารจัดการหนี้ของภาครัฐประจำเดือนมิถุนายน 2550 และในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2550 โดยการปรับโครงสร้างหนี้ของภาครัฐในเดือนมิถุนายน 2550 ด้านต่างประเทศกระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (Japan Bank for International Cooperation : JBIC) โดยการชำระคืนก่อนครบกำหนด วงเงิน 35,762 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 10,183 ล้านบาท ทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้ 10,183 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยในอนาคตได้ 1,805 ล้านบาท

ส่วนในประเทศ กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้โดยการแปลงตั๋วเงินคลังเป็นพันธบัตร 10,000 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้ Roll over หนี้เดิมรวม 1,000 ล้านบาท

ขณะที่ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2550 ด้านต่างประเทศ กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ต่างประเทศโดยชำระคืนก่อนครบกำหนด 28,890 ล้านบาท และ Refinance เงินกู้ต่างประเทศด้วยเงินบาท 17,200 ล้านบาท ผลจากการดำเนินการดังกล่าวทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้รวม 28,890 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยได้รวม 2,370 ล้านบาท

นอกจากนี้ได้บริหารความเสี่ยงหนี้เงินกู้ FRNs และหนี้เงินกู้ Samurai Bond โดยการซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า วงเงิน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 48,000 ล้านเยน ตามลำดับ สำหรับ รัฐวิสาหกิจ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ต่างประเทศวงเงินรวม 14,920 ล้านบาท ด้านในประเทศกระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศโดยการแปลงตั๋วเงินคลังที่ออกเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 73,000 ล้านบาท เป็นพันธบัตร และปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรและตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ FIDF1 วงเงิน 45,000 ล้านบาท ส่วนรัฐวิสาหกิจได้ Roll overหนี้เดิม 17,601 ล้านบาท

ส่วนการกู้เงินของภาครัฐในเดือนมิถุนายน 2550 กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศโดยการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์เพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง (FIDF3) 500 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพได้กู้เงินในประเทศเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการชำระค่าน้ำมัน 11,556 ล้านบาท

และในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2550 ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 193,234 ล้านบาท เป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 162,160 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 31,074 ล้านบาท นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินจากต่างประเทศ 31,803 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้นอกแผนการก่อหนี้ต่างประเทศ

ขณะที่การชำระหนี้ของภาครัฐในเดือนมิถุนายน 2550 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณ 14,586 ล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้น 10,555 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 4,031 ล้านบาท และในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2550 กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากงบประมาณรวม 109,019 ล้านบาท

สถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2550 ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2550 มีจำนวน 3,211,592 ล้านบาท หรือ 38.24% ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,065,656 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 883,613 ล้านบาท หนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 216,607 ล้านบาท และหนี้องค์กรของรัฐอื่น 45,716 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 10,093 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้น 19,525 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 3,863 ล้านบาท และ 5,569 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนหนี้องค์กรของรัฐอื่นไม่มีการเปลี่ยนแปลง

หนี้สาธารณะจำแนกได้เป็นหนี้ต่างประเทศ 415,773 ล้านบาท หรือ 12.95% และหนี้ในประเทศ2,795,819 ล้านบาท หรือ 87.05% และเป็นหนี้ระยะยาว 2,790,332 ล้านบาท หรือ 86.88% และหนี้ระยะสั้น 421,260 ล้านบาท หรือ 13.12% ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us