วานนี้ (9 เม.ย.) เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้เรียกประชุมเจ้าหนี้ของบริษัท มีเดีย
ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน)(MEDIAS) เพื่อลงคะแนนเสียงการแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการ
โดยเจ้าหนี้โหวตเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 71.08% ของมูลหนี้ทั้งหมดจำนวน 319 ล้านบาท
จากเจ้าหนี้ที่ร่วมประชุม 54 ราย ซึ่งผลประชุมเจ้าหนี้ดังกล่าวจะเสนอต่อศาลล้มละลายกลางเพื่ออนุมัติในวันที่
21 เม.ย.นี้
นายโฆสิต สุวินิจจิต ประธานกรรมการ บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน)
กล่าวถึงรายละเอียดของการขอแก้ไขแผนฟื้นฟูฯว่า บริษัทฯจะเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 137.07
ล้านหุ้น มูลค่าตราไว้ 4 บาท หรือคิดเป็น 548 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีก 191 ล้านหุ้น
พาร์ 4 บาท หรือมูลค่า 764 ล้านบาท ทำให้มีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 328.07 ล้านหุ้น
หรือมูลค่า 1,312.29 ล้านบาท
โดยหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวจะเสนอขายให้กับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งหมด คือ บริษัท กสม
จำกัด ในเครือบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์สีช่อง
7 เข้ามาถือหุ้นใหญ่คิดเป็นสัดส่วน 58%
เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนดังกล่าว จะนำไปชำระคืนหนี้ให้เจ้าหนี้สถาบันการเงินประมาณ
220 ล้านบาท โดยมีบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ไอเอฟซีที)เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่
ซึ่งแผนฟื้นฟูเดิมจะมีการทะยอยชำระหนี้ภายใน 10 ปี หากเจ้าหนี้รายใดต้องการให้ชำระหนี้ก่อนกำหนด
การชำระหนี้จะคิดตามมูลค่าปัจจุบันของหนี้ โดยใช้อัตราส่วนลดที่อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดของลูกหนี้ชั้นดี
(MLR) ณ วันที่ชำระหนี้ คาดว่าจะทำให้บริษัทมีหนี้เหลือน้อยมาก
นอกจากนี้ บริษัทฯจะนำไปเป็นทุนหมุนเวียนและปรับปรุงอุปกรณ์จำนวน 60 ล้านบาท และลงทุนในเขาเขียวคันทรีคลับ
จำนวน 484 ล้านบาท ซึ่งทำสนามกอล์ฟ โดยจะมีพื้นที่บางส่วนพัฒนาเป็นมีเดีย สตูดิโอ
ซิตี้ เพื่อผลิตรายการต่างๆ ป้อนให้กับสถานีวิทยุแบบครบวงจร ซึ่งในอนาคตจะต้องมีการลงทุนเพิ่ม
โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงิน
การเข้าไปลงทุนในธุรกิจสนามกอล์ฟที่เขาเขียวคันทรีคลับ จังหวัดชลบุรี เนื่องจากเห็นว่าสนามกอล์ฟเป็นธุรกิจที่ไปได้ดี
และมีโลเกชั่นเหมาะสมที่จะนำสตูดิโอ เพราะการเดินทางสะดวก ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
เป็นต้น
“การเข้ามาถือหุ้นของบริษัทกสม เป็นการตัดสินใจเข้ามาลงทุนระยะยาว เพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจครบวงจร
แม้ว่าจะถือหุ้นใหญ่ แต่จะไม่เข้ามาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารงานที่ยังมีผมและคุณยุวดี
(บุญครอง) ยังเป็นผู้บริหารอยู่ ซึ่งบริษัทยังคงจุดยืนที่จะผลิตรายการป้อนให้กับทุกสถานีโทรทัศน์
จากปัจจุบันที่เราผลิตรายการให้กับทางช่อง 5 และช่อง 9 ”
นายโฆสิต กล่าวต่อว่า บริษัทฯคาดว่าจะดำเนินการเพิ่มทุนได้ภายหลังจากศาลมีคำสั่งเห็นชอบตามมติที่ประชุมเจ้าหนี้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา บริษัทสามารถบริหารงานได้ดีกว่าแผนฟื้นฟูที่กำหนดเอาไว้
เนื่องจากแนวโน้มของธุรกิจบันเทิง ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยปีนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถทำกำไรได้
ส่วนการจะยื่นขอปลดเครื่องหมาย SP เพื่อให้มีการซื้อขายหุ้น และการย้ายกลุ่มการซื้อขายจากปัจจุบันที่อยู่ในหมวดของบริษัทรีแฮปโก้ก็ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ใหม่ของตลาดหลักทรัพย์
ที่คาดว่าจะต้องใช้เวลาพอสมควร
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ กล่าวว่า การขายหุ้นเพิ่มทุนของMEDIAS ให้บริษัทในเครือช่อง
7 เข้ามาถือหุ้นใหญ่ 58% น่าจะส่งผลดีต่อบริษัท หากบริษัททำรายการป้อนให้ช่อง 7
ทำให้มีรายได้จากค่าโฆษณาที่น่าจะสูงขึ้น จากปัจจุบันที่บริษัทผลิตรายการให้กับช่อง
5 และช่อง 9
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่จะเล่นหุ้น MEDIAS คงต้องรอดูผลอีกระยะหนึ่งก่อนตัดสินใจ
แต่ในระยะสั้นยังไม่น่าลงทุนเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มบันเทิงอื่นๆที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งกว่า
ทั้งนี้ ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูของบริษัท มีเดีย ออฟ
มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่15 มกราคม 2545 โดยผลการดำเนินงานงวดปี 2545
บริษัทมีกำไรสุทธิ 480.32 ล้านบาทดีขึ้นเมื่อเทียบจากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 139.03
ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 4.90 บาท ดีกว่าปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 5.35
บาท
สาเหตุที่กำไรเพิ่มสูงขึ้นเป็นผลจากการปรับโครงสร้างหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ และจากการขยายตัวสูงขึ้นของอุตสาหกรรมโฆษณา
เติบโตจากปีก่อนจำนวน 152.84 ล้านบาทคิดเป็น 60.8% เนื่องจากการขยายตัวของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสื่อ
และจากการผลิตรายการเพิ่มขึ้น และการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมจำนวน
47.53 ล้านบาท
บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 487.16 ล้านบาท ซึ่งมาจากการแปลงหนี้เป็นทุนจำนวน
243.22 ล้านบาท ปลดหนี้จำนวน 232.32 ล้านบาท และการรับชำระหนี้จากบริษัทร่วมเป็นสินทรัพย์จำนวน 11.62 ล้านบาท