Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 กรกฎาคม 2550
TPCไตรมาส2ปีนี้กำไรหดกว่า32%เหตุราคาวัตถุดิบเพิ่มดันต้นทุนพุ่ง             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์, บมจ.
Chemicals and Plastics




TPC ไตรมาส 2 ปีนี้กำไรหดกว่า 32% ผลจากราคาวัตถุดิบทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และรายได้เงินปันผลที่ลดลง ขณะที่การปรับวิธีการลงบัญชีบริษัทปรับวิธีตามวิธีราคาทุน จะทำให้กำไรในไตรมาสและงวดครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น

นายอำพล เรืองธุระกิจ ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มสนับสนุนธุรกิจ บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPC แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้ สิ้นสุด30 มิถุนายน 50 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ(งบรวม) มีกำไรสุทธิ 384.71 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 567.11 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิต่อหุ้นลดลงจาก 0.65 บาทเหลือ 0.44 บาทต่อหุ้น หรือลดลง 32.16%

ขณะที่ในกำไรสุทธิงบเฉพาะกิจการในไตรมาสนี้พบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 370.28 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 826.74 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิต่อหุ้นลดลงจาก 0.94 บาทเหลือ 0.42 บาทต่อหุ้น อันเป็นผลจากบริษัท ฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิงวดนี้ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 32 % ซึ่งเป็นผลกระทบหลักจากปัจจัยด้านราคาวัตถุดิบที่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นมาก และรายได้เงินปันผลที่ลดลง

สำหรับไตรมาสนี้ บริษัทมีรายได้จากการขายและต้นทุนขายบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย และจากการให้บริการรวม 6,573 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 780 ล้านบาท คิดเป็น 13 %โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากปริมาณ และ ราคาขายที่เพิ่มขึ้น โดยรายได้จาการขายในไตรมาสนี้เป็นรายได้จากผลิตภัณฑ์พีวีซี 80% จากผลิตภัณฑ์ท่อและผลิตภัณฑ์พลาสติกสำเร็จรูป 19 % และรายได้ อื่น ๆ 1 % ของรายได้จากการขายรวม ตามลำดับ สัดส่วนรายได้ของผลิตภัณฑ์พีวีซี 43% เป็นการขายภายในประเทศ 57% เป็นการส่งออกและผลจากการขายของบริษัทย่อยในต่างประเทศ

ขณะที่ ต้นทุนขายในไตรมาสนี้ มีต้นทุนขายรวม 5,787 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาวัตถุดิบหลักคือ อีดีซีและ เอทธิลีน ซึ่งปรับขึ้นไปสูงกว่าระยะเดียวกันของปีก่อนมาก และรายได้อื่นลดลงจากปีก่อน 97% เพราะไตรมาสนี้ปีก่อนบริษัทและบริษัทย่อยได้รับเงินปันผลสูง

สำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ บริษัท ฯ และบริษัทย่อย มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 469 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4 %ดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายทางการเงิน 55 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 6 %

ส่งผลให้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2550 บริษัท ฯ และบริษัทย่อย มีอัตราส่วนหนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้น เท่ากับ 0.88 ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งมีอัตราส่วนเท่ากับ 0.84 เท่า

นอกจากนี้ การที่บริษัทปรับวิธีการลงเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานนั้น ตั้งแต่ต้นปี 2550 บริษัทฯ ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกบัญชีเงินลงทุนใน บริษัทย่อย และ บริษัทร่วม ตามประกาศของสภาวิชาชีพบัญชีฉบับที่ 26/2549 เรื่องการปฏิบัติตามมาตรฐานบัญชีฉบับที่ 44 เรื่อง งบการเงินรวมและการบัญชีสำหรับเงิน ลงทุนในบริษัทย่อย เป็นวิธีราคาทุน ส่งผลให้กำไรสุทธิมีผลแตกต่าง คือกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปีนี้ระหว่างงบการเงินรวมและงบเดี่ยวคือ 14 ล้านบาทและงวดครึ่งปี 60 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us