ถ้าหากมีบุรุษไปรษณีย์มากดออดเรียกหน้าบ้าน สิ่งของที่ส่งมาอาจไม่ใช่จดหมาย พัสดุ เหมือนที่เคยเห็นมาตั้งแต่ดั้งเดิมก็ได้ เพราะต่อไปอาจมีสิ่งของขนาดใหญ่ เช่น รถจักรยานยนต์ โทรทัศน์ เครื่องเสียง ที่นอน หมอน มุ้ง มารออยู่ก็ได้

นั่นคือบริการใหม่ล่าสุดของไปรษณีย์ที่เรียกว่า Logispost ซึ่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทย ออมสิน ชีวะพฤกษ์ บอกว่า ได้ทดลองเปิดให้บริการส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมากว่า 20 กิโลกรัมมาตั้งแต่ปี 2546 พบว่ามีผู้ใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ จึงมีการพัฒนา บริการนี้ออกมา และเปิดให้บริการตั้งแต่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมาทั่วประเทศ

บริการ Logispost สามารถรับส่งสินค้าขนาดใหญ่ น้ำหนักไม่เกิน 200 กิโลกรัม แบ่งตามโซนพื้นที่ปลายทาง 10 โซน ราคาเริ่มต้นโซนเดียวกันชิ้นละ 150 บาท ข้ามโซน 200 บาท ระยะเวลาการนำส่งไม่เกิน 7 วัน

ผู้ส่งต้องนำพัสดุไปที่ทำการไปรษณีย์เพื่อทำการจัดส่ง เมื่อถึง ปลายทางเจ้าหน้าที่จะส่งหนังสือให้ผู้รับนำไปรับสิ่งของได้ที่ทำการไปรษณีย์ใกล้เคียง ซึ่งขณะนี้สามารถให้บริการได้ครบทุกที่ทำการไปรษณีย์ ยกเว้นบางที่ทำการที่อยู่บนที่สูง เดินทางลำบากก็จะให้มารับจากที่ทำการไปรษณีย์อื่น

ขณะนี้มีผู้ใช้บริการให้นำส่งสินค้าถึงเดือนละ 8,000 ชิ้น และ ตั้งเป้าว่าจะขยับขึ้นเป็นเดือนละ 10,000 ชิ้นในเร็วๆ นี้

"สินค้าชิ้นใหญ่ที่มีการจัดส่งมากที่สุดก็คือ รถจักรยานยนต์ ที่มีสูงถึงเดือนละ 2,000 คัน"

จดหมายและพัสดุอื่นๆ ไปรษณีย์สามารถนำส่งถึงบ้านได้ แต่ ทำไมสินค้าชิ้นใหญ่แบบนี้ไม่ส่งถึงมือผู้รับ ทางผู้บริหารไปรษณีย์ไทย ให้เหตุผลว่า ปัญหามาจากผู้รับปลายทางไม่มีใครอยู่บ้าน หากนำสินค้ามีค่าที่เคลื่อนย้ายได้สะดวกไปส่งแล้วไม่มีใครอยู่ ก็อาจทำให้สินค้าสูญหายได้ เลยใช้วิธีการให้มารับเองปลอดภัยที่สุด

นอกจากนี้สินค้าบางประเภทอย่างผลไม้ อาหาร ผู้รับปลายทางไม่มารับ ปล่อยให้เสียทั้งกล่องก็มี และยังทำให้เกิดปัญหาเรื่องหนู ในที่ทำการไปรษณีย์ด้วย

การลงมือทำบริการใหม่ของไปรษณีย์ครั้งนี้ยังไม่ได้มีการลงทุน อะไรเพิ่มเติม แต่ใช้การจัดระบบการเดินรถให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่หากอนาคตการบริการขยายตัว ก็ต้องลงทุนในเครื่องมือ อุปกรณ์เพิ่ม

สำหรับรายได้จากการทดลองบริการในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 35 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า พร้อมกับจะขยายไปสู่ลูกค้ารายใหญ่ให้มากขึ้น เพราะขณะนี้ลูกค้ากว่า 90% เป็นลูกค้ารายย่อย