“N-Park” ดึง “กลุ่มแอคคอร์ แอคคอร์” ร่วมทุน บริษัทลูก พาร์ค ควิซีน จำกัด หวังเอื้อประโยชน์ต่อกิจการของร้านเลอโนท ในระยะยาว ตามแผนสางหนี้ 2สถาบันการเงิน แจงก่อนหน้าเทขายหุ้นแสนสิริ ชำระหนี้ดอกเบี้ย-เงินต้นไปแล้ว 300 ล้านหุ้นมูลค่า 927 ล้านบาท
นายเสริมสิน สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทในกลุ่มของแอคคอร์ (Accor) จากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเจ้าของไลเซนส์ LeNotre และเป็นกลุ่มผู้บริหารโรงแรมในเครือโซฟิเทล (Sofitel) และโนโวเทล (Novotel) ซึ่งมีเครือข่ายโรงแรมและธุรกิจบริการทั่วโลก ตกลงร่วมลงทุนในบริษัท พาร์ค ควิซีน จำกัด ขยายกิจการร้านเลอโนท (LeNotre) ซึ่งเป็นกิจการของบริษัท พาร์ค ควิซีน จำกัด โดย บริษัท พาร์ค ควิซีน ถือหุ้นในร้านค้าดังกล่าว100%
สำหรับ การร่วมลงทุนดังกล่าวเป็นการดำเนินการเพิ่มทุน และการซื้อขายหุ้นบางส่วน ซึ่งส่งผลให้ทุนจดทะเบียนของบริษัท พาร์ค ควิซีน จำกัด เพิ่มเป็น 272,367,120 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 60,000,000 บาท ทั้งนี้ ภายหลังจากการเข้าร่วมทุนแล้ว กลุ่มแอคคอร์ แอคคอร์ จะเข้ามาถือหุ้นในบริษัท พาร์ค ควิซีน จำนวน 16,886,762 หุ้น หรือคิดเป็น 62% ขณะที่บริษัทยังคงถือหุ้นในสัดส่วน38% หรือมีจำนวนหุ้นที่ถืออยู่10,349,945 หุ้น
“การร่วมทุนในครั้งนี้จะเอื้อประโยชน์ต่อกิจการของร้านเลอโนท เพราะจะได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มแอคคอร์ ทั้งในด้านการขายสินค้า การบริหารงาน และการบริการ ฯลฯ ซึ่งจะทำให้ร้านเลอโนทเจริญเติบโต และสามารถทำรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยการเพิ่มทุนครั้งนี้ เป็นส่วนหึ่งในการแก้ปัญหาด้านการเงินของ และบริษัท จะยังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาต่างๆ โดยอาศัยแนวทางการแก้ปัญหาของบริษัทต่อไป”
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ขายหุ้น บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ จำนวน 300 ล้านหุ้น ให้แก่กลุ่ม นายอัลลิน่า ซาสิม นักลงทุนจากประเทศฮ่องกง ในราคาหุ้นละ 3.09 บาท เป็นมูลค่ารวม 927 ล้านบาท เพื่อนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นจำนวน 632 ล้านบาท ไปชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับธนาคารนครหลวงไทย ซึ่งจะทำให้ N-park เหลือเงินค้างชำระอีกจำนวน 791 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการขายหุ้นในส่วนที่เหลืออีก 295 ล้านบาท จะนำไปชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับธนาคารกรุงไทย
สำหรับรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ณ วันที่ 9 เม.ย. 50 อันดับ 1 บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) จำนวน 322,721,231 หุ้น หรือ 21.90% อันดับ 2 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 233,615,562 หุ้น หรือ 15.85% อันดับ 3 CHASE NOMINEES LIMITED 42 จำนวน 117,679,900 หุ้น หรือ 7.99% อันดับ 4 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด จำนวน 81,870,000 หุ้น หรือ 5.56% อันดับ 5 RAFFLES NOMINEES (PTE) LIMITED A/C 1 จำนวน 73,600,000 หุ้น หรือ 4.99%
|