|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นายโยชิซึมิ คุราตะ ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์(ไทย-แลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ฮุนไดประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงเตรียมพร้อมทำตลาดในไทยช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ หลังจาก
แบรนด์รถยนต์นี้ยุติการทำตลาดไปนานหลายปี โดยครั้งนี้เป็นการดำเนินงานของกลุ่มโซจิทซึ คอร์ปอรชั่น บริษัทเทรดดิ้งรายใหญ่ของญี่ปุ่น ด้วยเงินทุนจดทะเบียนกว่า 400 ล้านบาท
"เราทราบดีว่าปัญหาของฮุนไดในอดีตที่ผ่านมา อยู่ทีเรื่องของแบรนด์อิมเมจ หรือภาพลักษณ์ตราสินค้า เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่ฮุนไดประเทศไทยจะต้องเร่งดำเนินการ คือกู้ภาพลักษณ์ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตัวผลิตภัณฑ์ การขาย และบริการหลังค้า โดยมุ่งสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า"
ทั้งนี้จากเหตุผลเรื่องของปัญหาภาพลักษณ์สินค้า ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่จะนำเข้ามาทำตลาด จะต้องเป็วนรถยนต์ที่มีเทคโนโลยี คุณภาพเป็นทีได้รับการพิสูจน์มากแล้วในตลาดโลก ดังนั้นในการเปิดตัวรถยนต์สู่ตลาดจึงเลือกรถที่มีเทคโนโลยีสมรรถนะสูง อย่างฮุนได โซนาต้า ที่ได้รับรางวัลมากมายในตลาดสหรัฐอเมริกา รวมถึงอีก 2 รุ่นที่เหลือ คือ ฮุนได ซานตา เฟ่ รถอเนกประสงค์ขับเคลื่อน 4 ล้อ และฮุนได คูเป้ รถสปอร์ตขนาดเล็ก
โดยฮุนได โซนาต้า จะได้รับการประกอบในไทยที่โรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ เพื่อการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ 40% ที่เหลือจะเป็นการนำเข้าจากประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานและเทคโลยีในการประกอบรถยนต์ จนเป็นโรงงานแห่งเดียวในภูมิภาคนี้ที่สามารถประกอบรถยนต์เมอ์เซเดส-เบนซ์ รุ่นเอส-คลาส ส่วนอีกสองรุ่นทีเหลือจะนำเข้ามาจากประเทศเกาหลี
"จากปัญหาเรื่องของภาพลักษณ์สินค้า นี่จึงเป็นเหตุผลให้เราเลือกรถยนต์ทั้งสามรุ่นมาทำตลาด โดยอนาคตเมื่อเราสามารถเรียกความเชื่อมั่นต่อภาพลักษณ์ตราสินค้ากลับมาได้ ทางบริษัทฮุนไดก็สนใจที่จะนำรถยนต์รุ่นอื่นๆ มาทำตลาด ไม่ว่าจะเป็นรถขนาดเล็ก หรืออีโคคาร์" นายคุราตะกล่าวและว่า
สิ่งสำคัญอีกอย่างที่เราจะต้องเน้น คือการบริการหลังการขาย โดยมีนโยบายที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า โดยได้นำแนวคิด "Red Carpet Strategy" ซึ่งเปรียบเสมือนลูกค้าเป็นคนพิเศษของฮุนได โดยได้จัดตั้งโชว์รูมและศูนย์บริการที่บริหารงานโดยตรงจากทีมฮุนได เบื้องต้นฮุนได ประเทศไทย ได้ตั้งโชว์รูมและศูนย์บริการที่ถนนพหลโยธิน เพื่อเป็นศูนย์ฝึกอบรมการขายและบริการ ให้กับตัวแทนจำหน่ายของฮุนไดทั่วประเทศ ทั้งนี้เป้าหมายระยะแรกจะเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการ 16 แห่ง แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 8 แห่ง และต่างจังหวัดอีก 10 แห่ง
สำหรับเรื่องราคาจำหน่ายของรถยนต์ฮุนไดจะอยู่ในอัตราเหมาะสม แต่ยังไม่สามารถระบุได้ในขณะนี้ แต่พอบอกคร่าวๆ ๆ ได้ว่า ฮุนได โซนาต้า จะมีราคาต่ำกว่า นิสสัน เทียน่า ขณะที่อุปกรณ์ที่ติดตั้งมา หรือออปชั่น จะมีไม่แตกต่างและอาจจะมากกว่ารถญี่ปุ่นในกลุ่มเดียวกันด้วย
นายคุราตะกล่าวว่า แม้ฮุนได ประเทศไทย จะไม่มีการร่วมลงทุนของฮุนได มอเตอร์ส ประเทศเกาหลี แต่ในฐานะที่เป็นบริษัทเทรดดิ้งรายใหญ่ของญี่ปุ่น จึงเชื่อมั่นได้ถึงความมุ่งมั่นในการเข้ามาทำตลาดรถฮุนไดในไทยครั้งนี้ และที่สำคัญบริษัทแม่ก็ให้การสนับสนุนอย่างดี โดยในอนาคตอาจจะมีการส่งออกรถยนต์จากไทย เพื่อไปจำหน่ายยังภูมิภาคนี้ด้วย
"ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งขณะนี้มองได้สองมุมด้วยกัน ด้านแรกส่งผลดีต่อฮุนได ประเทศไทย ในการนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูป ชิ้นส่วนซีเคดี และเครื่องจักร มาประกอบและทำตลาดในไทย แต่อีกด้านหากอนาคตเงินบาทยังคงเข็งค่าเช่นนี้ ย่อมไม่ส่งผลดีต่อแผนการส่งออกของฮุนไดจากประเทศไทยแน่นอน" นายคุราตะกล่าว
|
|
|
|
|