สืบทอดสามรุ่นมายาวนานกว่า 80 ปี กับธุรกิจรับซักผ้าทั้งแบบแห้ง แบบน้ำ ก่อนขยายแบรนด์รับฟอกยีน ตัดเสื้อและกางเกงยีนเพื่อส่งออก ก่อนให้กำเนิดแบรนด์กางเกงยีน Mc นี่คือตระกูลกัญจนาภรณ์ พวกเราโตได้เพราะชื่อ "ซินไฉฮั้ว"

รถตู้โดยสารส่วนบุคคลสีขาว ตกแต่งด้วยสีน้ำเงิน เพนต์ลายตัวอักษรบริเวณด้านข้างตัวถังรถเห็นเด่นชัดพอให้ผู้ที่มองอยู่ เห็นเป็นคำอ่านได้ว่า "ซินไฉฮั้วซักแห้ง" ขับผ่าน ประตูทางเข้าโรงงานของห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงงานซักฟอกซินไฉฮั้ว ย่านคลองตัน ก่อนพนักงานขับรถจะเหยียบคันเร่ง มุ่งตรงไปอีกหลายร้อยเมตร หยุดรถ และดับเครื่องยนต์บริเวณ ด้านหน้าอาคารที่ตั้งอยู่ด้านหลังสุดของพื้นที่

อาคารหลังเก่าแห่งนี้ได้รับการก่อสร้างเมื่อยี่สิบปีที่ผ่านมา ท่ามกลางพื้นที่กว่า 14 ไร่บนถนนพัฒนาการ หลังจากอาคารด้านหน้าสุดซึ่งสร้างมานานกว่า เริ่มคับแคบและไม่รองรับกับกิจกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น

พนักงานกว่าสองร้อยชีวิตในแผนกซักแห้ง ซึ่งเป็นกิจการดั้งเดิม เป็นจุดกำเนิดของห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงงาน ซักฟอกซินไฉฮั้ว ถูกย้ายมาอยู่ด้านล่างของอาคารหลังนี้ ขณะที่บางส่วนของชั้นสองตกแต่งให้เป็นส่วนของสำนักงาน และห้องพักของผู้บริหาร

อาคารด้านหน้าถูกแปรสภาพให้เป็นส่วนของการดำเนินกิจการรับซักผ้าด้วยน้ำในระดับอุตสาหกรรม หรือที่เรียกกันว่า ซักน้ำอุตสาหกรรม เพียงอย่างเดียว

ส่วนอาคารพาณิชย์สองหลังติดกันเพิ่งสร้างไม่นาน หลังจากนั้น เพื่อใช้เป็นพื้นที่ของบริษัทยูนิคการ์เม้นท์ อิมปอร์ต เอ็กซปอร์ต จำกัด ธุรกิจรับตัดเสื้อผ้ายีนเพื่อการส่งออก ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ

ไม่มีการบันทึกหรือเก็บเป็นลายลักษณ์อักษร แม้แต่กับครอบครัว "กัญจนาภรณ์" เจ้าของกิจการซักแห้งและบริษัทในเครือทั้งหมดของซินไฉฮั้วเองว่า ผู้เป็นพ่อ ซึ่งก็คือ กิจจา กัญจนาภรณ์ ริเริ่มกิจการซักแห้งครั้งแรกตั้งแต่ปีไหน

แต่เมื่อนับจากคำบอกเล่าของลูกค้าเก่าแก่ที่เข้ามาทักทายผู้สืบทอดกิจการเมื่อครั้งเข้าร่วมงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ว่าได้มีโอกาสพบเห็นซินไฉฮั้ว ตั้งแต่เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง

นั่นก็พอจะตีความได้ว่า ซินไฉฮั้วอยู่คู่เมืองไทยมานาน กว่า 80 ปีเข้าไปแล้ว

จนถึงตอนนี้กิจการภายใต้แบรนด์ของซินไฉฮั้วมีถึง 4 กิจการด้วยกัน คือ บริการรับซักแห้งและซักน้ำอุตสาหกรรม ซึ่งรวมอยู่ในห้างหุ้นส่วน โรงงานซักฟอกซินไฉฮั้ว และธุรกิจ รับตัดเสื้อผ้ายีนเพื่อการส่งออก หรือบริษัทยูนิคการ์เม้นท์ อิมปอร์ต เอ็กซปอร์ต จำกัด ตลอดจนกิจการโรงงานรับซักผ้ายีน หรือฟอกผ้ายีนซึ่งใหญ่ติดอันดับประเทศ ในชื่อบริษัท ซินไฉฮั้ว อุตสาหกรรม ซึ่งภายหลังย้ายไปตั้งโรงงานแห่งใหม่ ในพื้นที่กว้างกว่า 40 ไร่ บนถนนร่มเกล้า

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแบรนด์ซินไฉฮั้วทำรายได้จากกิจการในครอบครัวต่อปีเกือบ 1,000 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจอย่างซักน้ำอุตสาหกรรม ซึ่งมีลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการซักแห้ง และฟอกยีนยังผลัดกันเป็นพระเอกขึ้นเป็นตัวนำสร้างรายได้แล้วแต่ช่วงของภาวะเศรษฐกิจในประเทศ

น่าแปลกใจที่เมื่อบอกว่า ธุรกิจซักผ้าแบบครบวงจร ทั้งแบบใช้น้ำ ไม่ใช้น้ำ และฟอกผ้าให้มีสีสันเปลี่ยนไปจากเดิม ของครอบครัวกัญจนาภรณ์ สร้างรายได้เหยียบพันล้าน อีก ทั้งยังผ่านการถูกชักชวนให้อาบน้ำประแป้งแต่งตัว เพื่อขยาย กิจการสู่ระดับมหาชนหรือเข้าสู่การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ไทยหลายหน

แม้จะพ้นช่วงของการปฏิเสธตั้งแต่ก่อนยุคฟองสบู่แตก ที่เพิ่งจะครบรอบ 1 ทศวรรษเมื่อไม่นานนี้ แต่เมื่อถึงยุคของการเปลี่ยนผ่านจากรุ่นบุกเบิกสู่รุ่นสืบทอด และรุ่นสามที่จะเข้ามารับต่อช่วงกิจการอีกนับจากนี้ น่าเชื่อว่าอีกไม่นานนี้ โอกาสที่จะเห็นกิจการรับซักผ้าของตระกูลนี้เข้าไปซื้อขาย ในตลาดหลักทรัพย์เป็นไปได้มากเลยทีเดียว

หากจะเริ่มต้นเล่าเรื่องกิจการของซินไฉฮั้วเป็นกรณีศึกษาความสำเร็จของกิจการในครอบครัวที่เติบโตและสร้างสีสันให้กับตลาดในเมืองไทยแล้วนั้น การเริ่มต้นจากชื่อ "ซินไฉฮั้ว" ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดีทีเดียว...