Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 กรกฎาคม 2550
"บิ๊กเอพี"ยันบ้านแนวราบยังขายได้ปี51ผุดทาวน์เฮาส์60%รักษาแชมป์             
 


   
search resources

เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์, บมจ.
อนุพงษ์ อัศวโภคิน
Real Estate




"อนุพงษ์ อัศวโภคิน "ยันบ้านแนวราบยังขายได้ แต่รายใหญ่ครองตลาด ล่าสุดซื้อที่ดิน 22 ไร่ย่านถนนตากสินเตรียมผุดทาวเฮาน์ราคา 4 ล้านบาท พร้อมเปิดแผนปีหน้าซื้อที่ดินพัฒนาทาวน์เฮาส์แล้ว 4 โครงการ ส่วนคอนโดฯ อย่างน้อย 2 โครงการ คงสัดส่วนพัฒนาทาวน์เฮาส์ 60% คอนโดฯ 40% ระบุต้องการรักษาแชมป์ผู้นำทาวน์เฮาส์กลางเมือง พร้อมยกเครื่องทาวน์เฮาส์ใหม่ ปรับแบบสไตล์โมเดิร์นแทนสไตล์ยุโรป ส่งอวดโฉมโครงการแรกที่ “บ้านกลางเมือง กรุงเทพกรีฑา”

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP เปิดเผยว่า แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบหลายประการ จนเกิดกระแสข่าวโครงการที่อยู่อาศัยในแนวราบของผู้ประกอบการชะลอตัวอย่างน่าตกใจ ซึ่งในส่วนนี้เชื่อว่าไม่เกิดกับทุกบริษัท เพราะพิจารณาได้จากการขายบ้านของบริษัทฯและผู้ประกอบการรายใหญ่อีกหลายราย ยังมีอัตราการขายเป็นปกติ ซึ่งครึ่งปีแรกบริษัทฯขายโครงการในแนวราบได้ประมาณ 2,400 ล้านบาท ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่อีกหลายรายถือว่ายังมีผลประกอบการที่ดี แม้ว่าจะไม่ดีเท่ากับช่วงที่เศรษฐกิจดีก็ตาม ส่วนที่ชะลอตัวเชื่อว่าจะเกิดกับผู้ประกอบการรายกลาง-เล็ก หรือในรายที่มีสินค้าไม่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค

เชื่อว่านับต่อจากไปตลาดอสังหาฯ จะเป็นของรายใหญ่และรายเล็ก เนื่องจากการทำตลาดในธุรกิจอสังหาฯ จะใช้วิธีขายแบบชอปปิงมอลล์ ทำการตลาดในคราวเดียว ซึ่งต้องมีสินค้าที่หลากหลาย ต้องมีพันธมิตรธุรกิจ อาทิเช่น ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสถานบันการเงิน ร่วมกันเป็นแพ็คเกจ ในส่วนนี้จะทำให้รายกลางเสียเปรียบ เพราะไม่มีสินค้าที่หลากหลายเท่า อีกทั้งลูกค้ายังให้ความเชื่อมั่นในผู้ประกอบการรายใหญ่มากกว่า ส่วนรายเล็กจะไม่ได้รับผลกระทบมาก เพราะทำการตลาดเฉพาะในย่านที่สินค้าตั้งอยู่เท่านั้น

“ตลาดต่อจากนี้เป็นตลาดเป็นของรายใหญ่ที่แข่งขันกันในตลาด ผลดีจะตกแก่ผู้บริโภค เพราะทุกคนต่างต้องการขึ้นเป็นผู้นำตลาด ไม่มีใครจับมือกันเพื่อฮั้วราคากันแน่นอน เพราะฉะนั้นจะไม่มีใครกล้าที่จะสร้างสินค้าที่มีราคาสูงต่างจากคู่แข่ง แถมยังต้องมาแข่กันที่คุณภาพ บริการหลังการขายอีก”

ด้านนายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ฯ กล่าวว่า บริษัทยังคงสัดส่วนการพัฒนาโครงการในแนวราบไว้ที่ 60% และแนวสูง 40% เนื่องจากต้องสร้างสินค้าขึ้นมาทดแทนสินค้าเก่าที่ขายหมดไป อีกทั้งโครงการในแนวราบยังสามารถรับรู้รายได้เร็ว ทำให้มีรายได้เข้ามาบริษัทอย่างต่อเนื่อง ต่างจากโครงการในแนวสูง ที่จะสามารถรับรู้รายได้ในอีก 1-2 ปี หลังจากขายเสร็จ นอกจากนี้ยังต้องการรักษาความเป็นผู้นำตลาดทาวน์เฮาส์กลางเมืองไว้ด้วย

โดยในปีนี้ เอพีจะปิดการขายโครงการทาวน์เฮาส์ 4 โครงการ ในช่วงครึ่งปีหลังมีแผนเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ เป็นทาวน์เฮาส์ 2 โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ และในปีหน้ามีแผนที่จะเปิดโครงการอย่างร้อย 6 โครงการ ปัจจุบันได้ซื้อที่ดินเข้ามาแล้ว 6 แปลง เป็นทาวน์เฮาส์ 4 โครงการ และคอนโดฯอย่างน้อย 2 โครงการ ล่าสุดได้ซื้อที่ดินย่านตากสิน ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าตากสินเพียง 300 เมตร จำนวน 22 ไร่ ในราคา 38,000 บาท/ตร.ว. เพื่อพัฒนาเป็นทาวน์เฮาส์ ราคาเริ่มต้นที่ 4 ล้านบาท จำนวน 211 ยูนิต มูลค่า 850 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายในไตรมาส 3 / 2551

นายภูมิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เอพีอยู่ระหว่างออกแบบทาวน์เฮาส์สไตล์ใหม่ หลังจากที่นำรูปแบบของยุโรปมาใช้ทำตลาดหลายปี โดยทาวน์เฮาส์รูปแบบใหม่นี้จะเป็นสไตล์โมเดิร์นมากขึ้น เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย ปัจจุบันยังไม่ได้ตั้งชื่อ โดยจะใส่ชื่อเข้าไปหลังชื่อ “บ้านกลางเมือง” และ “บ้านกลางกรุง” ทาวน์เฮาส์รูปแบบใหม่นี้จะเริ่มนำมาทำตลาดในโครงการบ้านกลางเมือง กรุงเทพกรีฑา ซึ่งจะเปิดขายในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us