Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน23 กรกฎาคม 2550
'เมเจอร์แอด'เร่งหาลูกค้ารัฐเสริมเท60ล.บูมสื่อพลาสม่าทีวีต่อยอด             
 


   
search resources

Advertising and Public Relations
เมเจอร์ ซีนีแอด, บจก.




เมเจอร์ แอด อุ่นใจ ครึ่งปีแรกกวาดเงินเข้ากระเป๋าเพิ่มขึ้น 2 เท่า ไม่หวั่นสถานการณ์ครึ่งปีหลัง แม้มีเงามรสุมจ่อคิวรุมเร้าเพียบ เดินหมากล่าภาครัฐ เป็นฐานลูกค้าใหม่หลังพบมีเงินก้อนโต เพื่อใช้ประชาสัมพันธ์ ล่าสุดควัก 50-60 ล้านบาท ตะลุยติดตั้ง สื่อพลาสม่าทีวี 400 จุดที่เหลือ ให้ครบ 1,000 จุด ตามแผนในสิ้นปีนี้ หวังใช้ต่อยอดรายได้ขึ้นอีกขั้น จากแพกเกจการขายสื่อที่มีอยู่ เชื่อทั้งปีเติบโตไม่ต่ำกว่า 20 % เป็นอย่างน้อย

นายปณิธาน เศรษฐบุตร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เมเจอร์ ซีนีแอด จำกัด ในเครือ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจโฆษณาในสื่อโรงภาพยนตร์แบบครบวงจร เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่ดีมากในรอบ 10 ปี สำหรับธุรกิจโรงภาพยนตร์ เนื่องจากปีนี้มีจำนวนภาพยนตร์ทำเงินฟอร์มยักษ์ทั้งไทยและเทศเข้าฉายตลอดทั้งปีค่อนข้างมาก

โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีภาพยนตร์เข้าฉายทำเงิน 100 ล้านบาทหลายเรื่อง ซึ่งในส่วนภาพยนตร์ไทย นำทีมโดย ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ทั้ง 2 ภาค และอีกหลายๆเรื่องตามมา เช่น บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2 และแสบสนิท ศิษย์สายหน้า ส่วนภาพยนตร์จากต่างประเทศ เช่น สไปเดอร์แมน 3, เดจาวู รวมไปถึงที่กำลังเข้าฉายในช่วงนี้ คือ ทรานฟอร์เมอร์ส, ไดฮาร์ด 4 และแฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์เติบโตตามไปด้วย

ทั้งนี้หลังจากที่ทางเมเจอร์ แอด มุ่งวางแผนดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์อย่างจริงจัง ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หลังจากพบว่า ในสถานการณ์ที่ปัญหาทางการเมืองยังไม่แน่นอน ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมต้องชะงักลง ลูกค้าหันมาวางแผนการใช้สื่อโฆษณาให้คุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ที่จะมีอัตราการเติบโตมากยิ่งขึ้น

โดยทางบริษัทฯ ได้จัดทำแพกเกจขายสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ นำเสนอให้ลูกค้าได้เลือกใช้มากมาย โดยลูกค้าสามารถเลือกใช้สื่อได้ตามความเหมาะสม ภายใต้งบประมาณที่วางไว้ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อทั้งแพกเกจก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น การทำอีเวนต์, ซีอาร์เอ็ม, เอ็กซิบิชัน, เปิดตัวสินค้าใหม่, แถลงข่าว จัดบู้ททดลองสินค้า และอื่นๆ ตามแต่ลูกค้าต้องการ

พบว่ามีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 15% จากฐานลูกค้าเดิม เช่นสินค้าในกลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักส์ จากยูนิลีเวอร์ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ "โดฟ" ส่งผลให้ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายได้เติบโตขึ้นถึง 2 เท่า เทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังครองส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 70- 80 % จากมูลค่า 1,900 ล้านบาท ของสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ ในครึ่งปีแรกนี้ด้วย

นายปณิธาน กล่าวต่อว่า แม้ครึ่งปีแรกจะมีรายได้เกินเป้าที่วางไว้ค่อนข้างมาก แต่เมื่อมองภาพรวมทั้งปีแล้ว ไม่กล้าคาดหวังอะไรมากนัก เนื่องจากครึ่งปีหลัง ถือเป็นช่วงสโลว์ดาวน์ของสื่อโฆษณาด้วย นอกเหนือจากปัจจัยภายนอกต่างๆ ที่ต่างส่งผลกระทบต่อธุรกิจสื่อโฆษณาอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นอย่างน้อยที่สุดทั้งปีน่าจะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20 % หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ที่ 10-12 % จากรายได้รวม ของเมเจอร์ กรุ้ป

เจาะภาครัฐฐานลูกค้าใหม่

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงดำเนินแผนในครึ่งปีหลังต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้มีรายได้ตามเป้าที่วางไว้ โดยเฉพาะการหาฐานลูกค้าใหม่ ในกลุ่มหน่วยงานราชการของทางภาครัฐ เนื่องจากพบว่า ภาครัฐกำลังให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์องค์กรมากขึ้น รวมทั้งกำลังจะมีการอนุมัติงบประมาณแผ่นดินให้หน่วยงานต่างๆนำไปใช้ด้วยในช่วงนี้ ล่าสุดมีหน่วยงานภาครัฐ ตอบรับการใช้สื่อของทางบริษัทฯแล้วหลายหน่วยงาน เช่น สสส., สำนักกรุงเทพมหานคร ในโครงการ โกลบอล วอมมิ่ง และททท.ในโครงการ ยัง ทัฟเวอร์เล่อร์

นอกจากนี้ยังได้เพิ่มงบประมาณอีกกว่า 50- 60 ล้านบาท ติดตั้งจอพลาสม่า ทีวี อีก 400 จุด ให้ครบ 1,000 จุดามเป้าที่วางไว้ในสิ้นปี ภายในโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ กรุ้ป ทั้งหมด เพื่อต้องการให้เป็นสื่อหลักใหม่ ที่จะนำเสนอกับลูกค้าต่อไป จากเดิมที่ใช้เป็นสื่อรองมาตลอด

ครึ่งปีแรกสื่อโฆษณาโรงหนังโต200%

ทั้งนี้จากข้อมูลของทางเอซี เน็ลสัน คาดการณ์ว่า สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ในปีนี้ จะเป็นสื่อที่ในโรงภาพยนตร์มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3.5-4 พันล้านบาท อีกทั้งทางเอซี เน็ลสัน ได้แจ้งข้อมูลตัวเลขล่าสุดของสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาแล้ว พบว่ามีอัตราการเติบโตถึง 200 เท่า หรือกว่า 1,900 ล้านบาท

"อัตราการเติบโตดังกล่าว เกิดจากลูกค้าหันมาใช้สื่อรองแทนสื่อหลักอย่าง สื่อโทรทัศน์มากขึ้น ในภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว การดำเนินธุรกิจต้องมีความระมัดระวัง การใช้สื่อเพื่อทำการตลาด จึงต้องเป็นสื่อเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น และต้องเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด ภายใต้งบประมาณที่ไม่สูงนัก แต่สร้างการรับรู้และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ ถือเป็นสื่อที่ตอบโจทย์ทั้งหมดได้ จึงทำให้ปีนี้สื่อดังกล่าวมีอัตราการเติบโตมากที่สุด" นายปณิธาน กล่าวในที่สุด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us