Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มิถุนายน 2534








 
นิตยสารผู้จัดการ มิถุนายน 2534
พีรนาถ โชควัฒนา ทายาท (คนโต) รุ่นที่ 3 ของนายห้างเทียม             
 


   
search resources

ไทยฟูจิย่า
พีรนาถ โชควัฒนา
Restaurant




"ผมไม่ชอบให้สัมภาษณ์เพราะผมไม่อยากให้คนรู้จักผม ผมอยู่อย่างนี้ก็ดีอยู่แล้ว ผมยินดีที่จะเริ่มต้นแบบเงียบๆ จนกว่าสิ่งที่ผมทำจะประสบผลสำเร็จ"

พีรานาถ โชควัฒนา อายุ 29 ปี เป็นลูกชายคนโตในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 4 คน ของบุญเอก โชควัฒนา ลูกชายคนโตของ ดร.เทียม และคุณนายสายพิณ โชควัฒนา พีรานาถนับว่าเป็นหลานคนโตในจำนวนหลานทั้งหมดของนายห้างเทียมที่มีอยู่ 17 คน ซึ่งทั้งหมดกำลังเติบโตขึ้นมาเพื่อรองรับธุรกิจในเครือสหกรุ๊ปที่ขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในฐานะของทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล "โชควัฒนา"

พีรนาถ เรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นไปศึกษาต่อปริญญาโททางด้านวิศวเคมีที่ CALIFORNIA INSTITUTE OF TECHNOLOGY สหรัฐอเมริกา หลังจากกลับมาเข้าศึกษาตอปริญญาโททางด้านบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ในระหว่างที่เรียนต่อทางด้านบริหารธุรกิจ พีรนาทได้เรียนรู้งานไปพร้อมๆ กันด้วยการเข้าทำงานในบริษัท บริหารสากล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางด้านการจัดการของโชติ โสภณพนิช ในขณะเดียวกันก็ช่วยงานของพ่อ (บุญเอก) ในบริษัท ซัน คัลเล่อร์ จำกัดและ บริษัท บุญรวี จำกัด โดยเข้าไปเป็นกรรมการบริษัทฯช่วยดูแลงานทางด้านบัญชีกับคอมพิวเตอร์

หลังจากที่ทำอยู่กับบริหารสากลได้ 2-3 ปี พีรนาถก็ออกมาเรียนรู้งานที่บริษัทอินเตอร์ เนชั่นแนล คอสเมติกส์ หรือ ICC ซึ่งเป็นบริษํทในเครือสหพัฒนในตำแหน่งพนักงานคนหนึ่ง โดยช่วยดูแลโครงการใหม่ๆของบริษัทที่จะมีเข้ามา

และหนึ่งในโครงการพีรนาถได้รับมอบหมายจากบุญสิทธ์ผู้เป็นอาให้สานงานต่อ คือ การทำธุรกิจร้านอาหาร "ฟูจิย่า" ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณชั้นที่ 1 ของห้างสรรพสินค้าเยาฮัน ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่บุญสิทธิ์เป็นผู้ริเริ่มขึ้นโดยมีการเจรจาที่จะร่วมลงทุนกันกับฟูจิย่าญี่ปุ่นเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา จนกระทั่งเพิ่งมีการเซ็นสัญญากันอย่างจริงจังเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2533

ฟูจิย่าได้เริ่มดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 2453 จนถึงปีนี้ก็ 81 ปี แล้วโดยเริ่มจากการเป็นร้านขนมเค้กและร้านจำพวก COFFEE SHOP ที่เมืองโยโกฮาม่า หลังจากนั้นได้เปิดร้านขนมเค้กและร้านอาหารตามเมืองใหญ่ๆ ของญี่ปุ่นและจากปี 2495 เป็นต้นมาก็ได้เริ่มทำกิจการเกี่ยวกับลูกกวาด ช็อกโกแลตและบิสกิต นอกจากนี้ในปี 2505 ก็ได้เริ่มขยายกิจการของขนมเค้กและร้านอาหารเป็นแบบ FRANCHING SYSTEM โดยเริ่มในญี่ปุ่นก่อน

ปัจจุบันฟูจิย่าทำยอดขายได้ถึงว 1,280 ล้านเยน ต่อปี ยอดขายดังกล่าวนี้มาจากร้านของฟูจิย่าเองและจากการส่งไปขายในร้านต่างๆ เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างละ 50% ฟูจิย่ามีร้านขายขนมเค้ก 1,000 ร้านและร้านอาหาร 250 ร้าน นอกจากนั้นเป็นพวก BASKIN ROBBINS ไอศกรีม NESTLE MACKINTOSH HARSHEY JAPAN และมีร้านขายฝากอื่นๆ อีกในต่างประเทศนั้นนอกจากมีร้านอาหารประเภท STEAK ที่อเมริกา ชื่อ FUJISAN U.S.A แล้วยังมีลูกกวาดและว็อกโกแลตขายด้วย

สำหรับการเข้ามาในเมืองไทยด้วยการร่วมทุนกับสหกรุ๊ป เป็นโครงการแรกของการขยายตลาดในต่างประเทศของฟูจิย่าในรูปแบบของการลงทุนร่วม

สิ่งแรกที่พีรนาถดำเนินการหลังจากที่ได้รับมอบหมายให้สานงานต่อ คือ การจัดตั้งบริษัท ไทยฟูจิย่า จำกัด ขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ปีที่ฟฟผ่านมาด้วยทุนจดทะเบียน 35 ล้านบาท โดยสหกรุ๊ปถือหุ้น 51% และฟูจิย่า ถือหุ้นที่เหลือ 49% ในขณะที่กำหนดการเปิด SOFT OPENING ของห้างสรรถสินค้าเยาฮัน คือ วันที่ 13 เมษายน 2534 เพราะฉะนั้นการที่จะทำให้ร้านฟูจิย่าเป็นรูปเป็นร่างขึ้นในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทายสำหรับพีรนาถ

ถึงแม้ว่าวันนี้ร้านฟูจิย่าจะเปิดให้บริการแล้วแต่ยังไม่เป็นดังที่พีรนาถคาดหวัง การปรับปรุงยังคงมีอยู่ตลอดเวลา

"ยังถือว่าเป็นเรื่องที่ใหม่มากสำหรับเรา ในขณะที่เวลาเตรียมตัวก็น้อยมาก ปัญหาต่างๆ มีเข้ามามากไม่ว่าจะเป็นเรื่องบุคลากรที่จะเข้ามา หรือรสชาติอาหาร ซึ่งคนของสหพัฒนเองไม่มีความรู้ด้านรสชาติหรือสูตรอาหาร ในขณะที่ญี่ปุ่นเองก็ไม่เคยรู้ว่าคนไทยชอบอาหารแบบไหน คงต้องสังเกตจากที่นี่ว่าเป็นอย่างไรและค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป" พีรนาถกล่าวในฐานะของกรรมการรองผู้จัดการบริษัทไทยฟูจิย่า

ซึ่งถ้าหากจะดูจากวิชาที่ร่ำเรียนมาแล้ว พีรนาถน่าจะรับผิดชอบงานที่เกี่ยวกับโรงงานมากกว่า ในขณะที่พีรนาถเองมีแนวความคิดของตนเองแบบลึกๆ ที่อยากจะทำงานด้านการเงิน ซึ่งเป็นความรู้สึกส่วนตัวว่ามันน่าสนใจ พีรนาถบอกว่า "มันเป็นแค่ความรู้สึกเท่านั้น ซึ่งทำจริงๆ อาจไม่น่าสนใจก็ได้สำหรับผมให้ทำอะไรผมก็ทำตัวให้รู้สึกรักมัน ชอบมันก็น่าสนใจไปเอง อย่างกรณ๊ของฟูจิย่ามีคนเอาโบชัวมาให้ผมดูมีแต่ขนมเค้ก ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ชอบกินเค้ก อาหารก็ทำไม่เป็น ไม่เคยคิดจะทำแต่เมื่อต้องทำก็ทำตัวให้มาสนใจมัน พยายามเข้าใจมันก็ทำได้"

การที่พีรนาถเป็นหลานคนแรกที่เกิดและเติบโตในบ้านเดียวกับนายห้างเทียม ดังนั้นสิ่งที่ได้เรียนรู้และได้เห็นมาตลอดคือ ความขยัน ความสื่อสัตย์ ความรักที่นายห้างเทียมมีต่อพนักงาน ความเป็นคนชอบศึกษาคิดทบทวนในสิ่งที่ได้ผ่านมาโดยเฉพาะลักษณะอย่างหนึ่งที่นายห้างเทียมมักจะปฏิบัติ คือ การรู้อะไรมาแล้วมักจะเล่าให้คนอื่นฟัง ซึ่งพีรนาถถือว่าเป็นอะไรบางอย่างที่มีประโยชน์มาก เพราะยิ่งเล่ายิ่งจำมันได้และเข้าใจมันดีขึ้นซึ่งตนเองเคยนำวิธีการนี้ไปทดลองใช้ตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ

และในฐานะที่เป็นหลานคนโตของทายาทรุ่นที่ 3ที่ในอนาคตจะต้องสืบทอดธุรกิจต่อจากทายาทรุ่นที่ 2 ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้กันในตระกูลโชควัฒนาก็ตาม แต่การที่พีรนาถได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนของสหกรุ๊ปในการเข้าบริหารงานในไทยฟูจิย่า น่าเป็นเครื่องบ่งบอกได้ดีถึงการมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบงานที่มากขึ้นอีกระดับหนึ่ง ซึ่งพีรนาถเองก็ยอมรับว่าการทำร้านอาหารฟูจิย่าเป็นการจับงานแบบเต็มตัว ในขณะที่แต่เดิมเพียงแค่เข้าไปช่วยงานบางเรื่องในบางบริษัทในเครือเท่านั้น และสำหรับร้านฟูจิย่าที่ไม่เพียงแต่เป็นที่ฝึกฝนวิทยายุทธ์ ในการทำงานให้กับพีรนาถเท่านั้น ยังเป็นที่ฝึกฝนประสบการณ์ให้กับบรรดาทายาทรุ่นที่ 3 ของนายห้างเทียมซึ่งยังไม่พ้นวัยเรียนอีกหลายคนในตำแหน่งพนักงานเสริฟโดยมีปณิธานและประวรา ปวโรฬารวิทยา (ลูกของสิรินา โชควัฒนา) ชัยลดล และชัยลดา โชควัฒนา (ลูกของบุญชัย) กิติยาภรณ์ โชควัฒนา (ลูกของบุญเกียรติ) และทิวาลักษณ์ โชควัฒนา (ลูกของบุญเอก) บทบาทของทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลโชควัฒนาได้เริ่มขึ้นแล้ว!

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us