Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2534








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2534
วิลเลียม เช็ง กำลังสร้างบ้านฉางเป็น "ชุมนุมชนชั้นกลางรุ่นใหม่"             
 


   
search resources

อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท, บมจ.
วิลเลียม เช็ง
Real Estate




p> นักสถาปัตย์ชาวสิงคโปร์ผู้นำชีวิตธุรกิจในบั้นปลายมาฝากผลงานสำคัญไว้ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของน่านน้ำไทยผู้นี้คือวิลเลียม เช็งผู้ซึ่งไมีรู้สึกแปลกแยกกับเมืองไทยแม้แต่น้อยเพราะตระเวนทำธุรกิจในย่านนี้มานานกว่า 24 ปี

เมื่อก่อนนี้วิลเลียมมีบริษัทของตนเองชื่อ WILLIAM CHENG ASSOCIATES มีสำนักงานใน 6 ประเทศกระจายอยู่ทั่วเอเชีย

ในเมืองไทยเองวิลเลียมก็เคยมาฝากผลงานยุคแรก ไว้ที่โรงแรมอินทราประตูน้ำ ในฐานะเป็นผู้จัดการโครงการต่อมายังมีส่วนร่วมในงานออกแบบตกแต่งโรงแรมอีกลหายแห่ง เช่น แชงกรี-ลา, เซ็นทรัลลาดพร้าว, อัมรินทร์ พลาซ่า, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์และโรงพยาบาลเปาโล

ครั้งเมื่อ 6-7 ปีก่อน วิลเลียมได้ขายกิจการทั้งหมดไปตัดสินใจ RETIRE ออกจากบริษัทเมื่อมาพบกับสุเทพ บูลกุลแห่งสตาร์บล็อคในปี 2532 ก็ได้รับการทาบทามให้เข้ามาคุมโปรเจกต์ที่บ้านฉาง นี่คือที่มาของวิลเลียมเซ็งในอีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด

วิลเลียมกล่าวกับ "ผู้จัดการ" ว่า "ผมประเมินว่านโยบายพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกหรือนโยบายอีสเทิร์นซีบอร์ด ทำให้เกิดเงินลงทุนในบริเวณนี้สูงถึง 500,000 ล้านบาท จะมีการสร้างงานจำนวนมากและมีการย้ายถิ่นเข้ามามาก ใน 8 ปี ข้างหน้าจะมีประชากรในระยองและบ้านฉางสูงถึง 1 ล้านคน"

โครงการของอีสเทอร์นสตาร์ฯ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2,500 ไร่ในเขตอำเภอบ้านฉางหรือคิดเป็น 80% ของพื้นที่ทั้งหมด บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะสร้างบ้านฉางจะชุมชนประมงเล็ก ๆ ที่เคยสงบเงียบ ให้เป็นชุมนุมชนชั้นกลางรุ่นใหม่ (MIDDLE CLASS SUBURB) ภายในระยะ 10 ปีข้างหน้า

บ้านฉางตั้งอยู่ในทำเลที่งดงามมากด้านหน้าติดทะเล ด้านหลังติดภูเขา ด้านข้างติดสนามบินอู่ตะเภาอยู่ห่างจากมาบตาพุดเพียง 8-10 กม. เท่านั้น

วิลเลียมกล่าวว่า "การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับประเทศชาติ ในสิงคโปร์และในฮ่องกงให้ความสำคัญในเรื่องนี้กันมากและผมก็ตั้งความหวังจะพัฒนาบ้านฉางให้เป็นเมืองใหม่ขึ้นมาให้ได้"

ปัจจุบัน อีสเทอร์น สตาร์ฯ มีโครงการที่ดำเนินการในบ้านฉางรวม 10 โครงการซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็นสนามกอล์ฟ ที่พักอาศัยในรูปคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ศูนย็การค้า อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงานและโรงแรมระดับ 3-4 ดาว

วิลเลียมคุยว่า โครงการสินทวีพาร์คซึ่งเป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีลักษณะพิเศษจากโครงการทั่ว ๆ ไปคือ มีการสร้างสวนหย่อมและสวนไม้ดอกนานาพันธุ์ให้แก่ผู้พักอาศัย จัดสร้างถนนเป็นส่วนสัดเฉพาะสำหรับผู้อยู่อาศัย

นอกจากนี้ อีสเทอร์นสตาร์ฯ ยังมีโครงการสร้างสวนอุตสาหกรรมที่บ้านค่าย มาบตาพุดใช้พื้นที่โครงการประมาณ 1,500 ไร่ โดยมีพื้นที่แล้วประมาณ 600 ไร่

ว่าเฉพาะมูลค่าการลงทุนในโครงการมากมายที่บ้านฉางนี้ก็รวมประมาณ 4,000 ล้านบาท ขณะที่อีสเทอร์น สตาร์ฯ มีทุนจดทะเบียน 445 ล้านบาท

สุเทพ บูลกุลเป็นผู้รวบรวมนักลงทุนเข้ามาถือหุ้นในอีสเทอร์น สตาร์ฯ โดยมีสุเทพถือในนามสตาร์บล็อค 30% กลุ่มสหยูเนียน 25% กลุ่มบ้านฉาง บ้านพลา 15% และมีนักลงทุนรายย่อยเช่น เสรี โอสถานุเคราะห์ ประยูร จินดาประดิษฐ์ และอานันท์ ปันยารชุนซึ่งก่อนหน้านี้เป็นประธานฯ บริษัท แต่ปัจจุบันลาออกแล้ว

บริษัทฯ ในเวลานี้จึงมีแต่รองประธานคือประยูร

งานนี้จึงเป็นที่รวมของบรรดาผู้ช่ำชองในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ล้วน ๆ

อีสเทอร์น สตาร์ฯ ยื่นข้อมูลให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาเพื่อขอเป็นบริษัทจดทะเบียนตั้งแต่พฤษภาคมที่ผ่านมา วิลเลียมเปิดเผยว่า "เป้าหมายจริง ๆ ที่เข้าตลาดฯ คือต้องการขยายฐานเงินทุน (CAPITAL BASE) หากเรามีเงินทุนจำนวนมากพอเราก็สามารถดำเนินโครงการต่างๆ ได้ตามกำหนดและยังจะพัฒนาโครงการใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอีกได้ เพราะในตอนนี้ไม่มีคนชุมชนที่ทันสมัยในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเลย"

วิลเลียมกล่าวด้วยว่า "เรายังต้องการซื้อที่ดินเพิ่มอีกส่วนหนึ่งโดยเฉพาะที่อยู่ในโครงการสวนอุตสาหกรรม เพราะตอนนี้ยังมีที่ดินไม่เพียงพอ"

วิลเลียมคิดว่า "ในฐานะเป็นนักพัฒนาที่ดินอย่างแท้จริง ผมไม่คิดว่านโยบายที่เข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับบริษัทที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีผลกระทบต่อเราบริษัทฯ ไม่ใช่ทำแค่ซื้อที่ดินมาแล้วขายออกไปโดยไม่มีการพัฒนาอะไรเลย ดังนั้นผมจึงไม่ห่วงในเรื่องนี้มากนัก"

ปัจจุบันโครงการหลายโครงการในบ้านฉางเป็นรูปร่างมากกว่าเพียงภาพสวย ๆ ในแผ่นกระดาษ ส่วนที่เป็นศูนย์การค้ามูลค่า 200 ล้านบาทก็เกือบเสร็จแล้ว คอนโดมิเนียมในโครงการสินทวีก็เสร็จแล้ว เช่นกัน โครงการได้ขายออกไปเป็นจำนวนมากพอสมควรแล้ว

นี่เป็นจุดต่างกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์อื่นที่ยื่นขอเข้าตลาดฯ แต่ไม่ผ่านการพิจารณาเพราะยังไม่มีการก่อสร้างอาคารโครงการแต่อย่างใด

อีสเทอร์น สตาร์ฯ มีบริษัทในเครืออีกประมาณ 5 แห่งดำเนินกิจการในบ้านฉาง เป็นบริษัทสำหรับร่วมลงทุนกับบริษัทต่างประเทศเพื่อการถือครองที่ดินของโครงการ นอกจากนี้มีอิสเทอร์น สตาร์ เฮ้าสซิ่งถือครองที่ดินอีกผืนหนึ่งและในส่วนที่เป็นการบริหารโรงแรมที่จะเกิดขึ้นในภายหน้าก็อาจจะตั้งขึ้นมาอีกบริษัทหนึ่ง

วิลเลียมกล่าวว่า "ปัญหาของบริษัทอย่างหนึ่งในเวลานี้ไม่ใช่เรื่องที่ว่าบริษัทจะได้รับอนุมัติจากตลาดฯ เมื่อไหร่ประเด็นคือนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดมีการประชาสัมพันธ์ชักชวนนักลงทุนน้อยมาก ในต่างประเทศแทบจะไม่มีใครรู้เรื่องอีสเทอร์น ซีบอร์ดเลยอันนี้ก็จะมีผลกระทบต่อบริษัทบ้าง"

กล่าวได้ว่า นอกจากอนันต์กาญจนพาสน์จะสร้างเมืองทองธานีเป็นเมืองใหม่เสมือนกรุงเทพแห่งอนาคตริมถนนแจ้งวัฒนะแล้ว ที่บ้านฉางก็มีวิลเลียม เซ็งซึ่งจะสร้างบ้างฉางให้เป็นเมืองใหม่รองรับนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดอีกแห่งหนึ่งด้วย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us