หลังจากที่สถานการณ์รอบด้านเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เอพีต้องเร่งปรับตัว ด้วยการชูแนวคิด “Dynamic Company” เป็นกลยุทธ์หลักเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหาร รวมทั้งประกาศปรับสัดส่วนการลงทุนทาวน์เฮาส์-คอนโดมิเนียมเป็น 50:50 หลังจากพบว่า ปัจจัยต่างๆ ช่วยหนุนให้ดีมานด์คอนโดมิเนียมกำลังเป็นตลาดที่มาแรง

ความสำเร็จของเอพีที่ปรับตัวอย่างรวดเร็วหันมารุกตลาดคอนโดมิเนียม เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Yภายใต้แบรนด์ “Life” อย่างจริงจัง ล่าสุด Life ทั้ง 3 โครงการที่เปิดตัวพร้อมกันเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ได้แก่ Life พหลฯ-อารีย์, Life รัชดา-สุทธิสาร และ Life สาทร 10 สามารถปิดการขาย มูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาทได้ภายใน 1 เดือน จากเดิมที่วางแผนว่าจะปิดโครงการในอีก 6 เดือนข้างหน้า ทำให้ครึ่งปีแรกเอพีมียอดขายแล้ว 8,700 ล้านบาท มากกว่ายอดขายปี 2549 ทั้งปี และมากกว่าเป้ายอดขายปีนี้ทั้งปีที่ตั้งไว้ 8,000 ล้านบาท

จากยอดขายทะลุเป้าตั้งแต่ครึ่งปีแรก ทำให้ วิษณุ สุชาติล้ำพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (AP) กล่าวว่า อาจจะมีการปรับเป้ายอดขายปีนี้เพิ่มเป็น 12,000 ล้านบาท และเตรียมจะพัฒนาโครงการในครึ่งปีหลังอีก 6 โครงการ มูลค่ารวม 4,500 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ Life 3 โครงการ เกาะแนวรถไฟฟ้า ได้แก่ ซ.พหลโยธิน 18 บนที่ดิน 1.9 ไร่ มูลค่า 390 ล้านบาท จำนวน 183 ยูนิต ราคาขาย 56,000 บาทต่อ ตร.ม. , สุขุมวิท 65 บนที่ดิน 2-3 ไร่ ราคาขาย 70,000 บาทต่อ ตร.ม. และรัชดา-ห้วยขวาง บนที่ดิน 3 ไร่ ห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดินประมาณ 100 เมตร ราคาขาย 65,000-67,000 บาทต่อ ตร.ม.

โครงการทาวน์เฮาส์ภายใต้แบรนด์ “บ้านกลางกรุง” จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ กรุงเทพกรีฑา, โชคชัย 4-วังหิน และลาดปลาเค้า

ล่าสุดเอพีได้ใช้กลยุทธ์ทางการเงิน โดยจับมือเป็นพันธมิตรกับธ.กสิกรไทยและธ.ไทยพาณิชย์ที่ปล่อยกู้สินเชื่อโครงการ (Post-Finance) ในโครงการ Life ทั้ง 3 ทำเล ให้มาเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อรายย่อย (Pre-Finance)ให้กับลูกค้าโครงการด้วย โดยใช้ Life Payment Card ชำระค่างวดผ่านช่องทางต่างๆ ด้วยบัตรบาร์โค้ด และ Life Direct Debit Service ชำระค่างวดด้วยการหักบัญชีเงินฝาก เป็นเครื่องมือในการสร้างความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการชำระเงินดาวน์ ซึ่งจะเป็นดึงธนาคารมาเป็นเครื่องมือช่วยในการ Pre-Approve แก้ปัญหาฐานะทางการเงินของลูกค้าล่วงหน้าในช่วงผ่อนดาวน์ ก่อนที่จะมีการโอนในอีก 1 ปีข้างหน้า โดยเอพีตั้งเป้าว่าจะช่วยลดอัตราการปฏิเสธสินเชื่อลงจาก 20% เหลือ 10%

จุดเด่นของ Life Payment Card อยู่ที่การใช้บัตรบาร์โค้ดในการชำระค่างวด สามารถจ่ายผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร หรือเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารได้ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าเกิดความสะดวกรวดเร็วในการจ่ายเงิน ลดปัญหาใบจ่ายค่างวดสูญหาย เพราะบัตรบาร์โค้ดจะบันทึกข้อมูลลูกค้าเอาไว้ตลอดระยะเวลาที่ผ่อนดาวน์ประมาณ 22 เดือน ซึ่งระบบนี้สามารถลดต้นทุนของเอพีในการเปิดสำนักงานโครงการเพื่อเปิดรับเงินดาวน์ของลูกค้า มาเป็นการอาศัยช่องทางของธนาคารแทน โดยเอพีจะเป็นตัวกลางในการออกแบบระบบเพื่อประสานข้อมูลกับธนาคาร ทำให้ธนาคารสามารถเก็บข้อมูลล่วงหน้าก่อนการยื่นขอสินเชื่อเมื่อถึงกำหนดโอนกรรมสิทธิ์โครงการ ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่ Win-Win ทั้งสองฝ่าย ที่เอพีจะมีธนาคารเข้ามาช่วย Pre-Approve เพื่อคัดกรองลูกค้าที่มีศักยภาพให้ และธนาคารที่จะได้ลูกค้าสินเชื่อรายใหม่จากเอพี และหากรูปแบบทางการเงินนี้ประสบความสำเร็จ เอพีอาจจะต่อยอดนำไปใช้กับโครงการอื่นๆ และขยายฐาน CRM ได้ในอนาคต