- ทัพออนไลน์เคลื่อนพลสู่ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่เต็มตัว
- สร้างประสบการณ์ใหม่โลกโมบายไม่ต้องรอยุค 3จี แจ้งเกิด
- ขาใหญ่ ไมโครซอฟท์ ยาฮู กูเกิล เปิดศึกชิงเจ้าสังเวียนผู้นำธุรกิจยุคใหม่
- จับตาไมโครซอฟท์ผุด "เอ็มเอสเอ็น โมบาย" ตีตลาดมือถือไทยโดยเฉพาะ
- หลัง "เอ็มเอสเอ็น" ไทยประสบความสำเร็จจนคนไทยติดอันดับ 9 ของโลกออนไลน์

ฐานผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทย ณ ปัจจุบันนี้ 30 กว่าล้านหมายเลข คือฐานตลาดที่ใหญ่มากสำหรับการทำธุรกิจด้านต่างๆ เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ที่เกิดขึ้นจากความนิยมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการสื่อสารเชื่อมต่อไปยังโลกออนไลน์แบบทุกที่ทุกเวลา กำลังกลายเป็นสมรภูมิที่ทำให้บรรดาขาใหญ่ในแวดวงออนไลน์ต่างพาเหรดกันขึ้นให้บริการลูกค้าโมบายกันแทบทั้งนั้น

ความเคลื่อนไหวช่วงก่อนหน้านี้ ทางเอไอเอส ในฐานะผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับหนึ่งของไทย ได้มีการประกาศความร่วมมือให้บริการกับบรรดาผู้ให้บริการออนไลน์รายใหญ่ไม่ว่าจะเป็นทั้งไทยและเทศ อย่างกูเกิลที่ผู้ใช้มือถือใช้ค้นหาสิ่งต่างๆ ได้เช่นเดียวกับบนคอมพิวเตอร์ หรือการเปิดให้บริการเอ็มเอสเอ็นบนมือถือ และความร่วมมือกับเว็บไซต์อันดับหนึ่งของไทย อย่างสนุกดอทคอม และอื่นๆ

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากความพร้อมของเครือข่าย ที่ต้องรอการเปิดให้บริการมือถือยุค 3จี แต่เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้สามารถรองรับบริการแบบโลกออนไลน์ได้ ถือเป็นการสร้างประสบการณ์บริการใหม่ให้กับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือไทย ก่อนที่ไทยจะมีการแจ้งเกิดบริการ 3จี ในอนาคต

อย่างไรก็ตามหนึ่งในยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการในโลกออนไลน์ ที่ดูจะมีความเคลื่อนไหวมากกว่ารายอื่นๆ น่าจะเป็นความพร้อมของไมโครซอฟท์ เจ้าตลาดซอฟต์แวร์ที่กำลังมุ่งหน้าสร้างฐานอำนาจกรุยทางสู่ความเป็นผู้นำในตลาดออนไลน์ของโลกและในประเทศไทยเอง

ที่ว่าไมโครซอฟท์ดูจะมีความพร้อมมากกว่าผู้ให้บริการรายอื่นๆ เนื่องจากยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันรายนี้ ถือฤกษ์ดีการให้บริการครบรอบ 4 ปี ของ เอ็มเอสเอ็น ไทยแลนด์ เปิดตัว เอ็มเอสเอ็น โมบาย เว็บท่าฉบับภาษาไทยครั้งแรกบนโทรศัพท์มือถือ และถือเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากอเมริกาที่มีการเปิดให้บริการ เอ็มเอสเอ็น โมบาย

"ที่ผ่านมาเราเป็นผู้นำตลาดซอฟต์แวร์ของโลก และเมื่อโลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทสำคัญในโลก เราก็ต้องการที่จะเป็นผู้นำโลกออนไลน์ และการให้บริการบนโทรศัพท์มือถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ไมโครซอฟท์ต้องการที่จะตอบสนองความต้องการผู้ใช้ที่นับวันยิ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น" เป็นคำกล่าวของ ปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวและว่า

ที่ผ่านมาความสำเร็จของไมโครซอฟท์ในโลกออนไลน์นั้น ตลอดระยะเวลา 4 ปี ถือเป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของไมโครซอฟท์นับตั้งแต่เปิดตัว www.msn.co.th ในปี 2546 โดยมีจำนวนผู้เข้าชมต่อเดือนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 240% ในเดือนพฤษภาคม 2550 เว็บไซต์แห่งนี้มีจำนวนผู้เข้าชมสูงถึง 6.7 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นจำนวนเท่ากับร้อยละ 82 ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมดในประเทศไทย

"ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความแอกทีฟกับการใช้งาน เอ็มเอสเอ็นอย่างมาก จนปัจจุบันไทยติดอันดับที่ 9 ของโลก และเหนือกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้" แกรนท์ วัตส์ ผู้จัดการทั่วไป ไมโครซอฟท์ ออนไลน์ เซอร์วิส กรุ๊ป กล่าว

ปัจจุบันนอกจากเอ็มเอสเอ็นจะเข้าถึงประชากรอินเทอร์เน็ตไทยในอัตราที่สูงดังกล่าวแล้ว ไมโครซอฟท์ยังป็นเจ้าแห่งโปรแกรม Instant Messenger อันดับ 1 ของประเทศไทย โดยแต่ละเดือนมีผู้ใช้งานคนไทยมากกว่า 2.9 ล้านคนที่ส่งข้อความกว่า 60 ล้านข้อความต่อวัน และคนไทยนิยมใช้งาน Blog ปัจจุบันโปรแกรม Windows Live Spaces ที่เปิดตัวเวอร์ชั่นภาษาไทยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2550 มีผู้ใช้งานกว่า 1.3 ล้านคนต่อเดือน นับเป็นตัวเลขที่สูงกว่าสิงคโปร์และมาเลเซียกว่า 4 เท่า

ไมโครซอฟท์จึงมีความเชื่อว่าหากมีการเปิดตัว เอ็มเอสเอ็น โมบาย คนไทยที่เป็นผู้ใช้งาน เอ็มเอสเอ็นบนออนไลน์ จะก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ใช้บริการ เอ็มเอสเอ็น โมบาย

แกรนท์ วัตส์ กล่าวว่า การเปิดตัว เอ็มเอสเอ็น โมบายในประเทศไทยถือเป็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการนำเสนอเนื้อหาภาษาไทยที่สมบูรณ์และมีความหลากหลายแก่ผู้ใช้เอ็มเอสเอ็นคนไทยในทุกที่ทุกเวลาแม้จะอยู่ระหว่างเดินทางก็ตาม และเป็นการตอกย้ำว่าไมโครซอฟท์มุ่งที่จะพัฒนาเทคโนโลยีและคุณสมบัติใหม่ๆ มาให้ผู้ใช้เอ็มเอสเอ็นไทยที่นับวันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกวัน

เอ็มเอสเอ็น โมบายในเมืองไทยประกอบด้วยเนื้อหาต่างๆ ได้แก่ ช่องข่าว ช่องฟุตบอล ช่องบันเทิงและช่องดาวน์โหลดที่นำเสนอในรูปแบบที่ง่ายและเร็วต่อการเข้าใช้งาน ผู้ใช้จะสามารถใช้ MSN Mobile เพื่อดาวน์โหลดเนื้อหามัลติมีเดียและปรับเปลี่ยนรูปแบบโทรศัพท์มือถือได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าใช้บริการ อาทิ Windows Live Hotmail และ Windows Live Messenger ได้อีกด้วย

การให้บริการบนโทรศัพท์มือถือของไมโครซอฟท์ ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรด้านธุรกิจโมบายอย่างเอไอเอส โดยผู้ใช้งาน เอ็มเอสเอ็น โมบายจะสามารถดาวน์โหลดคอนเทนต์ต่างๆ ได้ฟรี ทั้งริงโทน เกมและวอลเปเปอร์ผ่านทาง เอ็มเอสเอ็น โมบาย พอร์ทัล

"ที่ผ่านมาการให้บริการ เอ็มเอสเอ็น ของเราประสบความสำเร็จได้ เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นเอไอเอส ซัมซุง ธนาคารกรุงเทพ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ การได้รับฟีดแบ็กที่ดีจากบรรดาลูกค้าผู้ใช้งาน และกลุ่มผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ตั้งแต่เริ่มแรก เชื่อว่าการให้บริการ เอ็มเอสเอ็น โมบายจะประสบความสำเร็จเช่นกัน" ปฐมา กล่าว

เดวิด เอ.เรซิปัว ผู้จัดการหน่วยผลิตภัณฑ์ เอ็มเอสเอ็น โมบาย กล่าวว่า เอ็มเอสเอ็น โมบายจะนำคอนเทนต์ทุกอย่างที่เอ็มเอสเอ็นมีให้บริการ ส่งมาให้บริการในโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไมโครซอฟท์ถือว่าการให้บริการเอ็มเอสเอ็นบนมือถือในครั้งนี้เป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลก

"การที่ไมโครซอฟท์เลือกประเทศไทยในการทำตลาดเอ็มเอสเอ็น โมบาย โดยเป็นฉบับภาษาไทยด้วยนั้น เพราะว่าไทยมีตลาดออนไลน์ที่แข็งแกร่ง มีการใช้งานโมบายแอปพลิเคชั่นในอัตราที่สูงมาก น่าจะทำให้ผู้ใช้งานเอ็มเอสเอ็นที่มีอยู่กว่า 7 ล้านคน มาใช้เอ็มเอสเอ็น โมบายได้ด้วย"

นอกจากการที่ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว เอ็มเอสเอ็น โมบายเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ ช่องทางใหม่นี้อาจกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เอ็มเอสเอ็นใช้เป็นสื่อการตลาดยุคใหม่ให้บรรดานักการตลาดเข้ามาสู่ทางนี้มากยิ่งขึ้น

ที่ผ่านมา เอ็มเอสเอ็น และ Windows Lives ได้กลายเป็นโอกาสสำหรับบรรดานักการตลาดทั้งต่างประเทศและในประเทศไทยที่ดำเนินการตลาดบนเอ็มเอสเอ็นและ Windows Lives ผ่านทางอินเทอร์เน็ตเพื่อสร้างตราสินค้า กระตุ้นยอดขายและเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด

ในอนาคตเชื่อว่า เอ็มเอสเอ็น โมบายจะถูกใช้เป็นสื่อทางการตลาดเช่นเดียวกัน เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ด้วยข้อความเฉพาะที่จะสามารถสร้างและดึงดูดความสนใจเฉพาะต่างๆ ของกลุ่มเป้าหมายในกลุ่มต่างๆ และนี่น่าจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ไมโครซอฟท์กำลังสร้างตลาดใหม่บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อที่จะไปให้ถึงจุดมุ่งหมายของการเป็นผู้นำโลกออนไลน์อย่างแท้จริง นอกจากการเป็นเจ้าธุรกิจซอฟต์แวร์