Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์2 กรกฎาคม 2550
โรงแรม“เซ็นทรัล”โฉมใหม่....รีแบรนดิ้งสลัดทิ้งภาพศูนย์การค้า             
 


   
www resources

โฮมเพจ โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า

   
search resources

โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า, บมจ.
Hotels & Lodgings




หากเอ่ยถึง "เซ็นทรัล" เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงแต่ห้างสรรพสินค้าระดับแนวหน้าของเมืองไทย และคงคิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่า"เซ็นทรัล"ยังเป็นแบรนด์ที่ใช้ร่วมกับโรงแรมหรูระดับ 5ดาว ภายใต้ชื่อโรงแรมเซ็นทรัลพลาซา หรือ CENTEL ที่นักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างประเทศอาจจะไม่ค่อยรู้จักเท่าใดนัก

ตรงจุดนี้ส่งผลให้ผู้บริหารตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ที่จะสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับบริษัทด้วยการเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนแบรนด์ และเปลี่ยนโลโก้ใหม่ ให้เป็นเอกลักษณ์ของบริษัทอย่างแท้จริง และเพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าให้เป็นที่รู้จัก และจำกันได้ง่ายขึ้น

จากที่ก่อนหน้านี้รู้จักกันแต่ในนามของห้างสรรพสินค้าเป็นส่วนใหญ่แต่จากนี้ไปนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างประเทศจะรู้จักกับแบรนด์ใหม่ของ CENTEL แบบที่ไม่ต้องสับสนกับแบรนด์ธุรกิจอื่นในเครือเดียวกัน

ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนแบรนด์ใหม่ของกลุ่มเซ็นทรัลฯถือว่าไม่ได้มีนัยสำคัญแต่อย่างใดที่นอกจากเหตุผลข้างต้น เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าบริษัทแห่งนี้ค่อนข้างมีศักยภาพในการทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ โดยเห็นได้จากผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา

การตัดสินใจรีแบรนด์ธุรกิจโรงแรมใหม่ทั้งหมดที่มีอยู่ในมือของกลุ่ม เซ็นทรัล กรุ๊ป กลายเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบหลายทศวรรษ ว่ากันว่าเป็นเพียงเพื่อสลัดภาพศูนย์การค้าออกจากธุรกิจโรงแรมเท่านั้น แต่กูรูโรงแรมหลายแห่งกลับมองว่านี่คือหมากกลที่กลุ่มเซ็นทรัลฯกำลังวางแผนเพื่อใช้แบรนด์ตัวใหม่เป็นยุทธศาสตร์สร้างอาณาจักรทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยนำร่องแบ่งออกเป็น 2 ระดับ ปั้น"เซ็นทารา แกรนด์"หรู 5-6 ดาว ขณะที่ระดับ 4 ดาวจะใช้ชื่อ “เซ็นทารา”

ก่อนมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของโรงแรมเซ็นทรัลเวิลด์ โรงแรมที่จัดได้ว่ามีห้องคอนเวนชั่นที่ใหญ่ที่สุดในธุรกิจโรงแรมด้วยกันถูกนำมาใช้เป็นสถานที่การเปิดตัวแบรนด์ใหม่ของกลุ่มเซ็นทรัลกรุ๊ปไปพร้อมกับประกาศแผนการตลาดที่มีทั้งรุกและรับภายในปีนี้และอนาคตอันใกล้

ภายใต้การบริหารการจัดการของ มร.มิเชล ฮอร์ณ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเซ็นทรัลเวิลด์และคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ ที่บอกว่า โครงการเซ็นทรัลเวิลด์มีมูลค่ากว่า 4,400 ล้านบาทและมุ่งให้ความสำคัญต่อสถานที่การจัดประชุม-นิทรรศการ ในธุรกิจไมซ์ทั้งระบบภายในพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร

การวางตำแหน่งไว้ตรงที่ความเป็นพรีเมียมและชอปปิ้งและโรงแรมที่มีจำนนห้อง 500 ห้อง และยังมีพื้นที่ส่วนของคอนเวนชันอีก 5,404 ตารางเตร สามารถจัดแบ่งเป็นห้องประชุมได้ถึง 15 ห้อง ซึ่งถูกจัดวางตำแหน่งในลักษณะของไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์และชอปปิ้งมอลล์โรงภาพยนตร์

“คอนเวนชันฮอล ได้รับการออกแบบ โดยจัดให้ห้องคอนเวนชัน นิทรรศการ การประชุมสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งการจัดวางพื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยพื้นที่ยังมีภัตตาคารเลานจ์ อยู่บนชั้น 55 ซึ่งจะมองเห็นวิวของกรุงเทพฯ ได้ชัดเจนที่ชั้นนี้ ในส่วนของอาหารก็จะมีทั้งร้านอาหารในประเทศอาเซียน ญี่ปุ่น และอาหารไทย ซึ่งแต่ละร้านจะมีการออกแบบโดยเน้นความเป็นส่วนตัวของผู้ที่เข้ามาใช้บริการ โดยสื่อถึงความมีชีวิตชีวาและการมีประสบการณ์ร่วมกัน ขณะที่การออกแบบยังใส่ความเย็นสบายของสายน้ำ ไฟ อากาศ ลงไปยังพื้นที่สาธาณะทั้งภัตตาคาร บาร์ เน้นไปยังความแตกต่างของอารมณ์”มร.ฮอร์ณ กล่าวพร้อมกับเสริมว่า

ปัจจุบัน คอนเวนชั่น มียอดจองเข้ามาแล้วทั้งหมดกว่า52 งาน และมีจุดขายตรงที่เป็นโรงแรมคอนเวนชั่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีขนาดพื้นที่คอนเวนชั่นถึง 1.7 หมื่นตรม. และรองรับผู้เข้าประชุมได้สูงสุด 8 พันคน

ข้อดี-ข้อเสีย

การรีแบรนด์ดังกล่าวของกลุ่มธุรกิจโรงแรม อาจมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัลกรุ๊ป เชื่อว่าจะส่งผลให้กลุ่มธุรกิจโรงแรมมีอิมเมจทางธุรกิจที่ชัดเจน และจะทำให้ลูกค้าแยกได้ว่าโรงแรมใด5ดาวหรือโรงแรมใด4ดาว เพื่อให้ง่ายต่อการวางกลยุทธเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจและการขยายลงทุนโรงแรมระดับ 5 ดาวเพิ่มขึ้นในอนาคต เพราะทุกวันนี้เมื่อกล่าวถึงเซ็นทรัลคนจะนึกภาพออกแต่ความเป็นโรงแรมในระดับ 4 ดาวเท่านั้น

ขณะที่แบรนด์เดิมอย่างเซ็นทรัล หลายคนยังไม่รู้ว่าเป็นธุรกิจของเซ็นทรัล และเมื่อรีแบรนด์ใหม่ย่อมส่งผลกระทบต่อโรงแรมที่เข้าข่ายต้องเจรจาปรับค่าแมเนจเม้นท์ฟี(ค่ารับจ้างบริหารโรงแรม)กันใหม่ 3 แห่งคือที่ภูเก็ต 2 แห่งอย่างโรงแรมเซ็นทรัลกะรน วิลเลจ ,เซ็นทรัลกะตะ รีสอร์ท ภูเก็ตและเชียงใหม่ 1 แห่ง อย่างเซ็นทรัลดวงตะวัน เนื่องจากกลุ่มเซ็นทรัลได้ร่วมลงทุนกับนักลงทุนจากต่างประเทศและมีสัญญารับจ้างบริหารร่วมกันอยู่ การเปลี่ยนแปลงก็ต้องลงทุนเพิ่มขึ้น ต้องมาปรับสัญญาต่างๆที่เกี่ยวข้องกันใหม่

การตัดสินใจ เพื่อปรับเปลี่ยนโลโก้ ชื่อ และตราของผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ใช้ภายในโรงแรม ล่าสุดได้นำแบรนด์เซ็นทาราไปเปิดตัวโปรโมทแก่เอเย่นต์ต่างประเทศในงานส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลกอย่างไอทีบี เบอร์ลิน 2007 ที่ประเทศเยอรมัน และงานอาเซี่ยนไมซ์ 2007 ที่เมืองทองธานีแล้ว

นอกจากนี้เซ็นทรัลกรุ๊ป ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงแรมเพิ่มอีกหลายแห่งในเมืองท่องเที่ยวแถบฝั่งทะเล เช่น เซ็นทรัล มิราจ บีช รีสอร์ท ,พัทยา จะเปิดปี 2551 ซึ่งได้ทุบโรงแรมเซ็นทรัล วงศ์อมาตทิ้งแล้วสร้างใหม่ทำเป็นโรงแรมระดับ5 ดาว โรงแรมเซ็นทรัล เวิลด์แอนด์แบงกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด เปิดปี2551 และโรงแรมเซ็นทรัล ภูเก็ต บีช รีสอร์ท ระดับ 5 ดาว เปิดปี2553 รวมทั้งมีแผนที่จะลงทุนโรงแรมอีกหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ อ.หัวหิน จ.ระยอง จ. ตรัง เขาหลัก จ.พังงา และเกาะลันตา จ.กระบี่ ด้วย

ทั้งนี้แนวโน้มการลงทุนของเซ็นทรัล จะเน้นการซื้อโรงแรมเดิม เพื่อนำมาปรับปรุงเป็นโรงแรมใหม่ เหมือนที่ไปซื้อกิจการ(เทคโอเวอร์)โรงแรมไอร์แลนด์เดีย แล้วปรับปรุงโรงใหม่เป็นโรงแรมเซ็นทรัล กะรน บีช รีสอร์ท ภูเก็ต และซื้อกิจการโรงแรมชีวารีสอร์ท แอนด์ สปา ปรับปรุงเป็นโรงแรมเซ็นทรัล กะตะ รีสอร์ท ภูเก็ต เนื่องจากมองว่าสามารถคืนทุนได้เร็วกว่าการสร้างโรงแรมใหม่ทั้งหมด

สอดคล้องกับที่ สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ รองประธานกรรมการบริหารบริษัทกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ที่กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจโรงแรม หรือ CHR ซึ่งเป็น 1 ใน 5 กลุ่มธุรกิจของบริษัทกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ที่มีอัตราการเติบโตร้อยละ 12.2 ถือว่าเติบโตสูงสุดจากกลุ่มธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มธุรกิจค้าปลีก กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มธุรกิจค้าส่ง และกลุ่มเซ็นทรัลเรสตอรองส์ ปีที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจโรงแรม มีรายได้ 2,624 .8 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 249.3 ล้านบาท จากการเปิดให้บริการโรงแรมใหม่ อย่าง โรงแรมเซ็นทรัล กระบี่เบย์รีสอร์ท เมื่อเดือนพ.ย.2549 ,โรงแรมเซ็นทรัลกะรนบีชรีสอร์ท จ.ภูเก็ต ที่บริษัทร่วมลงทุน เปิดให้บริการเมื่อพ.ย.25 49เช่นกัน และโรงแรมเซ็นทรัลกะตะรีสอร์ท ภูเก็ต เปิดปลายเดือนพ.ค49

เป้าหมายธุรกิจโรงแรมในปีนี้50 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตร้อยละ31.1 มีการลงทุน 3,370 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.7 ของกลุ่ม โดยมีแผนจะเพิ่มทุน 2 ส่วน ลงไปแล้ว 700 ล้านบาท และจะเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างประกาศหานักลงทุนทั่วไป และมีแผนจะรีโนเวทโรงแรมที่พัทยา สมุย และหัวหิน เพราะโรงแรมเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตสูงอันดับต้นๆของบริษัท โดยปี 2550 จะมีโรงแรมเปิดใหม่ให้บริการอีก 3-4 แห่ง จึงตั้งเป้าไว้สูง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us