Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์2 กรกฎาคม 2550
เปิดแผนสร้างคน 'SCG' รับวิชั่น สู่ Go Regional             
 


   
www resources

โฮมเพจ เครือซิเมนต์ไทย

   
search resources

ปูนซิเมนต์ไทย, บมจ.
Knowledge and Theory




- HR องค์กรใหญ่ SCG พลิกบทบาทสอดรับวิสัยทัศน์ผู้บริหาร พาธุรกิจเป็นผู้นำตลาดในอาเซียน
- ทั้งการรีครูต เทรนนิ่ง และผสมผสานวัฒนธรรมเชื้อชาติของคนในประเทศที่ไปลงทุน
- เมื่อ 1 ใน 5 หรือกว่า 6,000 คนเป็นคนต่างชาติ "มนูญ สรรค์คุณากร" มือสร้างบอกเป็นงานหินที่สุด
- เผยคน HR ต้องรับมือการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของธุรกิจและก้าวนำ line manager 1 ก้าวเสมอ

บริษัทขนาดใหญ่ในประเทศไทยหลายรายได้ขยายการเติบโตด้วยการสร้างตลาดใหม่ยังต่างประเทศ ซึ่งการขับเคลื่อนธุรกิจนั้น "บุคลากร" เป็นฟันเฟืองสำคัญและเป็นองค์ประกอบหลักในการสร้างความเข้มแข็งองค์กรสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ด้วยศักยภาพที่เต็มเปี่ยม

ล่าสุด บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG ได้วางวิสัยทัศน์ ภายใต้การบริหารงานของ "กานต์ ตระกูลฮุน" กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCG ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าหรือในปี 2558 นั้น SCG จะเป็นผู้นำทางธุรกิจอย่างยั่งยืนในอาเซียน

ที่ผ่านมา SCG ได้ขยายการเติบโตรุกตลาดใหม่ไปแล้ว 4 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย กัมพูชา เวียดนามและฟิลิปปินส์ และเตรียมขยายโครงการอีกจำนวนมากในประเทศดังกล่าวครอบคลุมกลุ่มธุรกิจของบริษัท โดยมีแผนสร้างคนทั้งรับคนใหม่และพัฒนาพนักงานเดิมภายใน 5 ปีนับจากนี้จำนวนกว่า 5,000 คน

ประสานคนต่างเชื้อชาติเป็นหนึ่งเดียวสู่เป้าหมาย

มนูญ สรรค์คุณากร ผู้อำนวยการสำนักงานการบุคคลกลาง SCG กล่าวว่า จากวิสัยทัศน์ดังกล่าว HR ต้องมีบทบาทสำคัญในการสร้างบุคลากร พัฒนาเตรียมความพร้อมรองรับทิศทางการเติบโตของธุรกิจ จากเป้าหมาย 5 ปีต้องมีคนเพิ่มในองค์กรอีก 5,000 คน เพื่อทำงานใน 4 ประเทศที่เตรียมขยายงานเพิ่ม

ในจำนวนพนักงานที่เพิ่มขึ้น 5,000 คนนั้น แบ่งเป็นคนต่างชาติในประเทศที่เข้าไปลงทุนต้องรับเพิ่มอีก 3,500 คน และคนไทยที่เดินทางไปประจำการอีก 1,500 คน ซึ่งบทบาทสำคัญของ HR คือการรีครูตคน ในช่วงแรกนี้จะควบคู่ไปกับการสร้างแบรนด์ SCG ให้เป็นที่รู้จักด้วยการเชิญคณะครูอาจารย์ นักเรียน นักศึกษา ในประเทศที่เข้าไปลงทุนเดินทางเข้ามาทัศนะศึกษาที่บริษัทเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์และกิจการที่ทำเพื่อการันตีถึงการผลิตที่มีความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม ฉะนั้นการเข้าไปลงทุนยังพื้นที่นั้นจะไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน

หากมองในระยะยาว เมื่อนักเรียน นักศึกษาเหล่านี้จบการศึกษา ความรู้ที่มีจากการแนะนำบริษัทให้เป็นที่รู้จัก เขาเหล่านี้อาจเข้ามาสมัครงานในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโท เข้ามาศึกษาที่สถาบัน AIT อีกด้วย

สำหรับพนักงานคนไทยที่จะต้องเดินทางไปประจำยังสำนักงานในต่างประเทศนั้น สิ่งสำคัญคือการสร้างแรงจูงใจที่จะได้รับในการไปทำงานต่างประเทศต้องเพิ่มขึ้น โดยจัดทำแพคเกจขึ้นมา เช่น ผลตอบแทนที่มากขึ้น จำนวนวันพักและการเดินทางกลับประเทศเฉลี่ยปีละ 8 ครั้ง

ทั้งนี้ แรงจูงใจสำคัญที่ขาดไม่ได้คือการเติบโตในสายอาชีพกำหนดไว้ว่าการเติบโตของพนักงานสู่สายงานบริหารในระดับสูงนั้น ต้องผ่านงานจากบริษัท SCG ในต่างประเทศมาก่อน ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจของพนักงานชาวไทยเพื่อเดินทางไปทำงานในต่างประเทศได้ง่ายขึ้น

ซึ่ง HR ต้องมีความเข้าใจพื้นฐานของพนักงานที่จากบ้านไปไกลและไปทำงานให้บริษัทผลตอบรับที่ให้ต้องเกิดความพึงพอใจด้วย เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะระหว่างของการขยายงานในต่างประเทศนั้นช่วงแรกต้องใช้พนักงานจากประเทศไทยจำนวนมาก เพื่อถ่ายทอดความรู้ เทคโนโลยีและเพื่อพัฒนาคนท้องถิ่นที่เข้าเป็นพนักงานให้มีความรู้ในสายงาน ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานคนไทยที่ทำงานอยู่แล้วจำนวน 140 คนต้องเพิ่มให้ครบตามอัตรากำลังคนประมาณ 1,500 คนทั้งฝ่ายจัดการและโอเปอเรชั่น

และจากจำนวนพนักงานที่ต้องเพิ่มขึ้นอีกกว่า 5,000 คน เป็นสัดส่วนของชาวต่างชาติ 3,500 คน รวมกับพนักงานที่มีอยู่เดิม 2,800 คน เท่ากับว่าจะมีชาวต่างชาติทำงานในองค์กรมากถึง 63,000 คน สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรพนักงานคนไทยที่เดินทางไปจากประเทศไทยและคนในประเทศนั้นๆ ให้หล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกันจนเรียกได้ว่าเป็นคน SCG เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ร่วมกัน

โดย HR มีโปรแกรมสำหรับพนักงานที่ไปจากประเทศไทย ในการอบรมความรู้เกี่ยวกับประเทศนั้นๆ ทั้งด้าน วัฒนธรรม สังคม ศาสนา เพราะในการทำงานนั้นเพื่อนร่วมงานเป็นสิ่งสำคัญทั้งในเชิงการสร้างผลงานให้สำเร็จและความสัมพันธ์ระหว่างกันส่งผลต่อบรรยากาศการทำงานในภาพรวม

ส่วนพนักงานจากประเทศที่ SCG เข้าไปลงทุนนั้น การจูงใจเพื่อหลอมให้เห็นคุณค่าองค์กร เห็นคุณค่างานที่ทำ และการขยายการลงทุนเข้ามาของบริษัทต่างชาติในสายตาพนักงานเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ นอกจากผลตอบแทนแล้วการสร้างคนด้วยองค์ความรู้จะสามารถมัดใจนั้นการันตีได้ถึงเส้นทางการเติบโตในสายงานแม้จะเป็นบริษัทจากต่างชาติเข้ามาลงทุนก็ตาม ซึ่งที่ผ่านมา SCG จะมีทุนการศึกษาพัฒนาพนักงานมานานกว่า 30 ปีแล้วที่ให้โอกาสทางการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ปริญญาเอกด้วยเป็นหนึ่งในอุดมการณ์ "เชื่อมั่นในคุณค่าของคน"

ทั้งนี้ ทุนการศึกษาจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของคน SCG และสามารถก้าวขึ้นตำแหน่งระดับบริหารใน SCG ได้ไม่ว่าจะเป็นคนชาติใดก็ตาม

เข้มด้วยกระบวนการเฟ้นคนหาคนเก่งหวังสร้างธุรกิจใหม่

มนูญ กล่าวต่อไปอีกว่า จะเห็นว่าการที่จะเป็นผู้นำธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน SCG คือองค์กรนวัตกรรมหมายรวมถึงวิธีการทำงาน และการสร้างสรรค์สินค้า บริการ ที่จะต้องเป็น High – value การเฟ้นหาบุคลากรและการพัฒนาบุคลากรที่มีอยู่เดิมเพื่อตอบโจทย์ที่ตั้งไว้ ทำให้ต้องมีความเข้มข้นขึ้นเพื่อรับกับความท้าทายใหม่ของการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงที่ผู้บริหาร SCG เล็งเห็นนั่นคือการเตรียมพร้อมกับอนาคตได้อย่างเหมาะสมและทันต่อเหตุการณ์

ฉะนั้นถ้ามุ่งเพียงการพัฒนาคนอย่างเดียวจะไม่ทันการเปลี่ยนแปลงที่ว่า จึงมีนโยบายในการหาบุคลากรที่มีความรู้ในระดับด๊อกเตอร์ และเชี่ยวชาญในสายงานต่างๆ ไม่เฉพาะสายงานธุรกิจของ SCG เท่านั้น เพราะทิศทางการเติบโตของธุรกิจจะมีการขยายธุรกิจใหม่ ซึ่งบุคลากรเหล่านี้จะสามารถต่อยอดงานธุรกิจที่มีอยู่ หรือริเริ่มสายงานใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น แม้แต่แนวคิดของการประหยัดพลังงานเองก็ตาม

จะเห็นว่าที่ผ่านมามุ่งเน้นผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิจัยเพื่อคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นตามนโยบายของการสร้างนวัตกรรมให้เกิดขึ้นซึ่งตั้งเป้าว่า 5 ปีจากนี้จะมีผู้เชี่ยวชาญงานวิจัยในองค์กรจำนวน 50 คน ซึ่งการรับบุคลากรส่วนนี้จะผ่านการสัมภาษณ์จากผู้บริหารโดยตรงซึ่งสิ่งที่ต้องการคือธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้น

ที่ผ่านมา SCG มีงบประมาณในการวิจัยที่หลักร้อยล้านซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับยอดรายได้ แต่ภายใน 5 ปีนี้จะทุ่มงบมากถึง 1,000 ล้านบาท และลักษณะการทำงานที่ผ่านจะเป็นศูนย์วิจัยรวม ซึ่งจากนี้ไปจะแยกงานวิจัยแต่ละบิสิเนสยูนิตเพื่อเชี่ยวชาญเฉพาะด้านฉะนั้นบุคคลกรที่จะเข้ามาสานนโยบายในส่วนนี้จึงมีความสำคัญยิ่ง

แต่อย่างไรก็ตาม SCG ขึ้นชื่อของการเป็นบริษัทผู้นำในการพัฒนาบุคลากรหรือเทรนนิ่งนั้น ต้องเข้มข้นขึ้นและที่เห็นชัดเจนคือด้านภาษาเพราะธุรกิจได้ก้าวสู่ระดับอาเซียน ฉะนั้นการเทรนนิ่งพนักงานที่มีอยู่เดิมต้องมีแนวทางการพัฒนาที่ใหม่ รวมถึงกระบวนการรีครูตคนเพื่อเข้ามาทำงานในองค์กร ต้องมีการเปลี่ยนใหม่จากนโยบายอินโนเวชั่น ฉะนั้นความสามารถในเรื่อง innovation ใส่เข้าไป หรือที่เลือกว่า Inno-people คือ 1. open minded 2.Thinking off the box 3. exertiveness 4. list taking 5.Ego to learn ต้องบรรจุเข้าไปเพื่อทดสอบเด็กใหม่ว่ามีคุณสมบัติตามนี้หรือไม่

ขณะเดียวกันได้เพิ่มทุน 22 ทุนถึงระดับด๊อกเตอร์ให้กับพันธุวิศวกรรม เพื่อเรียนทางด้านไบโอเทคโนโลยี นาโนเทคโนโลยี แม้ปัจจุบันยังไม่มีธุรกิจนี้ SCG ก็ตามแต่เป็นการรองรับธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เผยบทบาท HR เปลี่ยน ก้าวทันข้อมูลระดับอินเตอร์

มนูญ บอกว่า เป็นภารกิจหนักของ HR ในการรีครูตคนเก่งๆ ให้ได้ตามนโยบายบริษัทที่จะรับคนดีและคนเก่งเข้ามาเป็นพนักงาน ทั้งนี้มุ่งหวังพนักงานเหล่านี้ขึ้นเป็นระดับผู้บริหารในอนาคตได้ ทำให้ต้องเปลี่ยนระบบใหม่ทั้งการรีครูต การเทรนนิ่ง การว่าจ้างเพราะจะมีคนต่างชาติเป็นพนักงานในองค์กรมากขึ้นถึง 6,000 คนหรือประมาณ 1 ใน 5 ของพนักงานทั้งหมด

นอกจากนี้ HR ต้องรู้กฎหมายแรงงานในต่างประเทศซึ่ง HR ของ SCG จะมีผู้รู้กฎหมายเฉพาะประเทศ เพราะเป็นสิ่งสำคัญต่อการเข้าไปลงทุนของบริษัท เช่น มีการจัดตั้งสหภาพแรงงานได้หรือไม่ นัดหยุดงานประท้วงได้หรือไม่ เพื่อเป็นข้อมูลในการสนับสนุนการเข้าไปลงทุนของบริษัทยังประเทศนั้นๆ ซึ่ง HR ต้องเดินนำ 1 ก้าวก่อนที่การลงทุนในแต่ละส่วนจะเกิดขึ้นเสมอ

HR ของ SCG ต้องมี global mind set มี business set และมีความหลากหลายของคน HR ซึ่งไม่ระบุคณะการศึกษาที่เรียนจะจบเศรษฐศาสตร์ การบริหารธุรกิจก็ได้ รวมถึงบุคลากรที่เข้ามาฝึกงาน HR จะมีมาจากหลายเชื้อชาติทั้งจีน ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย บังคลาเทศ ศรีลังกา เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานกับคนต่างชาติเพื่อให้คนเหล่านี้มาให้ความรู้ในด้านวัฒนธรรมของประเทศด้วย

และสำหรับ HR ที่ประจำในประเทศนั้นๆ จะใช้คนในพื้นที่เป็นหลัก หากยังไม่พร้อมก็ต้องใช้คนจากประเทศไทยเข้าไปประจำก่อน ซึ่งจะมีการพัฒนาท้องถิ่นด้วยการอบรมที่ประเทศไทยในระยะยาวเป็นปีเพื่อให้เข้าใจระบบและนำสิ่งดีๆ กลับไปใช้ ทั้งนี้ได้เห็นแนวทางของพาร์ตเนอร์ 7-8 บริษัทที่บริษัทร่วมทุนด้วยนั้นก็ได้ใช้คนท้องถิ่นเพราะเข้าใจชีวิต ความเป็นอยู่วัฒนธรรมรวมถึงกฎหมายได้ดีกว่า

นับเป็นก้าวที่สำคัญของ HR ในการปรับกระบวนการทำงานเพื่อเป็นส่วนสำคัญต่อวิสัยทัศน์องค์กรที่ตั้งไว้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us