Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 กรกฎาคม 2550
ตะลึงหนี้เน่าSMEแบงก์ปูด2หมื่นล."สมหมาย"ฉุนสั่งโละตัวการทุจริต             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
Loan




"สมหมาย" เข้ามอบนโยบายเอสเอ็มอีแบงก์ ตะลึงพบหนี้เสียเกินเยียวยาปูดอีกว่า 2 หมื่นล้านบาทและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกกว่าเดือนละ 4 ร้อยล้านบาท ครวญหมดหวังให้เอ็นพีแอลลดลงเหลือ 25% ได้ภายในปีนี้ สั่งการเขี่ยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่ไว้ใจไม่ได้พ้นหน้าที่ป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ยืนยังรัฐบาลไม่ยุบแบงก์ทิ้งแน่นอนเพราะเป็นแขนขาในการขยายตัวของเศรษฐกิจแต่ต้องหาคนที่ทำผิดเข้ามารับผิดชอบ

วานนี้ (2 ก.ค.) คณะกรรมการธนาคาร และผู้บริหารธนาคาร นำโดยนายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ประธานกรรมการ นายสมชัย สัจจพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร และนายพงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME BANK ) ได้ให้การต้อนรับ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในโอกาสเดินทางมาเยี่ยมเยียนธนาคารพร้อมมอบนโยบาย

นายสมหมาย กล่าว่า หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPLของธนาคารเพื่อการพัฒนารัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ เอสเอ็มอีแบงก์ เป็นเรื่องที่น่ากลัว โดยยอดสินเชื่อที่ปล่อยล่าสุดเดือนพฤษภาคม 2550 จำนวน 43,500 ล้านบาท เป็นเอ็นพีแอลสูงถึง 20,500 ล้านบาท จากเดิมสิ้นปี 2549 มีเอ็นพีแอลเพียง 19,000 ล้านบาท หรือ 43% ของพอร์ตสินเชื่อรวม

"เอ็นพีแอลของเอสเอ็มอีแบงก์ ยังจะเพิ่มขึ้นอีกเดือนละ 300-400 ล้านบาท ซึ่งการแก้ไขเอ็นพีแอลให้เหลือ 25% ภายในสิ้นปีนี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว ผมได้ให้นโยบายเอสเอ็มอีแบงก์ให้ตั้งเป้าการดำเนินงานระยะยาว 3 ปี ข้างหน้า เพราะการแก้หนี้เสียไม่ใช่เรื่องง่ายต้องใช้เวลา” นายสมหมายกล่าว

นายสมหมาย กล่าวว่า ได้ให้แนวทางแก้ปัญหาเอ็นพีแอล ด้วยการขยายสินเชื่อใหม่ เพื่อให้สัดส่วนเอ็นพีแอลลดลง นอกจากนี้ให้ปรับปรุงฝ่ายบริหารและเจ้าหน้าที่บางคนที่วางใจไม่ได้ ออกจากการทำหน้าที่เพื่อป้องกันไม่ทำให้เกิดความเสียกับธนาคาร ส่วนการขายหนี้เสียได้กำชับให้พิจารณารอบคอบ เพราะการหนี้เสียจำนวนมาก จะต้องตั้งสำรองสูง มีผลต่อเงินกองทุนและสินทรัพย์เสี่ยง ที่ปัจจุบันอยู่ 11.5% แม้ว่าคลังจะเพิ่มทุนให้ใหม่ในปีงบประมาณ 2551 จำนวน 1,200 ล้านบาท ก็ไม่ได้ส่งผลให้เงินกองทุนสูงขึ้นมาก

อย่างไรก็ตาม นายสมหมาย กล่าวว่า รัฐบาลจะไม่ยุบเอสเอ็มอีแบงก์ เพราะเป็นเครื่องมือที่สำคัญด้านเศรษฐกิจ แต่การเข้าไปช่วยเหลือก็ต้องมีข้อจำกัด เพราะที่ผ่านมาเอสเอ็มอีแบงก์มีปัญหาการทุจริต ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการฟ้องร้อง เพื่อหาคนรับผิดชอบ

นายสมชัย สัจจพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร เอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า ในช่วง 7-8 เดือนที่ผ่านมา เป็นช่วงปรับโครงสร้าง ซึ่งขณะนี้การปล่อยสินเชื่อเริ่มขยายตัวดีและมีคุณภาพ ตัวเลขในเดือนพฤษภาคม 2550 เริ่มดีขึ้น หลังจากนี้คาดว่าจะปล่อยสินเชื่อได้เดือนละ 1,000 ล้านบาท

นายพงษ์ศักดิ์ ชิวรัตน์ กรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า การแก้เอ็นพีแอลมีความลำบาก เพราะเป็นหนี้เก่าค้างมานาน บางส่วนยกเลิกกิจการต้องใช้เวลาการขายทรัพย์สิน ขณะที่เอ็นพีแอลที่ปรับโครงสร้างให้ดีขึ้นก่อนหน้านี้ก็กลับมาเป็นเอ็นพีแอลใหม่ นอกจากนี้เอ็นพีแอลที่มีคุณภาพดีก็ได้ข้อย้ายไปกู้ใหม่กับธนาคารพาณิชย์จำนวน 1,200 ล้านบาท ทำให้ฐานลูกค้าดีของธนาคารลดลงและต้องมีต้นทุนหาลูกค้าใหม่

นายพงศ์ศักดิ์ กล่าวว่า ธนาคารได้วางแผนแก้เอ็นพีแอล 20,000 ล้านบาท ด้วยการแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ หนี้ที่เพิ่งตกชั้นเป็นเอ็นพีแอล ทางธนาคารจะแก้ไขเอง หนี้เอ็นพีแอลที่เกิน 10 ปี ซึ่งเป็นหนี้ที่บริหารได้ยาก ก็จะจ้างบริษัทเอกชนมาบริหารจัดการแทน และหนี้ที่สะสมนานกว่า 20 ปี ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)ว่าจะตัดแบ่งขายหรือไม่ ซึ่งจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า แนวทางการบริหารจัดการและการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในช่วงครึ่งปีแรกปี 50 ( ม.ค.-มิ.ย.) ว่า ธนาคารได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรใหม่ โดยแบ่งสินเชื่อลูกค้ากลุ่มเป้าหมายตามพื้นที่เพื่อให้การดำเนินการเกิดความคล่องตัวแก้ปัญหาการปล่อยสินเชื่อที่แต่เดิมกำหนดแบ่งตามคลัสเตอร์ และมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสินเชื่อแยกตามวงเงินเป็น 4 ชุด โดยมีมาตรฐานเดียวกันในการพิจารณา และมีการเพิ่มบทบาทให้ศูนย์ธุรกิจ โดยกระจายอำนาจการอนุมัติสินเชื่อไม่เกิน 3 ล้านบาท ให้ศูนย์ธุรกิจและเขตสามารถดำเนินการได้โดยมีกรอบและหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน และให้ติดตามดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด

รวมถึงลดระยะเวลาการพิจารณาสินเชื่อเหลือ 45 วัน จัดทำคู่มือมาตรฐานการอำนวยสินเชื่อ การประเมินราคาหลักประกัน มีระบบการตรวจสอบความโปร่งใส สอบทานได้ และธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองลูกค้า เช่น โครงการ Alliance Lane ให้พันธมิตรช่วยกลั่นกรองลูกค้าชั้นดีให้ โครงการสินเชื่อเสริมสภาพคล่องลูกค้าชั้นดี เพื่อช่วยเหลือลูกค้าชั้นดี และโครงการสินเชื่อพลิกฟื้นกิจการเพื่อให้ลูกค้า NPLs มีสภาพคล่องสามารถเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้

อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีหลัง 2550 ธนาคารได้วางแผนปฏิบัติการเชิงรุก 5 ด้าน คือ 1. มุ่งเน้นการแก้ไขหนี้ NPLs ทั้งระบบอย่างเป็นรูปธรรม 2. เร่งรัดเพิ่มยอดอนุมัติสินเชื่อใหม่ ที่มีคุณภาพทั้งกับฐานลูกค้าเดิมที่เป็นลูกค้าชั้นดี และกับผู้ประกอบการจากหน่วยงานพันธมิตร 3. พัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าธนาคารให้เข้มแข็ง โดยเน้นกลุ่มลูกค้าชั้นดีที่มีโอกาสขยายกิจการและกลุ่ม NPLs ที่ปรับโครงสร้างธุรกิจแล้วให้สามารถทำธุรกิจต่อไปไม่ติดขัดอีก

4. จะปรับปรุงกระบวนการทำงานทุกส่วนให้รวดเร็ว และเกิดความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้ผู้ประกอบการมั่นใจที่จะมาใช้บริการกับธนาคาร และสุดท้าย จะควบคุมค่าใช้จ่ายและหาทางเพิ่มรายได้ทางอื่น เพื่อทำให้ผลประกอบการของธนาคารปีนี้เป็นบวก โดยมั่นใจว่าแผนปฏิบัติการทั้ง 5 ด้านจะทำให้ธนาคารบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us