Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2534








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2534
จราจรบนฟ้า ที่หาดใหญ่และภูเก็ต             
 


   
search resources

ท่าอากาศยานไทย, บมจ.
อัมพร หงส์ไกร
เรืองวุฒิ วุฒิเสน
Aviation




วันนี้ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และภูเก็ตมีระบบเรดาร์ เพื่อควบคุมการจราจรทางอากาศใช้แล้ว ซึ่งจะช่วยการปฏิบัติงานของผู้ควบคุมจราจรทางอากาศ ให้สามารถปฏิบัติงานอย่างสะดวกและรวดเร็ว สามารถรองรับปริมาณเที่ยวบินที่มีจำนวนมากในขณะนี้

ท่าอากาศยานหาดใหญ่ในอนาคตจะได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศต่อจากสิงคโปร์ ในขณะที่ภูเก็ต ณ วันนี้ได้กลายเป็นท่าอากาศยานนานาชาติไปแล้ว ดังนั้นภาวะความจำเป็นในการควบคุมการจราจรทางอากาศที่มีความปลอดภัยสร้างความมั่นใจได้ถึง 100 % จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง

หากจำกันได้เมื่อ 3 ปีก่อนเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่ภูเก็ตคือเครื่องของสายการบินไทยตกกลางทะเล ขณะที่กำลังจะบินลงตามหลังสายการบินดรากอนร์แอร์อุบัติเหตุครั้งนั้นกล่าวกันว่าเกิดจากการให้สัญญาณผิดพลาด และอ่อนภาษาของเจ้าหน้าที่ควบคุมหอบังคับการบิน ขณะนั้นการควบคุมการบินใช้วิทยุแทนที่จะเป็นการใช้เรดาร์ตามมาตรฐาน เมื่อเครื่องบินไทยขาดการติดต่อและหายไปเฉย ๆ จึงไม่สามารถตรวจทิศทางได้ถูกต้องและเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ทำให้ทางศูนย์ควบคุมการบินภูเก็ต ซึ่งขณะนั้นอยู่ภายใต้การดูแลของกรมการบินพาณิชย์ได้ออกคำสั่งย้ายจงสวัสดิ์ ลีลาฤกษ์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หอบังคับการเข้ามาประจำศูนย์ที่หาดใหญ่ ซึ่งเป็นท่าอากาศยานที่มีเที่ยวบินพาณิชย์มาลงน้อยกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับภูเก็ต

สถิติการจราจรทางอากาศล่าสุดของปีนี้มีเที่ยวบินขึ้นลงที่หาดใหญ่ จำนวน 6,646 เที่ยวบินส่วนภูเก็ตมีจำนวน 15,412 เที่ยวบิน

หลังจากมาประจำการที่หาดใหญ่ได้ประมาณ 2-3 เดือน จงสวัสดิ์ก็เสียชีวิตเนื่องจากประสบอุบัติเหตุขับรถชนเสาไฟฟ้า "หลังเกิดเหตุการณ์เครื่องบินตกจนต้องถูกสั่งย้าย เขาก็กลายเป็นคิดมากเหมือนคนเป็นโรคประสาท" แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดจงสวัสดิ์เปิดเผยสาเหตุการตายของเขา

ศูนย์ควบคุมการบินที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่และภูเก็ตเวลานี้อยู่ในสังกัดของบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย ซึ่งรับมอบโอนงานมาจากกรมการบินพาณิชย์ระบบเรดาร์ที่ใช้ควบคุมการบินทั้งหาดใหญ่ และภูเก็ตนี้เป็นระบบเรดาร์ปฐมภูมิที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมในระยะ 60 ไมล์ทะเล สามารถแสดงตำแหน่งความสูงและทิศทางของเครื่องที่กำลังบินอยู่ รวมไปถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการควบคุมเครื่องบิน ซึ่งจะเป็นการสะดวกและรวดเร็วต่อการรองรับปริมาณเที่ยวบินที่คับคั่งมาก และระบบดังกล่าวนี้จะเชื่อมต่อกับเรดาร์ระบบทุติยภูมิที่ติดตั้งใช้งาน ณ สนามบินสุราษฏร์ธานีที่ควบคุมได้ในระยะ 250 ไมล์ทะเล เมื่อทั้ง 2 ระบบเชื่อมต่อกันได้จะสามารถครอบคลุมได้ทั่วอาณาเขตทางภาคใต้และจะมีรัศมีเลยเข้าไปในประเทศมาเลเซียตอนบน

"ถึงแม้จะมีหรือไม่มีระบบเรดาร์ใช้ผมว่าความปลอดภัยก็ยังคงมีเท่ากัน เพียงแต่ว่าเมื่อมีระบบเรดาร์ใช้แล้ว ความสามารถของระบบเรดาร์ จะทำให้การควบคุมการจราจรทางอากาศได้รวดเร็วขึ้น และสามารถเห็นบนจอเรดาร์ได้ว่าขณะนี้เครื่องบินกำลังอยู่ในทิศทางใด" อัมพร หงสไกร ผู้จัดการศูนย์ควบคุมการบินหาดใหญ่กล่าวถึงจุดดีของการใช้เรดาร์

อัมพรเพิ่งย้ายเข้ามาเป็นผู้จัดการศูนย์ควบคุมได้ประมาณ 2 ปี เดิมเป็นเจ้าหน้าที่ช่วยบริหาร 3 ประจำอยู่ที่เชียงใหม่ ถึงแม้จะไม่เคยมีประสบการณ์ในด้านอุบัติเหตุเครื่องบินตกมาก่อน แต่เขาก็มั่นใจว่าที่หาดใหญ่นี้จะมีปัญหา และอุปสรรคน้อยกว่าที่อื่นเมื่อเปรียบเทียบระหว่าง 3 ศูนย์ คือเชียงใหม่ หาดใหญ่และภูเก็ต

"ที่หาดใหญ่มีเครื่องบินพาณิชย์ขึ้นลงน้อย ส่วนใหญ่เที่ยวบินจะเป็นเครื่องบินของกองทัพอากาศและเครื่องบินขนส่งสินค้า" อัมพรกล่าวถึงลักษณะของเที่ยวบินที่ขึ้นลงที่หาดใหญ่

ต่างกับภูเก็ตซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติ ลักษณะเที่ยวบินส่วนใหญ่เป็นเครื่องบินพาณิชย์มากขณะที่เที่ยวบินขนส่งสินค้ากลับน้อย

ภูเก็ตมีผู้จัดการศูนย์ควบคุมการบินมาแล้ว 3 คน เรวัตร บุนนาคเป็นผู้จัดการศูนย์คนแรกหลังรับมอบโอนงานจากกรมการบินพาณิชย์ซึ่งเป็นปีที่เครื่องบินการบินไทยตก ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการใหญ่ส่วนผู้จัดการศูนย์ ฯ คนที่ 2 คือ อุดม เผือกอำไพ ปัจจุบันย้ายเข้ามาบริหารงานที่ทุ่งมหาเมฆ และเรืองวุฒิ วุฒิเสน ผู้จัดการศูนย์คนปัจจุบันเพิ่งรับตำแหน่งหมาด ๆเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมนี่เอง

เรืองวุฒิเล่าว่า เขาอยู่กับบริษัทวิทยุการบินมาประมาณ 31 ปี และเหลือเวลาอีก3 ปีก็จะปลดเกษียนแล้ว ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นประกอบกับเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยจะสามารถสร้างความมั่นใจต่อการสร้างภาพพจน์ของสนามบินภูเก็ตที่ ณ ปัจจุบันเป็นสนามบินนานาชาติมีความปลอดภัยอย่างมากมายโดยเฉพาะระบบเรดาร์ที่นำมาใช้ เป็นระบบที่ทันสมัยและสมบูรณ์แบบ

"ถึงแม้จะมีเรดาร์ใช้แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถควบคุมไม่ให้เครื่องตกได้ ระบบเรดาร์เป็นแต่เพียงเครื่องมือหรืออุปกรณ์ส่วนหนึ่ง ที่ช่วยในการปฏิบัติงานของผู้ควบคุมจราจรทางอากาศให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างสะดวก และรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมเท่านั้นแต่ก็สามารถทำให้รู้ตำแหน่งที่แน่นอน มีความแม่นยำ สามารถแสดงความสูงและทิศทางของเครื่องบินที่กำลังบินอยู่รวมถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการควบคุมการบิน" เรืองวุฒิพูดถึงข้อดีของเรดาร์ซึ่งเขาเห็นว่ามันคนละประเด็นกับเครื่องบินตก

ระบบเรดาร์ใหม่ได้มีการติดตั้งและดำเนินการแล้ว ที่ศูนย์หาดใหญ่ใช้ของบริษัทอัลลีเนียจากอิตาลีในงบประมาณ 99 ล้านบาท ในขณะที่ภูเก็ตใช้ของบริษัท โตชิบา งบประมาณ 155 ล้านบาท ส่วนศูนย์ ฯ ที่สุราษฏร์ธานีกลับเป็นของบริษัทเอ็นอีซีในงบประมาณ 50 ล้านบาท

ทั้ง 3 ศูนย์ ฯ นี้จะมีการเชื่อมต่อระบบกัน หาดใหญ่และภูเก็ตเป็นเรดาร์ระบบปฐมภูมิส่วนสุราษฏร์ฯ เป็นระบบทุติยภูมิสามารถควบคุมได้ในระยะ 250 ไมล์ทะเล

จำนวนเที่ยวบินจะมีปริมาณความคับคั่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตถูกคาดการณ์กันไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าตัวใน 5-10 ปีข้างหน้านี้ ดังนั้นถ้าหากไม่มีการใช้ระบบเรดาร์ที่ทันสมัยท่าอากาศยานของไทยก็จะถึงจุดแออัดและตกอยู่ในสภาพอันตรายต่อการขึ้นลงของเที่ยวบินอย่างมาก

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us