Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 กรกฎาคม 2550
ตลท.เล็งรีดค่าฟีบจ.ฟรีโฟลทต่ำชินคอร์ปติดโผ             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
Stock Exchange




ตลาดหลักทรัพย์ฯ เล็งเก็บค่าธรรมเนียม "ชินคอร์ป" และบริษัทที่มีฟรีโฟลทต่ำกว่าเกณฑ์รวม 21 แห่ง ขีดเส้นเริ่มเก็บ ก.ค.ปีหน้าเป็นปีแรก พร้อมประกาศยกเลิกคอลมาร์เกตเพื่อย้ายกลับซื้อขายหมวดปกติ 4 ก.ค.นี้

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการยกเลิกมาตรการ Call Marketในวันที่ 4 กรกฎาคม 2550 เพื่อให้หลักทรัพย์ของบริษัทกลับมาซื้อขายในระบบปกติ (Automatic Order Matching : AOM) แทน ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายและการกระจายหุ้นทำได้สะดวกขึ้น รวมทั้งการดำเนินการดังกล่าวยังไม่มีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย

โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะให้ระยะเวลาบริษัทจดทะเบียนในการแก้ไขการกระจายการถือหุ้นให้ครบถ้วน โดยในปีแรก ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะแจ้งให้บริษัทจดทะเบียนได้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ไขให้บริษัทจดทะเบียนมีคุณสมบัติในด้านการกระจายการถือหุ้นตามเกณฑ์

หากบริษัทจดทะเบียนยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไขการกระจายการถือหุ้นได้ในปีที่ 2 ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะแจ้งการขาดคุณสมบัติของบริษัทจดทะเบียนให้ผู้ลงทุนได้ทราบ และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มในงวดถัดไป (กรกฎาคมปี 2551 - มิถุนายนปี 2552) โดยนับเป็นปีที่หนึ่งตามจำนวนการกระจายผู้ถือหุ้นรายย่อยที่บริษัทยังไม่สามารถปฏิบัติได้ตามเกณฑ์ และจะเรียกเก็บต่อไปตามอัตราค่าธรรมเนียมที่กำหนดจนกว่าบริษัทจะสามารถแก้ไขคุณสมบัติได้

สำหรับบริษัทจดทะเบียนจำนวน 21 แห่ง ที่มีคุณสมบัติด้านการกระจายของผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ครบถ้วนตามข้อกำหนดติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ขึ้นไป จำนวน 15 แห่งในระบบการจับคู่ในช่วงเวลา (Call Market) ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะให้เข้ามาซื้อขายในหมวดปกติ 13 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท รองเท้าบาจาแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (BATA) บริษัท เทพธานีกรีฑา จำกัด (มหาชน) (CSR) บริษัทนำสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) (NSI) บริษัท ปทุม ไรซมิล แอนด์ แกรนารี่ จำกัด (มหาชน) (PRG) บริษัท แพ็คฟู้ด จำกัด (มหาชน) (PPC)

บริษัท โรงแรมราชดำริ จำกัด (มหาชน) (RHC) บริษัท โรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)(ROH) บริษัทไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)(SCNYL) บริษัท แชงกรี-ลา โฮเต็ล จำกัด (มหาชน) (SHANG) 10 บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) (SVH) บริษัท ไทย อกริ ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน)(TAF) 12 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (TBANK) บริษัท ยูไนเต็ดฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) (UFM)

ส่วนที่เหลืออีก 4 บริษัท คือ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) (SCBT) และบริษัท นครหลวงเส้นใยสังเคราะห์ จำกัด (มหาชน) (HTX) ได้สั่งยกเลิกการกำหนดให้หลักทรัพย์ทั้ง 2 บริษัท ซื้อขายในระบบ Call Market มีผลตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2550 เป็นต้นไป โดยยังคงสั่งห้ามการซื้อหรือขายต่อไป

สำหรับบริษัทที่ขาดคุณสมบัติเป็นปีที่ 2 อีกจำนวน 6 บริษัท ยังคงซื้อขายในระบบปกติ ได้แก่ บริษัท วาไทยอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (HT) บริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) (RANCH) บริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน) (SAFE) บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SHIN) บริษัท ยูไนเต็ดคอมมูนิเกชั่น อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (UCOM) และบริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) (VNT)   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us