|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เนสท์เล่เพียวไลฟ์ ตั้งเป้าขึ้นแท่นผู้นำภายใน 3 ปี เปิดแผนรุก อัดงบ 100 ล้านบาทลุยปีนี้ มุ่งเน้น Emotional Marketing เพิ่มกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ลุยเจาะตลาดบ้านเล็งเพิ่มกำลังการผลิต
นายประหยัด อนุชิราชีวะ กรรมการบริหารธุรกิจน้ำดื่ม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดปีนี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 7-8% จากมูลค่าตลาดรวมที่สูงกว่า 13,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา และการแข่งขันในตลาดรวมส่วนใหญ่จะเน้นที่กลยุทธ์การสร้างแบรนด์เพื่อให้เกิดการยอมรับจากผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งสอดรับกระแสคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในสุขภาพ
ในปีที่ผ่านมา เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ สามารถมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ของตลาดขวดเพ็ท หรือ ประมาณ 24% ซึ่งคาดว่าการรุกทำตลาดอย่างหนักในปีนี้ จะสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นและสามารถผลักดันให้บริษัทฯก้าวสู่ความเป็นอันดับ 1 ในอนาคตอันใกล้ได้อย่างแน่นอน สำหรับตลาดน้ำดื่มขวด PET โดยรวม
ปัจจุบัน ผู้นำตลาดคือ น้ำสิงห์ มีแชร์ 26-27% รองลงมาคือ เนสท์เล่ มีแชร์ 24-25% (แบ่งเป็นเพียวไลฟ์ 19% และมิเนเร่ 6%) ส่วนอันดับทีสามคือ คริสตัล มีแชร์ 17-18%
ทั้งนี้ในปีนี้เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีนี้โตกว่า 50% โดยยอดขายใน 5 เดือนแรกที่ผ่านมาโตประมาณ 49.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียว และคาดว่าจะสามารถขึ้นเป็นอันดับ 1 ได้ภายใน 2-3 ปี ซึ่งมีแผนที่จะกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วทุกจังหวัด โดยปัจจุบันอัตราการเข้าถึงร้านค้า (Penetration) ที่อยู่ในตัวเมืองอยู่ประมาณ 50% โดยมีผู้แทนจำหน่าย (distributor)ที่รับผิดชอบในการกระจายสินค้าประมาณ 40 ราย ซึ่งใช้งบประมาณรวมทั้งปี 2550 กว่า 100 ล้านบาท
ส่วนอีกช่องทางที่น่าจะเป็นช่องทางที่มีศักยภาพ คือ การเจาะตลาดบ้าน ซึ่งผู้บริโภคในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาจะมีการต้มน้ำดื่ม หรือ กรองน้ำดื่มน้อยลง คนจะหันมาซื้อน้ำรับประทานมากขึ้น ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้บริษัทฯขยายตลาดได้มากขึ้น
นอกเหนือจากช่องทางร้านชำ และโรงเรียนแล้ว ทางเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ยังเน้นการเข้าถึงช่องทางร้านอาหารตามจังหวัดต่าง ๆ โดยมีร้านค้าเป้าหมายประมาณ 50,000 ร้านทั่วประเทศ ซึ่งเป็นร้านค้าในเครือข่ายของเพียวไลฟ์แล้วประมาณ 50,000 ร้าน
ปัจจุบันกำลังศึกษาการเพิ่มกำลังผลิต (ซึ่งใช้เต็มกำลังประมาณปีละ 2-300 ล้านขวด) ว่าจะเป็นการเพิ่มไลน์ผลิต หรือ การสร้างโรงงานใหม่ ซึ่งหากเป็นโรงงานใหม่น่าจะเป็นในทำเลที่สะดวกต่อการขนส่งให้กับร้านค้าในจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นทางภาคใต้
สำหรับแผนการตลาดครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯเตรียมเดินหน้าเจาะตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดเพ็ทด้วยกลยุทธ์การตลาดแนว Emotional Marketing ภายใต้คอนเซ็ปท์ “การให้ คือการหยิบยื่นสิ่งดีๆ ให้แก่กันและกัน” เพื่อตอกย้ำกระแสการรับรู้ในแบรนด์เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ต่อกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่ทันสมัย ด้วยการออกแคมเปญ “Care Delivery” เพื่อสานต่อแคมเปญโฆษณาที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปี ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับดีมากทั้งในด้านการรับรู้ของภาพยนตร์โฆษณา และการจดจำตราสินค้าน้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์
|
|
|
|
|