Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2534








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2534
สร้างปตท.ให้เป็นที่หนึ่งภาระกิจสำคัญของประเสริฐ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ปตท., บมจ.
ประเสริฐ บุญสัมพันธ์
Oil and gas




แม้ว่าเขาจะหลวมตัวอยู่การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) มาแล้ว 9 ปี แต่เขาก็ทำงานที่นี่ด้วยหัวใจและความภูมิใจกับงานที่ได้ทำไปไม่ว่าใครจะมองปตท.ด้วยสายตาอย่างไร ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ นับเป็นคนในองค์กรรัฐวิสาหกิจอย่างปตท.อีกหลาย ๆ คนที่ทุ่มเทและผลักดันงานไม่ด้อยไปกว่าภาคเอกชน

โดยเฉพาะต่อแนวโน้มการแข่งขันในตลาดน้ำมันที่นับวันจะดุเดือดอีกหลายเท่าทวี เลื่อน กฤษณกรี จึงเซ็นคำสั่งขณะรักษาการผู้ว่าการปตท.แทนอาณัติ อาภาภิรมซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ย้ายประเสริฐจากฝ่ายจัดซื้อน้ำมันและสัญญามาเป็นผู้ช่วยผู้ว่าการตลาด ตำแหน่งที่ว่างมานานเพื่อช่วยเสริมทีมงานด้านตลาด

ที่จริง ประเสริฐฝันอยากจะทำธุรกิจส่วนตัว แต่ดูเหมือนว่าปัจจัยแวดล้อมได้ผลักดันให้เขาตัดสินมาปตท.และเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีบทบาทสำคัญคนหนึ่งของที่นี่

ประสบการณ์ที่ผ่านมาจึงกลายเป็นเครื่องเกื้อหนุนให้เขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

พอประเสริฐจบวิศวะ ฯ สาขาโยธาจากจุฬา ฯ ก็ไปต่อปริญญาโทบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยยูทาห์ สหรัฐ ฯ กลับมาสมัครงานที่เอสโซ่ในปี 2520 ที่ซึ่งได้เรียนรู้และเข้าใจธุรกิจน้ำมันในประเทศ

"มีคนบอกว่า เอสโซ่เข้ายาก แต่ทำงานง่าย ทีแรกผมไม่เชื่อ " ประเสริฐย้อนความรู้สึกในตอนนั้น "ที่ว่ายาก เพราะมีคนอยากเข้ามาก แต่ทำงานง่ายเราะเขามีระบบที่ดี เขาจะมีคู่มือการทำงานไว้หมด"

"พอเข้าไป เขาจะอธิบายพื้นฐานธุรกิจ ทุกคนจะได้รับการเทรนว่าให้มุ่งไปในตัวงาน การประสานงานจึงดี มีการถ่ายเทข้อมูลดี แต่ละคนจะไม่สนใจเรื่องส่วนตัวคนอื่น ไม่รู้สึกว่าใครเป็นคนของใคร และเชื่อว่าเมื่อทำดีแล้วจะได้ดี จะมีผู้บังคับบัญชาดูแลอีกทีพอปลายปีเขาจะดูว่าแต่ละคนมีศักยภาพโตได้ขนาดไหน มีจุดเด่นหรือจุดด้อยอะไร ควรจะเสริมอย่างไร"

อยู่เอสโซ่ ประเสริฐเริ่มต้นจากการวางแผนตลาดรวม "ทุกฝ่ายจะส่งข้อมูลมาให้ ซึ่งเขาจะระบุไว้ว่ามีหัวข้ออะไรบ้าง"

จากนั้นก็ย้ายไปดูงานวางแผนปฏิบัติการของคลังที่ช่องนนทรี รับผิดชอบการรับและจ่ายน้ำมัน รวมไปถึงการผสมน้ำมันเครื่องและจาระบี 2 ปี

แล้วประเสริฐก็ลาออกไปเป็นผู้จัดการตลาดที่บริษัทเบอร์ลี่ยุคเกอร์ เพราะหวังว่าจะไปเรียนรู้กลไกการค้า ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นทำธุรกิจของตนเองในอนาคต

ที่เบอร์ลี่ ทำให้เขาเข้าใจระบบการค้าระหว่างประเทศเนื่องจากได้เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการนำเข้าส่งออกทั้งระบบ

แต่อยู่ได้เพียงปีเดียว ก็ตัดสินใจมาช่วยงานที่ปตท.ตามคำชวนครั้งแล้วครั้งเล่าของ โสภณ สุภาพงษ์ ซึ่งรับผิดชอบด้านจัดหาและกลั่นน้ำมันในปี 2525

จุดหักที่ทำให้เขาทิ้งเงินเดือน 30,000 บาทมารับแค่ 14,000 บาท ก็ด้วยเหตุผลสำคัญว่าปตท.เป็นองค์กรน้ำมันใหม่ของไทย จึงควรจะมาช่วยกันสร้าง

ขณะนั้นเป็นช่วงซึ่งปตท.เพิ่งจะลงเสาเข็ม ประเสริฐเข้ามาเป็นผู้อำนวยการกองจัดหาเรือขนส่ง มีหน้าที่หาเรือมารับน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปที่สั่งซื้อมาจากต่างประเทศจากศรีราชาเข้ากรุงเทพ พร้อมทั้งรับหน้าเจรจาซื้อขายน้ำมันดิบกับไทยเชลล์

ทั้งกองมีประเสริฐทำงานอยู่คนเดียวเช่นเดียวกับการเริ่มต้นงานด้านอื่น ๆ ของปตท.ที่มักจะเริ่มต้นด้วยคนแค่หนึ่งหรือสองคน และทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ

ทุกอย่างต่างไปจากเบอร์ลี่หรือโดยเฉพาะเอสโซ่ที่เขาเคยอยู่โดยสิ้นเชิง ขาดทั้งคนทั้งข้อมูล เรียกว่าต้องทุ่มเทกันเป็นพิเศษ

ยิ่งกว่านั้นก็คือเมื่อโสภณซึ่งเป็นมือทองด้านการจัดหาและกลั่นน้ำมันของปตท.และมันสมองสำคัญของร.ท.ศุลี มหาสันทนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งรับผิดชอบด้านพลังงาน พอจะวางแผนหรือเตรียมข้อมูล โสภณ เป็นคนซึ่งรับนโยบายมาปฏิบัติก็มอบหมายให้ประเสริฐอีกทอด หนึ่ง

ทั้งโสภณและประเสริฐจึงต้องอดตาหลับขับตานอนทำงานกันถึงตีสามสี่เพื่อให้ทันกับความต้องการได้ทันทีในวันรุ่งขึ้น

ต่อมา ประเสริฐได้เลื่อนขั้นมารักษาการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการขนส่งปี 2526 และเป็นผู้อำนวยการฝ่ายนี้ในปีถัดมา

ชีวิตการทำงานช่วงนี้พูดได้ว่าประเสริฐแทบเป็นเงาตามตัวของโสภณ ประเสริฐเองยอมรับว่าตนได้เรียนรู้ธุรกิจการจัดหา และกลั่นน้ำมันจากโสภณอย่างมาก ขณะที่โสภณเองก็ชื่นชมประเสริฐอยู่ไม่น้อย

ด้วยเหตุนี้เมื่อโรงกลั่นบางจากได้จดทะเบียนเป็นบริษัท บางจากปิโตรเลียมจำกัดในเดือนพฤศจิกายน 2527 โดยที่ยังคงเป็นรัฐวิสาหกิจ และได้มติพิเศษจากครม.ให้บริหารงานภายใต้โครงสร้างบริษัทจำกัดนั้นโสภณได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้จัดการของบางจาก ฯ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2528 ประเสริฐจึงได้รับการชักชวนไปเป็นผู้จัดการบริหารด้วยเพราะช่วยบุกเบิกมาแต่ต้น

แต่ทองฉัตร หงศ์ ลดารมภ์ผู้ว่าการปตท.ตอนนั้นยับยั้งเนื่องจากปตท.คนน้อย ส่วนจะช่วยงานทางบางจาก ฯ อย่างไรก็ไม่ว่ากัน

หัวเลี้ยวหัวต่อตรงนี้ทำให้ประเสริฐตกอยู่ในสภาวะที่ตัดสินใจยาก เพราะผู้ใหญ่หลายคนต่างก็อยากให้มาช่วยงานรับผิดชอบของตน ศิรินทร์ นิมมานเหมินท์ รองผู้ว่าด้านบริหารก็อยากได้ตัวเลื่อนซึ่งเป็นรอง ฯ ด้านตลาดก็ชวนมาช่วยงานด้านขายปลีก

"ที่สำคัญ ทำงานด้านจัดหาไม่นาน รู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อม" ประเสริฐให้เหตุผลที่ตัดสินใจไม่ไปไหน ต่อมาเขาจึงมานั่งในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อน้ำมัน งานรับผิดชอบซึ่งจะชี้เป็นชี้ตายภาพพจน์ของปตท.ได้ชัด

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายคนอยากได้ประเสริฐไปช่วยงานเนื่องเพราะเป็นลุยและสู้งานสิ่งที่ทำให้เขาโดดเด่นขึ้นมาเพราะ "เป็นคน CLEAN ทำงานก็ทำจริง ๆ ไม่เกี่ยงว่าผู้บังคับบัญชาจะเป็นใคร มีเหตุผลมีผล โลกทัศน์กว้าง" แหล่งข่าวซึ่งรู้จักประเสริฐดีสะท้อนภาพกับ "ผู้จัดการ" โดยเฉพาะกับงานจัดซื้อน้ำมันที่ปตท. เขาต้องจัดซื้อน้ำมันวันละประมาณ 1.7 แสนบาร์เรลต่อวันเพื่อส่งป้อนกลั่นที่บางจากและไทยออยย์ คิดเป็นราว 40 % ของประเทศ ถ้ารวมน้ำมันสำเร็จรูปที่นำเข้าบางส่วนแล้วเป็นเงินสูงรวม 3 หมื่นล้านบาท

องค์กรรัฐวิสาหกิจนั้นมักมีปัญหาเรื่องไม่ชอบมาพากลให้ได้ยินอยู่เสมอ แต่สำหรับงานจัดซื้อน้ำมันที่นี่พูดได้เต็มปากว่าทั้งไทยออย์และบางจาก ฯ ประสานงานด้วยความสบายใจ

เพราะงานจัดซื้อน้ำมันดิบเข้ามากลั่นไม่เพียงแต่มีคุณธรรมของความซื่อสัตย์สุจริตในหัวใจเท่านั้น แต่อย่างน้อยราคาต้องไม่แพงกว่าบริษัทคู่แข่งรายอื่นหรือถูกกว่า และต้องให้ผู้ขายยอมรับเครดิตว่าปตท.จะเป็นผู้ซื้อที่ดี

ประเสริฐกล่าวอย่างอิ่มใจกับผลงานในอดีต "มันเป็นงานท้าทาย นึกอยู่เสมอว่า เงินทองที่เกี่ยวข้องเป็นของคนไทย จึงต้องใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด ไม่ให้ใครเอาเปรียบและให้ทุกฝ่ายเชื่อถือ"

เหนืออื่นใด "พูดได้ว่าไม่มีการแทรกแซงเป็นต้น เป็นความภูมิใจกับงานที่เราได้ทำ สิ่งนี้จะเป็นยาเลี้ยงใจ" นี่กระมังจึงทำให้เขาหลวมตัวอยู่ปตท.มานานจนลืมความฝันของตนเอง แม้จะมีข่าวลาออกไปทำงานธุรกิจอยู่หลายครั้งก็ตาม

"เมื่อปตท.เป็นผู้ซื้อที่ดีแล้ว ปตท.ควรจะเป็นผู้ขายและเป็น BRAND ที่ยอมรับในตลาดโลกด้วย" จึงเกิดมีสำนักงานปตท.ที่สิงคโปร์ขึ้น และต่อไปจะเป็นในดูไบ ตลาดน้ำมันสำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลก

เครือข่ายปตท.เหล่านี้ จะเป็นเครื่องมือก้าวไปเป็นผู้ขาย "เพื่อค้าน้ำมันโดยตรง ซื้อมาขายไป เหมือนผู้ค้าอื่นในโลกก็จะช่วยลดต้นทุน หรือถ้ากำลังกลั่นไม่พอ ก็อาจจะนำเข้าบ้างหรือจ้างกลั่นบ้าง"

แต่ยังไม่สุดทางฝันในงานจัดซื้อน้ำมัน ประเสริฐก็ต้องมารับงานด้านตลาด โดยดูแลด้านการขายปลีกทั่วไป ขายรัฐและอุตสาหกรรม น้ำมันอากาศยานรวมไปถึงก๊าซ

ส่วนตัวแล้วเขายอมรับว่าเป็นงานหนัก แต่เมื่อได้รับมอบหมายแล้วก็เรียกว่าต้องสู้สุดความสามารถ "อาจารย์(เลื่อน)คงเห็นว่า ฝันจะให้ปตท.เป็นผู้ขายในตลาดโลก ตอนนี่อย่าเพิ่งเลย มาเป็นผู้ขายและช่วยในประเทศก่อนดีกว่าก็ได้นะ"

เพราะคราวนี้ ยังไงเลื่อนก็ต้องดึงตัวมาแน่ หลังจากที่เคยเสนอขอตัวอีกครั้งหนึ่งราวช่วงกันยายน 2533 สมัยผู้ว่าอาณัติ แต่เนื่องจากตอนนั้นยังอยู่ในช่วงวิกฤติอ่าวเปอร์เซียเรื่องจริงคาราคาซัง

การที่เลื่อนใช้อำนาจสั่งการคราวนี้ เพราะเห็นแล้วว่างานตลาดต้องเสริมทีมอย่างหนัก เพื่อสู้กับคู่แข่งน้ำทันรายอื่นให้ได้ในอนาคตและเห็นว่าประเสริฐมีศักยภาพที่จะช่วยเสริมงานตลาดซึ่งมีสมศักดิ์ ประสงค์ผลเป็นรองผู้ว่าด้านตลาดได้ดีที่สุดคนหนึ่ง

เนื่องเพราะคนทำงานด้านตลาดต้องลุย เผชิญปัญหารอบด้าน กล้าตัดสินใจ ปรับตัวเร็ว
ประเสริฐในวันนี้จึงต้องเปลี่ยนบทบาทจากที่เคยทำงานอยู่กับทีมงานไม่ถึง 20 คน มาคลุกคลีกับเฉพาะทีมขายถึง 350 คน ไม่รวมทีมงานตลาดอื่นอีกเป็นพัน

จากงานที่ติดต่อต่างประเทศ "ต้องยอมรับว่าเดี๋ยวนี้โลกแคบเพราะมีระบบสื่อสารถึงกันได้อย่างรวดเร็ว เมื่อสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นที่ไหน ถ้าดีก็มักจะเกิดขึ้นในอีกทีหนึ่งด้วย"

ด้วยประสบการณ์ที่เขาได้คลุกคลีอยู่กับโลกธุรกิจจัดหาน้ำมัน เข้าใจสภาพเศรษฐกิจสถานการณ์น้ำมันโลก รู้กลไกว่าน้ำมันชนิดใดจะเอามากที่ไหน กลั่นที่ใดได้ผลิตภัณฑ์อย่างไรฐานความรู้เหล่านี้จะเป็นปัจจัยเสริมในการทำงานตลาด เพราะทำให้ได้ข้าใจงานครบวงจรอย่างชัดเจน "ถ้าน้ำมันไม่พอก็จะเห็นภาพว่าจะเอาจากที่ไหน ยังไง"

ทุกวันนี้ประเสริฐจึงทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์ เสาร์อาทิตย์เขาจะออกพื้นที่ตามจังหวัดต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ขาดการเรียนรู้งานออฟฟิศในวันราชการ

ขณะที่การออกตลาดก็คือการสำรวจและเก็บข้อมูล ให้รู้เขารู้เราเพื่อช่วยกันพัฒนาตลาดปตท.ให้ดียิ่งขึ้น

"ผมว่า เมื่อปตท.ปรับโครงสร้างใหม่ และได้ยกเว้นระเบียบรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ เราคงจะทำงานได้คล่องตัวมากขึ้นและปตท.จะไปได้ไกล ที่นี่มีคนดีอยู่เยอะ เมื่อมีปัจจัยหนุนเกื้อ ทุกคนก็จะช่วยได้มาก" ประเสริฐกล่าวอย่างมั่นใจกับความพร้อมในการแข่งขันในตลาดน้ำมัน

เพราะเครื่องมือปตท.ไม่ได้ด้อยกว่าบริษัทอื่นเลย ดังนั้นภายใต้เงื่อนไขใหม่ ประเสริฐจึงฝันอยากเห็นปตท เป็นที่หนึ่งในประเทศ

ประเสริฐ ยอมรับว่า "เหนื่อย" กับภาระใหม่

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us