|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ททท.เล็งเปิดทางใช้สโลแกน "อะเมซิ่งไทยแลนด์" ลากยาวถึงปี 2552 พร้อมวางกรอบ 4 แนวทางหลักสร้างแบรนด์ตอกย้ำคาแรกเตอร์ของประเทศไทย ชูรอยยิ้มวัฒนธรรมและความหลากหลายมัดใจนักท่องเที่ยว ระบุที่ผ่านมาการเปลี่ยนสโลแกนทุกปี ไม่เกิดความจดจำ สิ้นเปลืองงบประมาณ
นายสุรพล เศวตเศรนี รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมแผนงานกำหนดยุทธศาสตร์การตลาด ททท. ประจำปี 2551 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 กรกฎาคมศกนี้ ได้เตรียมเสนอให้ใช้สโลแกนประเทศไทยด้านการท่องเที่ยวภายใต้ชื่อว่า “อะเมซิ่งไทยแลนด์” ต่อไปถึงปี 2552 จากเดิมที่ ททท.ได้นำสโลแกน “อะเมซิ่งไทยแลนด์” กลับมาใช้ถึงสิ้นปีนี้เท่านั้น หลังจากที่เลิกใช้ไปเมื่อ 6 ปีก่อน
การตัดสินใจนำสโลแกนดังกล่าวกลับมาใช้ต่อเนื่องอีก 2 ปีดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าสโลแกน "อะเมซิ่งไทยแลนด์" เป็นแบรนด์ที่ทำให้ต่างชาติรู้จักประเทศไทยอย่างแพร่หลาย เป็นแบรนด์ที่ทำให้เขาสามารถสื่อสารถึงบุคคลของประเทศไทย แหล่งท่องเที่ยวของไทยได้เป็นอย่างดี และที่ผ่านมาททท.ได้ใช้เงินเพื่อสร้างแบรนด์อะเมซิ่งมาแล้วจำนวนหนึ่ง ดังนั้นจะทำให้ททท.ประหยัดงบเรื่องอขงการสร้างแบรนด์ใหม่ๆ พียงแต่ใช้งบการตลาดและประชาสัมพันธ์เพื่อตอกย้ำแบรนด์เท่านั้น ป็นวงเงินที่น้อยมากเมื่อเทียบกับการที่ต้องมาสร้างแบรนด์ใหม่ๆ หรือสโลแกนใหม่ๆกันทุกปี
ทั้งนี้ตามแนวทางที่ททท.วางไว้ในแต่ละปี คือ ช้คำว่า อะเมซิ่งไทยแลนด์ เป็นแคมเปญหลัก ตามด้วยแคมเปญย่อยเขียนต่อท้ายประโยค พื่อสื่อให้เห็นถึงกิจกรรม หรือธีมที่ททท.ต้องการจะส่งเสริมในแต่ละครั้งหรือแต่ละปี
“ททท.ได้มีการทำวิจัยตลาด โดยให้สำนักงาน ททท.ในต่างประเทศทำแบบสอบถามไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยว และเอเยนต์ทัวร์ พบว่า ส่วนใหญ่รับรู้ว่า อะเมซิ่ง คือประเทศไทย ซึ่งเป็นคำที่สื่อถึงความหมายและบุคลิกของประเทศไทยได้ตรงจุด โดยเอเยนต์ทัวร์กล่าวว่า หากใช้สโลแกน อะเมซิ่งไทยแลนด์ จะไม่ต้องใช้เวลาอธิบายมาก นักท่องเที่ยวก็รับรู้ได้ทันที”
สำหรับแผนงานปี 2551 ตามที่ ททท.ได้จัดทำแผนการตลาดขณะนี้ เน้นสร้างการรับรู้ใน 4 เรื่องหลัก ตอกย้ำให้นักท่องเที่ยวรู้จักประเทศไทยในวงกว้างขึ้น กล่าวคือ 1. ความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว 2. ความสวยงามของเอกลักษณ์ความเป็นไทย ความแปลกใหม่ด้านวัฒนธรรมและวิถีชีวิต 3. ความทันสมัย หรือเทรนดี้ อย่างมีสไตล์ โดยเฉพาะในเรื่องของการชอปปิ้ง แฟชั่น และ4. สื่อความเป็นไทยด้วยรอยยิ้มที่นักเดินทางต่างชื่นชอบบุคลิกของคนไทยในด้านนี้มาก
ล่าสุด ททท.อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล และศึกษารายละเอียดเชิงลึก เพื่อเตรียมดำเนินแผนรีแบรนด์ดิ้งประเทศไทย ภายใต้สโลแกน อะเมซิ่งไทยแลนด์ เพื่อให้แบรนด์ดังกล่าวดูสดใหม่ มีสิ่งที่น่าสนใจและค้นหาตลอดเวลา โดยจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำงานกันเป็นทีมเวิร์ค เพื่อให้ภาพของประเทศไทย และการท่องเที่ยวเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาในแต่ละปี ททท.จะต้องเสียงบประมาณ ในการจัดทำสโลแกน หรือแคมเปญด้านการท่องเที่ยวใหม่ๆทุกปี พร้อมกับการทำตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ในต่างประเทศ ซึ่งต่อปี จะต้องเสียงบประมาณในส่วนนี้ไม่น้อยกว่าปีละ 100 ล้านบาท ได้แก่ อันซีน อินไทยแลนด์ หรือไทยแลนด์ อันฟอร์เก็ทเทเบิ้ล เป็นต้น ซึ่งมองว่าสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ
|
|
|
|
|