|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บล.นครหลวงไทย ปลื้ม 6 เดือนแรก กำไรพอร์ตลงทุน 6.5% จากมูลค่าพอร์ต 2 พันล้านบาท สูงกว่าทั้งปี 49 ที่มี 4.5% เหตุชิงขายบอนด์ระยะสั้นเกลี้ยงก่อนอัตราผลตอบแทนดิ่ง ได้ผลตอบแทนลงทุนหุ้นกว่า 17% บวกกับปล่อยมาร์จิ้นโลนมากขึ้น ขณะที่ครึ่งปีหลัง เล็งเพิ่มพอร์ตปล่อยมาร์จิ้นโลนเป็น 700 ล้านบาท ผู้บริหาร เผยรายได้พอร์ตลงทุนคิดเป็น 50%ของรายได้รวม
นายสาธิต วรรณศิลปิน กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน 6.5% จากพอร์ตการลงทุนที่มี 2,000 ล้านบาท ซึ่งมากว่าทั้งปี 2549 ที่มีผลตอบแทน 4.5% เนื่องจากบริษัทได้มีการขายตราสารหนี้ระยะสั้นออกมาทั้งหมดจำนวน 400 ล้านบาท ก่อนที่ผลตอบแทนตราสารหนี้จะมีการปรับตัวลดลง และต้นทุนที่บริษัทได้มีการเข้าไปลงทุนนั้นมีระดับที่ต่ำ ขณะที่การลงทุนในหุ้นจำนวน 100 ล้านบาท ได้รับเงินปันผล 9%
ทั้งนี้ เมื่อรวมกับกำไรจากการยกเว้นภาษีจากซื้อขายหลักทรัพย์ (แคปปิตอลเกน) ทำให้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นรวม 17% รวมถึงการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (มาร์จิ้นโลน) มากขึ้นเพิ่มเป็น 500 ล้านบาท จากสิ้นปี 2549 ที่มี 200 ล้านบาท และได้รับผลตอบแทนจากในอัตราที่ดี ซึ่งพอร์ตการลงทุนของบริษัทที่มี 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนในตราสารหนี้กว่า 1 พันล้านบาท ปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (มาร์จิ้นโลน) 500 ล้านบาท ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้จำนวน 200 ล้านบาท ลงทุนในหุ้นจำนวน 100 ล้านบาท
"การที่ครึ่งปีแรกนี้บริษัทได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนมากถึง 6.5% จากทั้งปี49 ที่มี 4.5% เนื่องจาก พอร์ตการลงทุนหุ้นให้ผลตอบแทนที่ดี และการลงทุนในตราสารหนี้นั้นบริษัทมีต้นทุนที่ต่ำ และบริษัทได้มีการขายตราสารหนี้ระยะสั้นออกมาหมดก่อนที่ยิวจะมีการปรับตัวลดลง รวมถึงบริษัทมีการปล่อยมาร์จิ้นโลนได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านบาท จากสิ้นปีที่มี 200 ล้านบาท" นายสาธิต
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนที่จะมีการปรับพอร์ตการลงทุน ซึ่งจะเพิ่มการปล่อยมาร์จิ้นโลนเป็น 700 ล้านบาท เพราะได้รับผลตอบแทนที่ดีและบริษัทมั่นใจในด้านการควบคุมภายในของบริษัทที่มีการบริหารจัดการที่ดี โดยคาดว่าผลตอบแทนที่จะได้รับจากการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังจะดีเหมือนกับในช่วงครึ่งปีแรกนี้
ส่วนเรื่องการไปลงทุนในต่างประเทศนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดเรื่องการลงทุน และตอนนี้ผลตอบแทนจากการลงทุนในประเทศก็ยังให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งหากบริษัทจะไปลงทุนในต่างประเทศก็อาจจะลงทุนผ่านกองทุนเพื่อลงทุนในต่างประเทศ (FIF)
นายสาธิต กล่าวว่า สำหรับรายได้จากพอร์ตการลงทุนของบริษัทขณะนี้คิดเป็น 50% ของรายได้รวม แต่บริษัทเชื่อว่ารายได้จากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวขึ้น จากที่ส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์)ของบริษัทมีการเพิ่มขึ้น2 เท่า จาก 0.4% เพิ่มขึ้นเป็น 0.9% ในช่วงครึ่งปีแรก โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีมาร์เกตแชร์1% จากที่บริษัทจะมีการเจาะ กลุ่มลูกค้าใหม่โดยจะเน้นลูกค้าที่เป็นฐานลูกค้าจากธนาคาร เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีเงินออมพร้อมที่จะลงทุน การอำนวยความสะดวกด้วยการสร้างความพร้อมในการให้บริการจึงถือว่าเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนที่ต้องการออมด้วยวิธีที่หลากหลาย
|
|
|
|
|