Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2550








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2550
P&G แก้วิกฤติด้วยสินค้าใหม่             
 


   
www resources

P&G Homepage

   
search resources

พร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (ประเทศไทย), บจก.
Consumer Products




สินค้าอุปโภคบริโภคที่เกี่ยวพันกับชีวิตประจำวัน เป็นสินค้าที่ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคดี หรือโชคร้าย เพราะถูกผูกเข้ากับภาวะเศรษฐกิจอย่างแยกกันไม่ออก ช่วงไหนเศรษฐกิจดี เจ้าของสินค้าก็ไม่ต้องเหนื่อย ทำสินค้าออกมาก็ขายได้

แต่หากเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี เจ้าของสินค้าก็ต้องออกแรงมากขึ้น เพราะผู้บริโภคอาจเลิกซื้อเอาง่ายๆ หรือหันไปหาสินค้าอื่นแทนได้ง่ายๆ

ช่วงนี้เช่นกัน ปริญดา หัศฎางค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ประเทศ ไทย ยอมรับว่า ไตรมาสแรกที่ผ่านมายอดขายสินค้า ของบริษัทตกลงไปเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่เธอก็ยังไม่เป็นห่วงมากนัก เพราะถึงจะลดลงก็ไม่มากหรือ สาหัสเท่าวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 และคาดว่าปีนี้ตลาดรวมของสินค้าอุปโภคบริโภคจะลดลง 3-4%

"วิกฤติครั้งที่ผ่านมาทำให้เรารู้ว่า ยิ่งวิกฤติมากเท่าไร เราต้องเร่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่คุ้มค่า กับเงินของผู้บริโภคให้มากขึ้นเท่านั้น" เธออธิบายวิธีการรับมือวิกฤติเศรษฐกิจทุกกรณีไม่ว่ามากหรือน้อย ในปีนี้พีแอนด์จีจะมีการพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ประมาณ 25 ตัว

สิ่งที่ผู้บริหารของพีแอนด์จีอธิบายสามารถมองได้ว่า

ประการแรก ไม่ต้องกระทบกับสินค้าเดิมที่มีอยู่ในตลาด ในแง่ของราคาที่จะปรับขึ้นหรือลงเพราะสินค้าบางตัว การกระทำเช่นนั้นส่งผลกระทบต่อยอดขายและพฤติกรรมของผู้บริโภค ปล่อยให้สินค้าเดิมอยู่ในตลาดต่อไปทั้งในแง่ของราคา ขนาด และคุณภาพ ส่วนจะผลิตเพิ่มหรือลดการผลิต ก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง

ประการที่สอง สินค้านวัตกรรมใหม่ หรือเพิ่มคุณค่าให้สินค้า ก็น่าจะตีความหมายได้ว่า เป็นสินค้าใหม่แต่แบรนด์เดิม ก็ต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ โดยเฉพาะราคาขาย ขนาดบรรจุ แต่หากต้องปรับราคา ขึ้น ก็มีเหตุผลเพียงพอที่จะยกขึ้นมาอธิบายได้ว่า เป็นสินค้าใหม่ คุณสมบัติใหม่ๆ

และนี่!! ไม่ใช่การปรับราคา

ปริญดาบอกว่า การที่จะปรับราคาขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสินค้า และปัจจัยอื่นๆ ในแต่ละช่วง แต่เธอเชื่อว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงนี้เปลี่ยนไปโดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ก็ต้องสวยไว้ก่อน

แต่สิ่งที่พีแอนด์จีกำลังให้ความสำคัญมากในช่วงนี้คือการสร้างทีมและบุคลากร ซึ่งปริญดาบอกว่า บริษัทใช้เงินในการฝึกอบรม บุคลากรเป็นจำนวนมากในแต่ละปี โดยเฉลี่ยบริษัทมีโปรแกรมอบรม พนักงานถึง 92 ครั้งต่อปี และพนักงานใหม่สามารถใช้เวลามากว่า 40% ของการทำงานเพื่อเข้าคอร์สอบรมและร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนาให้เป็นมืออาชีพได้และที่สำคัญพนักงานของบริษัท มีอายุเฉลี่ย ที่ 28 ปี เพราะบริษัทต้องการคนในรุ่นเจเนอเรชั่นวายซึ่งมีอายุระหว่าง 18-29 ปี มาร่วมงาน

เมื่อมีพนักงานรุ่นหนุ่มสาว การทำงานในบริษัทก็เปลี่ยนไปด้วย เพราะในการทำงาน 1 สัปดาห์ พนักงานสามารถเลือกทำงานที่บ้านได้ 1 วัน ซึ่งตัวปริญดาเองเลือกทำงานที่บ้านทุกวันพุธ

นี่ขนาดมีคอร์สอบรมกว่า 40% ของการทำงาน และสามารถ ทำงานที่บ้านได้อีก 1 วัน ยังเติบโตในอัตราตัวเลข 2 หลักทุกปี ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเพิ่มเวลาอบรมและทำงานที่บ้านมากขึ้นกว่าเดิม ยอดขาย อัตราการเติบโตก็อาจจะมากกว่าเดิมเท่าตัวก็ได้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us