ปตท. เคมิคอล ปรับแผนลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำเอง ด้วยงบประมาณเกือบ 8 พันล้านบาท หลัง "พีทีที ยูทิลิตี้" ไม่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายสิ่งแวดล้อม อาจส่งผลต่อแผนเพิ่มกำลังการผลิตเอทธิลีน-โพพิลีน ที่จะเริ่มไตรมาส 3 ปีหน้า พร้อมเตรียมแผนขายหุ้นกู้ครึ่งปีหลังอีกหมื่นล้านบาท
นายอดิเทพ พิศาลบุตร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTCH กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 4/2550 เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2550 ได้มีมติอนุมัติการลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำสำหรับใช้ในการผลิตและการขยายงานตามแผนการลงทุนของบริษัท ซึ่งมีแผนความต้องการใช้ไฟฟ้าและไอน้ำดังกล่าวในไตรมาส 3 ปี 2551
สำหรับรายละเอียดโครงการผลติไฟฟ้าและไอน้ำ แบ่งเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้า 108 เมกะวัตต์ และผลิตไอน้ำ 381.5 ตันต่อชั่วโมง งบลงทุนรวม 210 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7,780 ล้านบาท โดยบริษัทจะใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและส่วนหนึ่งเป็นเงินกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปี 2551 กำหนดแล้วเสร็จ ไตรมาส 3 ปี 2551
ส่วนวัตถุประสงค์ที่คาดจะได้รับจากการลงทุนในครั้งนี้ เป็นการลดความเสี่ยงของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการผลิตของบริษัท หากบริษัท พีทีที ยูทิลิตี้ จำกัด (PTTUT) ไม่สามารถก่อสร้างและจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำได้ทันต่อความต้องการของบริษัทในไตรมาส 3 ปี 2551 รวมทั้งเป็นการสร้างความมั่นคงในการผลิตทั้งในกรณีปกติ และกรณีฉุกเฉิน และความมั่นคงของระบบไฟฟ้าและไอน้ำของบริษัท อันส่งผลต่อความมั่นคงของการดำเนินงานของบริษัทในอนาคต
โดยโครงการดังกล่าว สืบเนื่องจากการที่ PTTCH จะทำการเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนขยายคอขวดโรง 2 ซึ่งเป็นการเพิ่มกำลังผลิตเอทธิลีน 1 แสนตัน และโพพิลีน 5 หมื่นตัน ทำให้ต้องใช้กำลังไฟฟ้า 108 เมกะวัตต์ แต่หากรอให้ PTTUT ดำเนินโครงการนี้เอง จะทำให้มีผลกระทบต่อกำลังการผลิตส่วนที่เพิ่ม เนื่องจากจะต้องรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมก่อน ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้รับการอนุมัติแต่อย่างใด
"PTTCH จะลงทุนในโครงการนี้ไปก่อน แต่เมื่อ PTTUT สามารถดำเนินการได้และต้องการโอนโครงการนี้ให้กับเขาไปดูแลต่อไปได้ และการลงทุนในครั้งนี้ ไม่ได้ส่งผลต่อต้นทุนการดำเนินงานของเรา" นายอดิเทพ กล่าว
สำหรับ PTTUT เป็นโครงการร่วมลงทุนผลิตไฟฟ้าและไอน้ำให้กับบริษัทในเครือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ผู้ถือหุ้นประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT), บริษัท อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ATC), และ PTTCH ในสัดส่วน 40%, 20% 40% ตามลำดับ
นายอดิเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากแผนการลงทุนข้างต้น คณะกรรมการบริษัทจึงได้อนุมัติให้ชะลอการชำระเงินเพิ่มทุนใน PTTUT เฉพาะส่วนเงินลงทุนในโครงการดังกล่าวข้างต้น จนกว่า PTTUT จะได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม และมีความพร้อมในการดำเนินการโครงการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำก่อน โดยบริษัทจะพิจารณาถึงประโยชน์และความมั่นคงทางด้านไฟฟ้าและไอน้ำในภาพรวมอีกครั้งหนึ่ง ก่อนกำหนดรูปแบบที่เหมาะสมในการโอนการลงทุนในโครงการดังกล่าวให้ PTTUT ดำเนินการแทนบริษัทต่อไป
สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำของ PTTUT มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 520 เมกะวัตต์ ไอน้ำ 2,060 ตันต่อชั่วโมงมีเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 29,040 ล้านบาท คิดเป็นส่วนเงินทุน 9,682 ล้านบาท โดยมีการดำเนินการเป็นระยะๆ ตามความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบัน PTTCH ได้ชำระเงินทุนส่วนของบริษัทไปแล้ว 1,728 ล้านบาท
ส่วนแผนงานด้านการเงินในช่วงครึ่งปีหลังนั้น บริษัทคาดว่าจะมีการออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากมติที่บริษัทได้ขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการออกหุ้นกู้ไม่ต่ำกว่า 32,000 ล้านบาท ขณะที่แผนการใช้เงินทุนปีนี้ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งไม่รวมการลงทุนในโรงไฟฟ้า 108 เมกกะวัตต์ โดยจะเป็นการใช้เงินจากกระแสเงินสดของบริษัทประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่มีภาระหนี้เงินกู้ที่จะครบกำหนดชำระคืนในปีนี้ประมาณ 2,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินกู้ที่ใช้ในการโครงการต่างๆ และเป็นทุนหมุนเวียน
|