สำนักงานใหญ่ที่ Manhattan ของ Bloomberg ประดับประดาเต็มไปด้วยดอกไม้แปลกๆ และตู้ปลาที่มีปลาและสัตว์น้ำประมาณ 1,000 ชนิด อีก 22 ตู้ ยังไม่รวมสีส้มสะท้อนแสงที่จะเห็นได้ทั่วไปในบริษัท เพราะสีส้มเป็นสีประจำบริษัท

การติดบัตรพนักงานของ Bloomberg นอกจากด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยแล้ว ยังเพื่อให้ทุกคนสามารถรู้ว่า พนักงานแต่ละคนอยู่ที่ไหนบ้าง เพราะเมื่อใดที่พนักงานติดบัตรประจำตัว เวลาที่เขาติดบัตรและตำแหน่งแห่งที่ของเขาจะแสดงอยู่บนหน้าประวัติส่วนตัว ที่พนักงานทุกคนของ Bloomberg ทั่วโลกจะสามารถเข้าดูได้ และแน่นอนรวมถึงเจ้านายของพวกเขาด้วย

Bloomberg เลี้ยงอาหารฟรีแก่พนักงานทุกคน อย่างน้อยก็อาหารว่าง สำนักงานบางแห่งของ Bloomberg ถึงกับจัดอาหารเย็นให้ฟรีด้วย ที่สำนักงานใหญ่ของ Bloomberg ใต้โต๊ะทำงานทุกโต๊ะจะมีกระเป๋าฉุกเฉิน ซึ่งข้างในจะมีน้ำ หน้ากากกันก๊าซ พลาสเตอร์ วิทยุ และอื่นๆ ส่วนบนโต๊ะของพนักงานจะสะอาดเอี่ยมอยู่เสมอ เพราะมีบริการแม่บ้านให้เรียกใช้ได้ตลอดเวลา

นักข่าวของ Bloomberg มีกฎพิเศษเพิ่มมากกว่าพนักงานในหน้าที่อื่น ในคู่มือการเขียนข่าวของ Bloomberg ระบุไว้ว่า ข่าวทุกข่าวจะต้องเขียนให้แม้แต่คนโง่ที่สุดก็อ่านเข้าใจได้ ในขณะที่คนทั่วไปอ่านแล้วจะรู้สึกชื่นชม พร้อมแนะนำคำบางคำที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างเช่น คำว่า "แต่" โดยอธิบายเหตุผลว่า เพราะเป็นคำที่สร้างความสับสนให้แก่ผู้อ่านมากกว่าจะให้ความชัดเจน และบริษัทเห็นว่า เป้าหมายพื้นฐานประการหนึ่งของข่าวคือ 5 F ได้แก่ first, fastest, factual, final และ future words หรือนำเสนอข่าวเป็นคนแรก อย่างเร็วที่สุด และให้ข้อเท็จจริงที่เป็นที่สุดแล้ว รวมทั้งใช้คำที่ไม่ล้าสมัย

Mark Fefer ซึ่งเคยเป็นบรรณาธิการคนหนึ่งใน Bloomberg ในปี 2006 ให้ความเห็นว่า เขาประทับใจในความเข้มงวดและมีวินัยสูงในการทำงานข่าวของ Bloomberg ซึ่งเน้นการเขียนข่าวที่เข้มข้นด้วยสาระและข้อมูล สวนทางกับสื่อคู่แข่งอื่นๆ ที่เริ่มหันไปเขียนข่าวแบบเบาๆ ในรูปแบบการคุยกันมากขึ้น

แต่ถึงแม้ Fefer ซึ่งลาออกจาก Bloomberg เพื่อกลับไปทำงานที่บ้านเกิด อาจจะอยากจะกลับไปทำงานที่ Bloomberg อีกครั้ง ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะกฎเหล็กข้อหนึ่งที่ผู้ก่อตั้งบริษัทตั้งไว้คือ จะไม่รับพนักงานที่เคยลาออกกลับเข้าทำงานอีก