|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“ซานมิเกล” ชะลอทำตลาดเบียร์เรดฮอต บูลไอซ์ หลังค่ายผู้นำตลาดเบียร์อีโคโนมีระเบิดสงครามราคา 5 ขวด 100 บาท ประกาศปีนี้โฟกัสสองแบรนด์ใหญ่ซานมิเกล ซานมิกไลท์ติดลมบน โหมอัดบีโลว์เดอะไลน์สถานบันเทิง ผับ บาร์ ลั่นไม่มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่เสริมพอร์ตโฟลิโอ ระบุพิษเศรษฐกิจถล่มตลาดเบียร์ 8.2 หมื่นล้านบาท
แหล่งข่าวจาก บริษัท ซานมิเกล เบียร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์บลู ไอซ์,เรด ฮอต และซานมิกไลท์ และซานมิเกล เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า นโยบายการตลาดปีนี้บริษัทฯได้วางแผนมุ่งเน้นเบียร์สองตัวหลัก ได้แก่ ซานมิเกล เบียร์โลว์แคลอรี่ และซานมิกไลท์ เนื่องจากบริษัทแม่วางไว้เป็นแบรนด์เรือธงหลักของบริษัท ส่วนแบรนด์เรด ฮอต เบียร์เซกเมนต์อีโคโนมี่ และบลู ไอซ์ เบียร์เซกเมนต์สแตนดาร์ด ซึ่งเปิดตัวลงสู่ตลาดไทยมากว่า 2 ปี จะเป็นแบรนด์ที่เปิดตัวเพื่อทดลองตลาดเท่านั้น และขณะนี้วางแผนที่จะชะลอการทำตลาดลง โดยเริ่มผลิตสินค้าป้อนเข้าสู่ตลาดน้อยลงและจะนำออกจากตลาดไปในที่สุด
แม้ว่าทิศทางตลาดเบียร์อีโคโนมีมูลค่า 78,040 ล้านบาท ในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตสูง สืบเนื่องจากผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่หดตัว กำลังการซื้อของผู้บริโภคลดลง และเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มจากเบียร์ระดับพรีเมียมและสแตนดาร์ดมาเป็นเบียร์อีโคโนมีแทน แต่การชะลอการทำตลาดเรดฮอต และบลูไอซ์ เป็นเพราะเบียร์เซกเมนต์อีโคโนมี มีการแข่งขันที่รุนแรงโดยเฉพาะด้านราคา โดยมีเบียร์อาชาจำหน่าย 5 –6 ขวด 100บาท ประกอบกับผู้นำตลาดอย่างเบียร์ช้างเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง โดยปัจจุบันครองส่วนแบ่ง 56% ส่วนอันดับสองเป็นเบียร์ลีโอมีส่วนแบ่ง 40% และอาชา 2%
“หลังจากเบียร์เรด ฮอต และบลูไอซ์ทำตลาดมากว่า 2 ปี ทั้งสองตัวมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นเพียงตัวเลขหลักเดียวเท่านั้น ส่วนเบียร์ซานมิเกล และซานมิกไลท์เปิดตัวลงตลาดมากว่า 1 ปี ก็มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นเพียงตัวเลขหลักเดียว”
สำหรับแผนการตลาดเบียร์ซานมิเกล และซานมิกไลท์ในปีนี้ บริษัทฯจะใช้งบใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่จะหันไปเน้นบีโลว์เดอะไลน์เพิ่มจาก 60% เป็น 70-80% ผ่านการจัดกิจกรรมตามสถานบันเทิง ผับ บาร์ เป็นหลัก เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ส่วนการทำอะโบฟเดอะไลน์ลดลงจาก 40% เป็น 20-30% ขณะที่แนวโน้มตลาดไลท์เบียร์และเบียร์โลว์แคลอรี่ ยังเป็นตลาดที่มีขนาดเล็กคิดเป็น 5-10% จากมูลค่าตลาดเบียร์โดยรวม 82,000 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้ภาวะตลาดไลท์เบียร์ และโลว์แคลอรี่จะไม่มีอัตราการเติบโต
แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าการแข่งขันตลาดเบียร์จะยกพอร์ตโฟลิโอเบียร์ขึ้นมาแข่งขันกันมากขึ้น แต่ปีนี้บริษัทฯยังไม่มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง จากปัจจุบันบริษัทแม่ในประเทศฟิลิปปินส์กลุ่มเบียร์อยู่ในพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลาย เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่หดตัวลง และประการสำคัญปีนี้ตลาดเบียร์มูลค่า 82,000 ล้านบาท ในเชิงปริมาณคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 7-10% ส่วนในแง่มูลค่าคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่มากนัก
|
|
|
|
|