Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 มิถุนายน 2550
ค่ายซานมิเกลถอดใจเบียร์แข่งดุเบรกทำตลาด“เรดฮอต-บลูไอซ์”             
 


   
search resources

Alcohol
ซานมิเกล เบียร์ ประเทศไทย, บจก.




“ซานมิเกล” ชะลอทำตลาดเบียร์เรดฮอต บูลไอซ์ หลังค่ายผู้นำตลาดเบียร์อีโคโนมีระเบิดสงครามราคา 5 ขวด 100 บาท ประกาศปีนี้โฟกัสสองแบรนด์ใหญ่ซานมิเกล ซานมิกไลท์ติดลมบน โหมอัดบีโลว์เดอะไลน์สถานบันเทิง ผับ บาร์ ลั่นไม่มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่เสริมพอร์ตโฟลิโอ ระบุพิษเศรษฐกิจถล่มตลาดเบียร์ 8.2 หมื่นล้านบาท

แหล่งข่าวจาก บริษัท ซานมิเกล เบียร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์บลู ไอซ์,เรด ฮอต และซานมิกไลท์ และซานมิเกล เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า นโยบายการตลาดปีนี้บริษัทฯได้วางแผนมุ่งเน้นเบียร์สองตัวหลัก ได้แก่ ซานมิเกล เบียร์โลว์แคลอรี่ และซานมิกไลท์ เนื่องจากบริษัทแม่วางไว้เป็นแบรนด์เรือธงหลักของบริษัท ส่วนแบรนด์เรด ฮอต เบียร์เซกเมนต์อีโคโนมี่ และบลู ไอซ์ เบียร์เซกเมนต์สแตนดาร์ด ซึ่งเปิดตัวลงสู่ตลาดไทยมากว่า 2 ปี จะเป็นแบรนด์ที่เปิดตัวเพื่อทดลองตลาดเท่านั้น และขณะนี้วางแผนที่จะชะลอการทำตลาดลง โดยเริ่มผลิตสินค้าป้อนเข้าสู่ตลาดน้อยลงและจะนำออกจากตลาดไปในที่สุด

แม้ว่าทิศทางตลาดเบียร์อีโคโนมีมูลค่า 78,040 ล้านบาท ในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตสูง สืบเนื่องจากผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่หดตัว กำลังการซื้อของผู้บริโภคลดลง และเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มจากเบียร์ระดับพรีเมียมและสแตนดาร์ดมาเป็นเบียร์อีโคโนมีแทน แต่การชะลอการทำตลาดเรดฮอต และบลูไอซ์ เป็นเพราะเบียร์เซกเมนต์อีโคโนมี มีการแข่งขันที่รุนแรงโดยเฉพาะด้านราคา โดยมีเบียร์อาชาจำหน่าย 5 –6 ขวด 100บาท ประกอบกับผู้นำตลาดอย่างเบียร์ช้างเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง โดยปัจจุบันครองส่วนแบ่ง 56% ส่วนอันดับสองเป็นเบียร์ลีโอมีส่วนแบ่ง 40% และอาชา 2%

“หลังจากเบียร์เรด ฮอต และบลูไอซ์ทำตลาดมากว่า 2 ปี ทั้งสองตัวมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นเพียงตัวเลขหลักเดียวเท่านั้น ส่วนเบียร์ซานมิเกล และซานมิกไลท์เปิดตัวลงตลาดมากว่า 1 ปี ก็มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นเพียงตัวเลขหลักเดียว”

สำหรับแผนการตลาดเบียร์ซานมิเกล และซานมิกไลท์ในปีนี้ บริษัทฯจะใช้งบใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่จะหันไปเน้นบีโลว์เดอะไลน์เพิ่มจาก 60% เป็น 70-80% ผ่านการจัดกิจกรรมตามสถานบันเทิง ผับ บาร์ เป็นหลัก เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ส่วนการทำอะโบฟเดอะไลน์ลดลงจาก 40% เป็น 20-30% ขณะที่แนวโน้มตลาดไลท์เบียร์และเบียร์โลว์แคลอรี่ ยังเป็นตลาดที่มีขนาดเล็กคิดเป็น 5-10% จากมูลค่าตลาดเบียร์โดยรวม 82,000 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้ภาวะตลาดไลท์เบียร์ และโลว์แคลอรี่จะไม่มีอัตราการเติบโต

แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าการแข่งขันตลาดเบียร์จะยกพอร์ตโฟลิโอเบียร์ขึ้นมาแข่งขันกันมากขึ้น แต่ปีนี้บริษัทฯยังไม่มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง จากปัจจุบันบริษัทแม่ในประเทศฟิลิปปินส์กลุ่มเบียร์อยู่ในพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลาย เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่หดตัวลง และประการสำคัญปีนี้ตลาดเบียร์มูลค่า 82,000 ล้านบาท ในเชิงปริมาณคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 7-10% ส่วนในแง่มูลค่าคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่มากนัก   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us