Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2534








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2534
"20ปีอาร์เบอร์เอเคอร์ส" คือความสำเร็จของซีพี             
 

 
Charts & Figures

อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมไก่ในประเทศไทย


   
www resources

โฮมเพจ เครือเจริญโภคภัณฑ์
โฮมเพจ อาร์เบอร์เอเคอร์ส

   
search resources

เครือเจริญโภคภัณฑ์
อาร์เบอร์เอเคอร์ส ประเทศไทย
Agriculture




22 เมษายน 2514 เป็นวันที่บริษัท อาร์เบอร์เอเคอร์ส ประเทศไทย จำกัด ก่อตั้งขึ้นจากเครือร่วมทุนเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) อาร์เบอร์ เอเคอร์สเปอเรเต็ดแห่งสหรัฐอเมริกา ในสัดส่วน 50 : 50 ด้วยทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาทในขณะนั้น ซีพีได้ให้ความจนใจในอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่มานานก่อที่จะมีการร่วมทุน ซึ่งในช่วง เวลานั้นซีพีได้นำพันธุ์หลายๆ พันธุ์มาทดลองเลี้ยง แต่ยัวงไม่ได้อยู่ในขั้นที่เรียกว่าอุตสาหกรรมและยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรด้วยเหตุในด้านการจัดการ ในขณะเดียวกันซีพีก็มีความมุ้งมั่นที่จะก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่อย่างจริงจัง

ดังนั้นการที่ชีพนีได้ทำการศึกษา และเลือกที่จะลงทุนร่วมกับบริษัทอาร์เบอร์เอเคอร์สฟาร์ม ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความรู้ความสามารถในการผลิตไก่จนได้ชื่อว่าเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงในการพัฒนาพันธุ์ไก่และเลี้ยงไก่ และเป็นบริษัทที่ผลิตเนื้อไก่เกิน 50 % ของโลก จึงนับเป็นก้าวของหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่สุดก้าวหนึ่งที่ทำให้ซีพีมาสู่ความสำเร็จในอุตสาหกรรมไก่อย่างเช่นปัจจุบัน

" เมื่อก่อนคนไทยกินไก่สีซึ่งเป็นไก่บ้าน แต่เมื่ออาร์เบอร์เอเคอร์สเข้าก็เอาไก่ขาวซึ่งเป็นไก่อุตสาหกรรมเข้ามา ในความเป็นจริงไก่สีกับไก่ขาวก็ไม่แตกต่างกัน เพียงแต่ไก่เป็นไก่อุตสาหกรรมเป็นเวลาเชือดถอดขนแล้วทำความสะอาดได้ง่ายกว่า ในช่วงแรกที่เราเริ่มมีการร่วมทุน มีคนไม่กี่คนที่จะเห็นว่าไก่จะไปได้ถึงปัจจุบัน เพราะว่าเป็นการยากเหมือนกันที่จะเปลี่ยนคอนเว็ปต์ของผู้ซื้อผู้กินให้หันมากินไก่ขาว" สัญญา เทียมศิริ กรรมการผู้จัดการของบริษัทอาร์เบอร์เอเคอร์สปรระเทศไทยย้อนอดิตถึงการเข้ามาในตลาดของไก่พันธุ์อาร์เบอร์เอเคอร์สในยุคเริ่มแรก

สิ่งสำคัญที่สุดที่ได้รับจากการร่วมทุนครั้งนี้คือ ความรู้ที่ถ่ายทอดโดยตรงมาสู่อุตสาหกรรมการไก่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการจัดการ ควบคุมโลก ความรู้เรื่องตลาดหรือพันธุ์ไก่ที่มีสิทธิภาพซึ่งเทคโนโลยีในเรื่องดังกล่าวนี้เองที่เป็นหัวใจของการร่วมทุนซีพีครั้งนี้

ธุรกิจของอาร์เบอร์เอเคอร์สประเทศไทยตลอด 20 ที่ผ่านมาคือ การผลิตพ่อแม่พันธุ์ขายให้ลูกค้าที่ทำอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่ อย่างเช่น ฟาร์มของซีพี หรือ ป.เจริญพันธุ์ โดยซื้อไก่ปู่ยาตายายมาจากบริษัทแม่ที่อเมริกามาเลี้ยง ปรับปรุงและและคัดพันธุ์ในประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันอาร์เบอร์เอเคอร์สประเทศไทยมีฟาร์มเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์อยู่ถึง 5 ฟาร์ม

จากนโยบายที่พัฒนาพันธุ์ไก่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเผยแพร่เทคโนโลยีที่ทันสมัยด้านการเลี้ยงไก่แก่ลูกค้า ทำให้อุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่ในประเทศก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ จนกระทั้งถึงปัจจุบันประเทศไทยสามารถผลิตไก่ที่มีคุณภาพส่งออกไปนอกประเทศเป็นอันดับ 1 ใน5 ของโลกและเป็นประเทศที่ผลิตไก่ได้มากที่สุดของเอเชีย

อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมไก่ในประเทศไทยช่วง 20 ปีที่ผ่านมาชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงได้อย่างแจ้งชัดด้วยมูลค้าการส่งออก 6.5 ล้านบาทจากไก่แซ่แข็งที่ส่งออกจำนวน 163 ตันในปี 2514 ได้เพิ่มมูลค่าการส่งออกเป็น 7,431.62 ล้านบาทจากไก่แซ่แข็งที่ส่งออกจำนวน 132,471 ตันในปี 2533

เช่นเดียวกับการพัฒนาประสิทธิภาพของพ่อแม่พันธุ์ไก่ จะเห็นได้ว่า ในปี 2523 แม่พันธุ์ไก่ตัวหนึ่งสามารถผลิตเนื้อไก้กระทงได้ ปริมาณ 129.7 กิโลกรัม ต่อมาอีก 10 ให้หลัง คือในปี 2533 จากแม่พันธุ์ตัวนั้นสามารถผลิตเนื้อไก่กระทงเพิ่มขึ้นเป็น200 กิโลกรัม

อาร์เบอร์เอเคอร์สประเทศไทยจัดเป็นผู้ผลิตพ่อแม่พันธุ์ไก่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยขณะนี้ โดยมีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 56 % จากยอดขายเมื่อปีที่ผ่านมาจำนวน 3.2 ล้านตัวมีมีมูลค่าตลาดราว 200 ล้านบาท ในขณะที่ยอดขายทั้งของประเทศประมาณ 5 ล้านตัว ซึ่งในจำนวนยอดขาย 3.2 ล้านตัวนี้ จำนวน 10 % เป็นยอดขายที่อาร์เบอร์เอเคอร์สประเทศไทยส่งไปขายต่างประเทศโดยมีตลาดใหญ่อยู่ที่มาเลเชียและฟิลิปปินส์

ซึ่งหากตัวปริมาณยอดขายหรือมูลค่าตลาดอาร์เบอร์เคอร์สเป็นเพียงธุรกิจส่วนเล็กๆ เมื่อเทียบกับธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตไก่ซึ่งมีมูลค่าตลากปีหนึ่งนับหมื่นล้านบาท จากตัวเลขการผลิตโดยรวมอาทิตย์ละ 10 ล้านตัว ซึ่งการเติบโตของตลาดที่ขยายอย่างรวดเร็วปัจจุบันอาจเรียกได้ว่าเป็นผลพวงอันหนึ่ง ที่มาจากพัฒนาประสิทธิภาพพันธุ์ไก่ของอาร์เบอร์เคอร์สที่มีอย่างต่อเนื่อง

JAMES D. NELSON ประธานของ ARBER ACRES FARM INC. กล่าวในโอกาสครบ 20ปี อาร์เบอร์เอเคอร์สประเทศไทยว่า " เรามองถึงอนาคต เราพยายามก้าวหน้าในกิจการนี้ต่อไปเราจะหาทุกวิถีทางที่จะปรับปรุงพันธุ์ไก่เราไม่ทราบว่าปรริมาณการบริโภคเนื้อไก่ในโลกจะเพิ่มขึ้นเท่าไหล่ แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นได้ 31.7% คือในปี 2523 การบริโภคเนื้อไก่ของคนจะอยู่ในราว1.4กก./คน/ปี จนถึงปี 2533 เพิ่มขึ้นเป็น 5.4 กก./คน/ปี และคาดว่าในปี 2543 จะเพิ่มขึ้นเป็น 7.1 กก./คน/ปี แต่ถ้าพูดถึงปริมาณเนื้อไก่จากปี 2523-2533 เพิ่มขึ้น 56.5% และจากปี 2533-2543 จะเพิ่มอีก 53.2 % นั้นหมายถึงเราจะต้องปรับปรุงพันธุ์ให้ดีขึ้นใน 10 ข้างหน้า ในขณะที่ปริมาณเนื้อไก่เพิ่ม 50 กว่า% แต่ความต้องการพ่อแม่พันธุ์ไก่เพิ่มขึ้นเพียง 38.5% นับเป็นเพราะประสิทธิภาพของพ่อแม่พันธุ์"

จุดหนึ่งที่น่าสนใจจากการคาดการณ์ของประธารอาร์เบอร์เอเคอร์สก็คือตลาดทั่วโลกภายใน 10-20 ปี ข้างหน้า ตลาดเอเชียจะเป็นตลาดที่สำคัญมากทั้งนี้จากการเติบโตของผู้บริโภคพร้อมทั้งการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศในเอเชียชี้ให้เห็นอย่างชัดเจน

ในขณะที่ผลเมืองของทวีปเอเชียเพิ่มมากขึ้น 55% ของผลเมืองโลก ( 5.4 พันล้านคน) แต่ปริมาณเนื้อไก่ในตลาดมีจำนวน 37 ล้านตันหรือ 14 % ของตลาดทั่วโลกเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นที่คาดว่าตลาดในเอเชียสำคัญเนื้อไก่จะก้าวหน้าเร็วกว่าทุกทวีป

นั้นหมายถึงโอกาสในการขยายตลาดของธุรกิจขยายอุตสาหกรรมไก่ ในอนาคตซึ่งหมายรวมถึงประเทศไทยจะได้ด้วย

การขยายการลงทุนในธุรกิจผลิตพ่อแม่พันธุ์ไก่ ของซีพีไม่ได้มีในเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ซีพีได้ร่วมทุนกับอาร์เบอร์เอเคอร์สฟาร์มของไต้หวันในสัดส่วน 70:30 โดยใช้ชื่อบริษัทอาร์เบอร์เอเคอร์สไต้หวัน ภายหลักจากที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยได้ไม่นาน นอกจจากนี้ซีพียังขยายธุรกิจไปยังประเทศอินโดนีเชียในเวลาใกล้เคียงกันโดยถือหุ้นเต็ม 100% และใช้ชื่อบริษัทเจิญโภคภัณฑ์โดยซื้อพันธุ์จากอาร์เบอร์เอเคอร์สฟาร์มมาพัฒนาเอง

สำหรับประเทศไทยสัญญากล่าวว่าในปีนี้อาร์เบอร์เอเคอร์สไทยจะขยายการผลิตลูกไก่ที่ใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์อกกไปอีก15 %ของยอดขาย รวมถึงโครงสร้างที่จะขยายฟาร์มเพิ่มขึ้นอีก 1- 2 แห่งด้วย

ความสำเร็จตลอดระยะเวลา 20 ปี อาร์เบอร์เอเคอร์สประเทศไทย เป็นความสำเร็จที่ควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่ของประเทศที่ไม่มีใครกล้าปฎิเสธได้เลย

และความสำเร็จของอาร์เบอร์เอเคอร์ส ตลอด20 ปีที่ผ่านมาในประเทศไทยว่ากันจริงแล้วก็คือความสำเร็จของซีพีด้วย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us