ปี 2506 บริษัทเปิดตัวสินค้าในปี 2508 และเริ่ม ขายแฟรน ไชส์ 7-Eleven ในสหราชอาณาจักร
ในปี 2514 และญี่ปุ่น ในปี 2516 นับ จากปี 2534-6 ยอดขายของกิจการลดลงเรื่อยมาจนต้องปิดกิจการที่มีผลประกอบการย่ำแย่
และเริ่มปรับปรุงกิจการที่เหลือ พร้อมกับปรับปรุงสินค้าในร้านเสียใหม่ โดยเพิ่มรายการบัตรโทรศัพท์แบบจ่ายล่วงหน้าในปี
2538 และในปี 2541 เซาธ์แลนด์ก็ได้ให้บริการโทรศัพท์เซลลูลาร์แบบจ่ายล่วงหน้า
และเริ่มทดลองจุดบริการอิเล็กทรอนิก แบงกิ้ง ซึ่งทำ ให้ลูกค้าใช้บริการทั้งในด้านเงินสด
เช็ค การชำระค่าบริการต่างๆ รวมทั้งโอนเงินได้
เมื่อสองปีก่อนเซาธ์แลนด์ยังเริ่มให้บริการระบบ ข้อมูลค้าปลีก อิเล็กทรอนิก
เพื่อเชื่อมโยงร้านค้าต่างๆ ที่ อยู่ในเครือข่ายของบริษัทเซาธ์แลนด์ เปลี่ยนชื่อเป็น
7-Eleven Inc. ในเดือนเมษายน ปีที่แล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจของบริษัท
แม้ว่าทำเล ที่ตั้งร้านส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะให้บริการ น้ำมันซิทโก (Citgo)
แต่สินค้าหลัก ( ซึ่งรวมทั้งสเลอร์ปี, เบียร์ และบุหรี่) ก็ทำยอดขายได้ถึงกว่า
70% ของยอดขายรวม
7-Eleven ยังมีร้านค้าราว 240 แห่งในเม็กซิโก และขายไลเซนส์ชื่อ 7- Eleven
อีกนับพันแห่งทั่วโลก ส่วน 7 -Eleven Japan ซึ่งอิโตะ-โยกาโดะ (Itoh-Yokado)
ถือหุ้นอยู่ 51% ( และถือหุ้นใหญ่ถึงบริหารร้าน 2534) ด้วยในปี Inc. 7-Eleven
ใน 65%> 7-Eleven กว่า 7,200 แห่งในญี่ปุ่น และฮาวาย อีกทั้งมีผู้ซื้อไลเซนส์
และ ผู้ร่วมธุรกิจอื่นๆ ในสหรัฐฯ และอีก 16 ประเทศดำเนินกิจการ ร้านอีกราว
5,700 แห่ง
บริษัทกำลังเติบโตโดยวิธีการสร้างเชนร้านใหม่ๆ และซื้อเชนอื่นๆ โดย เน้นตลาดที่มีร้านดำเนินการอยู่ก่อน
แล้วเป็นหลัก นอกจากนั้น 7-Eleven ยังพยายามเพิ่มยอดขายโดยการเสนอสินค้าใหม่ๆ
รวมทั้ง "คาเฟ คูลเลอร์" หรือ กาแฟคาปูชิโนเย็น และบัตรโทรศัพท์เซลลูลาร์แบบชำระล่วงหน้า
ในประเทศไทย ซีพีซื้อลิขสิทธิ์ระบบแฟรนไ ชส์ 7-Eleven มาเปิดกิจการในเมืองไทยในปี
2531 จากนั้น ก็ทยอยเปิดสาขาทั้งของตนเอง และขายแฟรนไชส์อย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องภายใน
10 ปีก็ทะลุ 1,000 สาขา โดยยึดโมเดลจากญี่ปุ่น ในเวลาเดียวกันก็ซื้อลิขสิทธิ์นี้ในการลงทุน
ในจีนแผ่นดินใหญ่ และเริ่มเปิดในปี 2540
ที่มา : เรียบเรียงจากข้อมูลในอินเตอร์เน็ต และผู้เขียนเอง