ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยยอดสินเชื่อแบงก์ 5 เดือนเพิ่มแค่ 3.8 หมื่นล้านบาท หรือ 0.78% โดยธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่-เล็กเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย 4.2 และ 1.7 หมื่นล้านบาทตามลำดับ ขณะที่แบงก์ขนาดกลางอ่วมสินเชื่อลดลง 2 หมื่นล้านบาท "ทหารไทย"หนักสุดสินเชื่อหดกว่า 2 หมื่นล้านบาทหรือ 4.66% ด้านเงินฝากพุ่ง 2.2 แสนล้านบาทหรือ 3.77%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานตัวเลขสินเชื่อ เงินฝาก และสินทรัพย์ ในระบบธนาคารพาณิชย์ไทย ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2550 โดยยอดคงค้างสินเชื่อ(หักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญแล้ว)ในระบบธนาคารพาณิชย์ไทยมีจำนวน 4,937,811 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 25,161 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มร้อยละ 0.51 แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.80

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของสินเชื่อดังกล่าว เป็นส่วนของกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 4 แห่ง มีสินเชื่อปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 27,091 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.88 นำโดยธนาคารกรุงไทยจำนวน 17,280 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของตั๋วเงินและสินเชื่อประเภท Term Loans ตามมาด้วยธนาคารไทยพาณิชย์ กสิกรไทย และกรุงเทพ สินเชื่อเพิ่มขึ้นจำนวน 5,846 2,021 และ 1,944 ล้านบาทตามลำดับ จากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อประเภท Term Loans ตั๋วเงิน และเงินให้กู้ยืม

ขณะที่กลุ่มธนาคารขนาดกลาง 3 แห่ง มีสินเชื่อรวมลดลงจากเดือนก่อนหน้า 9,148 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการลดลงร้อยละ 0.79 ตามการลดลงของสินเชื่อธนาคารกรุงศรีอยุธยา และทหารไทยจำนวน 6,121 และ 4,120 ล้านบาทตามลำดับ จากการลดลงของสินเชื่อประเภทเงินให้กู้ยืม และตั๋วสัญญาเงินในธนาคารกรุงศรีอยุธยา ส่วนธนาคารทหารไทยเป็นการลดลงจากสินเชื่อเงินเบิกเกินบัญชี เงินให้กู้ยืม และตั๋วเงินในประเทศ ขณะที่ธนาคารนครหลวงไทยมีสินเชื่อเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจำนวน 1,092 ล้านบาท

และกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก 7 แห่ง สินเชื่อเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 7,218 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.08 โดยกระจายไปยังทุกธนาคารในกลุ่ม นำโดยธนาคารยูไนเต็ดโอเวอร์ซีส์(ไทย) สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไทย และทิสโก้ มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นจำนวน 2,150 1,949 และ 1,017 ล้านบาทตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2549 จะพบว่าระบบธนาคารพาณิชย์ไทยมียอดสินเชื่อ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2550 เพิ่มขึ้นจำนวน 38,141 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.78 นำโดยการเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อที่กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ และกลุ่มธนาคารขนาดเล็กจำนวน 42,229 และ 16,721 ล้านบาท ตามลำดับ สวนทางกับกลุ่มธนาคารขนาดกลางที่มีสินเชื่อลดลง 20,809 ล้านบาท

ด้านเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ไทยเดือนพฤษภาคม 2550 มียอดคงค้างทั้งสิ้น 6,156,262 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 45,625 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มร้อยละ 0.75 แต่เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน เงินฝากขยายตัวสูงขึ้นร้อยละ 2.65

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านั้น กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 4 แห่ง มีเงินฝากปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าจำนวน 56,945 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.48 นำโดยธนาคารกรุงไทย เงินฝากเพิ่มขึ้น 31,014 ล้านบาท ทั้งนี้ มาจากการเพิ่มขึ้นในทุกประเภทบัญชี โดยเฉพาะบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ตามมาด้วยธนาคารกสิกรไทย และกรุงเทพ มีเงินฝากรวมเพิ่มขึ้น 16,035 และ 11,593 ล้านบาทตามลำดับ จากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์และประจำ ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นธนาคารเดียวในกลุ่มที่มีเงินฝากลดลงเล็กน้อย 1,697 ล้านบาท จากบัญชีออมทรัพย์

กลุ่มธนาคารขนาดกลาง 3 แห่งมีเงินฝากลดลงจากเดือนก่อนหน้า 9,936 ล้านบาท ตามการลดลงของเงินฝากธนาคารนครหลวงไทย และทหารไทย จำนวน 20,127 และ 10,466 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลดลงของบัญชีเงินฝากประจำและออมทรัพย์ ขณะที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเป็นธนาคารเดียวในกลุ่มที่มีเงินฝากรวมเพิ่มขึ้น 20,657 ล้านบาท จากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์และกระแสรายวัน

และกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก 7 แห่งมีเงินฝากลดลงจากเดือนที่แล้วเล็กน้อย จำนวน 1,385 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการลดลงร้อยละ 0.17 เป็นผลจากการลดลงของเงินฝากธนาคารไทยธนาคาร จำนวน12,436 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารธนชาต และยูไนเต็ดโอเวอร์ซีส์(ไทย) มีเงินฝากเพิ่มขึ้น 7,101 และ 4,337 ล้านบาทตามลำดับ ส่วนธนาคารอื่นในกลุ่ม มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2549 จะพบว่า ระบบธนาคารพาณิชย์ไทยมียอดเงินฝาก ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2550 เพิ่มขึ้นถึงจำนวน 223,850 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.77 ซึ่งสูงกว่าการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อสุทธิที่มีเพียง 38,141 ล้านบาทมาก และบ่งชี้ถึงทิศทางสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเงินฝากที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ในช่วง 5 เดือนแรกนี้ จะมาจากกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่จำนวน 160,368 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธนาคารขนาดเล็กจำนวน 94,459 ล้านบาท ในขณะที่เงินฝากที่กลุ่มธนาคารขนาดกลางลดลง 30,977 ล้านบาท

สำหรับสินทรัพย์รวมในระบบธนาคารพาณิชย์ไทย ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2550 มีจำนวน 7,802,518 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 59,509 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.77 นำโดยธนาคารกรุงไทย กรุงศรีอยุธยา และไทยพาณิชย์ มีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นสูงสุดจำนวน 29,073 16,274 และ 14,253 ล้านบาทตามลำดับ ขณะที่ธนาคารนครหลวงไทย ทหารไทย และไทยธนาคาร มีสินทรัพย์ลดลง 20,545 13,562 และ13,210 ล้านบาทตามลำดับ

และเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2549 ระบบธนาคารพาณิชย์ไทยมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นรวมเป็นจำนวน 314,873 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.21 โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์เกือบทุกธนาคาร ยกเว้นธนาคารทหารไทยและธนาคารเกียรตินาคิน