Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน21 มิถุนายน 2550
สินค้าความงามเมินการเมืองวุ่นบ.แม่ลอรีอัลสั่งลุยพร้อมอัดงบเพิ่ม             
 


   
search resources

Cosmetics
ลอรีอัล (ประเทศไทย), บจก.




“ลอรีอัล” ยันพิษเศรษฐกิจไม่กระทบตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม 4.6หมื่นล้านบาท โชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรกโต 21% เป็นอันดับสองของเอเชีย บริษัทแม่ไม่หวั่นวิกฤติเศรษฐกิจไฟเขียวอัดงบการตลาดเพิ่ม ประกาศโฟกัส 15 แบรนด์เรือธง ย้ำลุยสกินแคร์–ผลิตภัณฑ์เส้นผม ล่าสุดส่งแบรนด์น้องใหม่ “เมทริกซ์” หวังขยายฐานช่างผมระดับแมส มั่นใจสิ้นปีโต 20%

นายฌอง ฟิลิปป์ ชาร์ริเย่ร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อความงามมูลค่า 4.6 หมื่นล้านบาทในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 4-5% ใกล้เคียงทุกปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม ไม่ว่าจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ หรือสถานการณ์การเมืองที่ไม่นิ่งก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาด ทั้งนี้ตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 50% ตามด้วยสกินแคร์และผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโต 12% เครื่องสำอางมีอัตราการเติบโต 8% และผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมมีอัตราการเติบโต 7%

ขณะที่ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของบริษัทฯมีอัตราการเติบโต 21% ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย จากเมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโต 13% ทั้งนี้ปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ประสบความสำเร็จ มาจากการมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งใน 4 ช่องทาง ทั้งในตลาดแมส,ห้างสรรพสินค้า,ตลาดซาลอน และร้านขายยา โรงพยาบาล การเปิดตัวนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง การใช้กลยุทธ์โฆษณาดึงดาราเป็นแอมบาสเดอร์ อาทิ สินจัย เปล่งพานิช, จริยา แอนโฟเน่ และเฌอมาลย์ บุณยศักดิ์ เพื่อสร้างความใกล้ชิดกับผู้บริโภค และสื่อให้เห็นว่าลอรีอัลเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคสามารถสัมผัส

นายฌอง กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยจะเกิดปัจจัยลบมากมาย แต่บริษัทแม่จากประเทศฝรั่งเศสยังคงทุ่มงบการตลาดมากกว่าทุกปี โดยเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลักเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่จะมีอัตราการเติบโตได้อีกมาก โดยพบว่าพฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามของผู้หญิงไทยเพิ่มขึ้นจาก 1 ชิ้นมาเป็น 2-3 ชิ้นเท่านั้น เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วมีอัตราการใช้ 5-6 ชิ้นต่อคน

“ปัจจัยที่จะผลักดันให้ผู้หญิงไทย มีอัตราการใช้ตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม 5-6 ชิ้นต่อคนนั้น มาจากการให้ข้อมูลความรู้ที่ถูกต้อง รวมทั้งยังมาจากรายได้ต่อคนด้วย และประการสำคัญ คือ การสร้างกระแสแฟชันซึ่งจะผลักดันให้ตลาดมีการพัฒนาการที่เร็วขึ้น สำหรับประเทศไทยคงต้องใช้เวลาพัฒนาอีกมาก กว่าพฤติกรรมของคนจะพัฒนาไปถึงระดับนั้นได้ เพราะปัจจุบันยังมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่ใช้สบู่ในการล้างหน้า”

โฟกัส15แบรนด์เรือธงลุยตลาด

สำหรับแนวทางการตลาดบริษัทฯจะโฟกัสทั้ง 15 แบรนด์ที่มีอยู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เส้นผมและสกินแคร์ พร้อมกันนี้ยังมุ่งเน้นนำเสนอนวัตกรรมสำคัญที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ล่าสุดบริษัทฯวางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์สำหรับช่างผม ภายใต้แบรนด์เมทริกซ์ลงสู่ตลาดในเดือนกรกฎาคม โดยวางราคา 300 บาท ถูกกว่าลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล วางระดับราคาปานกลางราว 500 บาท และเคเรสตาสระดับบน ราคา 900 บาท ทั้งนี้เพื่อขยายฐานร้านทำผมให้ครอบคลุมทุกระดับ โดยปัจจุบันบริษัทครอบคลุมร้านทำผม 2,000 แห่ง จากทั้งหมด 10,000 แห่ง

“บริษัทฯได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม แอลแซฟ ในตลาดแชมพูพรีเมียม-แมส เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์เส้นผมลอรีอัล ในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมานี้ สินค้าดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดี มีส่วนแบ่งการตลาด 5%”

ภาวะการแข่งขันตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อความงามมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการแต่ละค่ายพร้อมที่จะทุ่มงบประมาณการตลาดเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่ง สำหรับบริษัทฯปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับช่างผม ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม เครื่องสำอางระดับแมส และน้ำหอมสำหรับผู้ชาย ขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ติดอันดับทอปทรีในตลาด

สำหรับผลประกอบการปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 20% จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สำหรับช่างผมเมทริกซ์ และการมีทีมผู้บริหารและพนักงานที่เข้มแข็ง ด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และด้วยผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมและคุณภาพ ทั้งนี้รายได้หลักมาจากช่องทางจำหน่ายในตลาดแมส ประกอบกอบด้วย ลอรีอัล ปารีส การ์ริเยร์ และเมย์เบลลีน ตามด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับช่างทำผม และทางช่องโรงพยาบาล ส่วนทางเคาน์เตอร์แบรนด์ มีรายได้น้อยที่สุด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us