Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2534








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2534
กานต์ คูนซ์เวลาของคุณหมดแล้ว             
 

   
related stories

แอควาสตาร์ บนทางวิบากของ "เพื่อนร่วมพัฒนา"

   
search resources

กานต์ คูนซ์
Agriculture




คนอำเภอระโนดโดยเฉพาะคนที่เลี้ยงกุ้งโดยเป็นสมาชิกในโครงการของแอควาสต์ย่อมรู้จักฝรั่งพูดไทยตัวสูง ๆ ท่าทางสุภาพเรียบร้อย พูดจานิ่มนวลเป็นมิตรกับทุกคน

เมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมาฝรั่งที่ใคร ๆ ในละแวกนี้เรียกว่า "คุณกานต์" คนนี้ เข้ามาทำความรู้จักตีสนินกับขาวอำเภอระโนด โดยมีเป้าหมายเพื่อชักชวนให้เข้ามาเป็นสมาชิกในโครงการนี้เลี้ยงกุ้งของแอควาสตาร์

"ผมเอาสไลด์ไปฉายที่วัด เป็นบทเรียนของไต้หวัน ให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมที่เสียหายไปจากการเลี้ยงกุ้งจนเลี้ยงต่อไปไม่ได้ ผมจะเริ่มต้นว่าอาชีพนี้ถ้าจัดการไม่ถูกต้องจะทำให้เลวลง แต่ในขณะเดียวกันถ้าทำดี จะมีรายได้งดงาม" คูนซ์ย้อนอดีตไปครั้งที่ชาวระโนดยังไม่รู้จักกุ้งกุลาดำเลย

กานต์ คูนซ์ เป็นคนอเมริกัน เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่พ่อเป็นบาทหลวงในวอชิงตัน ดีซี ตัวเขาเองร่ำเรียนมาทางด้านปรัชญาอิทธิพลจากครอบครัว และการศึกษาทำให้เขามีแนวความคิดไปในทางมนุษยธรรม ความรัก ความเมตตา และการอยู่ร่วมกันโดยสงบสุข

หลายคนที่เคยรู้จักพูดคุยกับเขาบอกว่า เขาเหมือนบาทหลวง

คูนซ์สมัครเป็นอาสาสมัครในโครงการอาสาสมัครเพื่อสันติภาพหรือ PEACE CORPS เมื่อเรียนจบ ตอนนั้นมีประเทศให้เขาเลือกสามแห่งคือ ฟิจิ ฟิลิปปินส์ และไทย สองประเทศแรกคนที่เลือกไปต้องไปสอนภาษาอังกฤษ เขาเลือกมาไทยเพราะต้องการมาทำงานทางด้านการเกษตร

คูนซ์ เดินทางมาเมืองไทยเป้นครั้งแรกในฐานะอาสาสมัคร PEACE CORPS เมื่อ พ.ศ. 2512 พื้นที่ปฏิบัติงานของเขาคือบุรีรัมย์หน้าที่ความรับผิดชอบคือคอยให้ความช่วยเหลือ คำแนะนำในเรื่องการเลี้ยงหมูแก่ชาวบ้าน

ด้วยความสุภาพเรียบร้อย อัธยาศัยไมตรีและความจริงใจ ไม่นานนักเขาก็เป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน หนึ่งในจำนวนนั้นที่รักเขาและเขารักมากกว่าใครเป็นสาวชื่อสุจินต์ อีกสิบปี่ต่อมาทั้งสองก็แต่งงานกันและมีลูกด้วยกัน 2 คนแล้ว

คูนซ์บอกว่า เขารักและอยากจะใช้ชีวิตอยู่กับงานเกษตร หลังจากหมดสิ้นระยะเวลาการทำงานเป็นอาสาสมัครแล้วเขากลับไปเรียบต่อทางด้านการเกษตรเพิ่มเติมที่สหรัฐฯ กลับมาเมืองไทยคราวนี้เขาไปทำไร่มะเขือเทศอยู่ที่กาญจนบุรี แต่ไม่นานนักก็ย้ายไปทำงานกับบริษัท อาดัมส์ อินเตอร์เนชั่นแนลที่ทำไร่ยาสูบทางภาคอีสาน

ที่นี่คูนซ์ได้ทำงานตามความใฝ่ฝันของเขาอย่างเต็มที่ เขาริเริ่ม และพัฒนาโครงการใบยาสูฐพันธ์เตอร์กิชเพื่อส่งไปขายให้กับบริษัท ฟิลลิป มอริส ผู้ผลิตบุหรี่ยี่ห้อมาร์โบโลในอเมริกา มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการนี้ถึง 4,000 คน

จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการมากมายเช่นนี้ทำให้ต้องนำคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ช่วยบริหารงาน สมรรถภาพอันน่าทึ่งของเจ้าเครื่องสมองกลนี้ทำให้คนที่คลุกอยู่กับท้องนาท้องไร่อย่างเขา "บ้า" ไปกับคอมพิวเตอร์ด้วย จนต้องลาไปเรียนอย่างจริงจังที่แคลิฟอร์เนียเป็นเวลาหนึ่งปี

กลับมาเมืองไทยอีกที บริษัท อดัมส์เปิดกิจการขายคอมพิวเตอร์ในนาม บริษัท แอ็คชั่น ขึ้นเป็นตัวแทนขายคอมพิวเตอร์ยี่ห้อ เอทีแอนด์ที คูนซ์เลยได้ลองวิชาที่เรียนมาด้วยการเป็นผู้บริหารอยู่ที่นี่ถึง 5 ปีเต็ม

ความที่รักในงานเกษตรมากกว่าทำให้เขาหวนกลับไปหามันอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เขาไปริเริ่มโครงการเลี้ยงกุ้งกุลาดำให้กับแอควาสตาร์ที่อำเภอระโนด ใช้ชื่อโครงการว่า "เพื่อนร่วมพัฒนา"

"หลักก็คือ ให้เจ้าของเป็นผู้ทำฟาร์มหรือเป็นผู้เลี้ยง เกษตรกรที่ไม่มีอะไร มีแต่ที่ดินและความขยันถ้าเราให้การสนับสนุนเขา เราเชื่อว่าเขาทำได้ ผลิตสินค้าที่คนทั้งโลกยอมรับในคุณภาพ เรามั่นใจเพราะเราเคยทำมาเราจึงลงไปที่ภาคใต้" คูนซ์กล่าว

จากที่นาว่างเปล่าที่ไม่เคยให้ผลเต็มเม็ดเต็มหน่วยภายในเวลาสามปีนับจากปี 2530 กลายมาเป็นบ่อเลี้ยงกุ้งจำนวน 310 บ่อ มีเกษตรกรซึ่งเป็นเจ้าของที่นานั้นมาร่วมโครงการ 302 คน ชาวบ้านที่มาร่วมโครงการได้จับเงินหมื่น เงินแสนเป็นครั้งแรกในชีวิต

จากรายได้เฉลี่ยบ่อละหนึ่งล้านหกแสนบาท หักต้นทุนการเลี้ยง เงินที่กู้มาสร้างบ่อพร้อมดอกเบี้ย มีรายได้เข้ากระเป๋ากันคนละสามแสนบาทต่อปี

ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วมากานต์ คูนซ์ไม่ค่อยจะมีความสุขนักจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้ร่วมโครงการกับแอควาสตาร์ เขาตกอยู่ในฐานะคนกลางระหว่างเกษตรกรกับบริษัท

ในความเป็นกานต์ คูนซ์ที่คนรักสงบ อยากเห็นการอยู่ร่วมกันโดยสันติกับกานต์ คูนซ์ที่เป็นตัวแทนแอควาสตาร์ซึ่งมีผลประโยนช์ทางธุรกิจต้องปกป้องรักษา เขาถูกสร้างภาพให้เป็นคนบาปที่อยู่ในคราบของนักบุญอย่างช่วยไม่ได้

ครั้งหนึ่งในการประชุมร่วมกับ นิพนธ์ บุญญภัทรโร ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เขาถูกกดดันอย่างหนักจนถึงกับต้องหลั่งน้ำตาและอีกครั้งหนึ่งที่การเจรจาลัมเหลว เขาถึงกับเอ่ยาขึ้นมาอย่างท้อแท้ว่า แม้แต่คนที่เป็นเพื่อนรักกันมาแต่บังเอิญมีฐานะเป็นเกษตรกรที่ร่วมอยู่ในความขัดแย้งด้วยก็ยังหันหลังให้เขา

"คุณกานต์เป็นคนดี พวกเรารักเขาเพราะทำให้เราเลี้ยงกุ้งได้แต่ตอนนี้มีปัญหาขัดแย้งกันอยู่ ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร" เกษตรกรรายหนึ่งในโครงการพูดถึงความรู้สึกของตนเองและเพื่อน ๆ ที่มีต่อคูนซ์

การนต์ คูนซ์พูดถึงความคิดของเขาในการดำเนินโครงการนี้ว่า เป้นการนำเอาอุดมการณ์ในการพัฒนามารวมกับผลประโนชน์ทางธุรกิจเพื่อให้ได้ประโยชน์ทางธุรกิจเพื่อให้ได้ประโยนช์สูงสุด "เหมือนน้ำกับน้ำมันที่รวมกันไม่ค่อยได้ แต่ต้องรวมกันให้ได้"

ถึงวันนี้เขาคงมีคำตอบให้กับตัวเองว่าความคิดทั้งสองย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนั้นจะมารวมกันได้หรือไม่ การบุกเบิกของเขาตั้งแต่แรกทำให้แอควาสตาร์มีฐานการผลิตที่แน่นอนในระดับหนึ่งแล้ว เพียงพอที่จะป้อนให้กับห้องเย็น นี่คืองานในขั้นพัฒนาซึ่งต้องนับว่าคูนซ์ทำได้สำเร็จ แต่เมื่อถึงจุดที่จะต้องขยายต่อไป ผลประโยชน์ทางธุรกิจเริ่มเข้ามาครอบงำมากขึ้น เหตุการณ์ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าแนวทางประนีประนอมของเขานั้นทำให้ปัญหายืดเยื้อยาวนาน

ช่วงเวลาของการบุกเบิกด้วยแนวความคิดแบบพัฒนาของแอควาสตาร์ได้จบลงแล้ว แนวความคิดแบบธุรกิจกำลังเข้ามาแทนที่ แอควาสตาร์ไม่จำเป็นต้องใช้คนอย่างคูนซ์อีกต่อไปแล้ว ชาวบ้านรู้แล้วว่าการเลี้ยงกุ้งมีความหมายอย่างไรต่อชีวิตของพวกเขาและจะต้องเลี้ยงแบบไหน

สำหรับกานต์ คูนซ์ เวลาของเขาหมดลงแล้ว

กานต์ คูนซ์ ยื่นใบลาออกจากแอควาสตาร์เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากไม่สามารถหาข้อยุติในปัยหาความขัดแย้งกับเกษตรกรได้ แต่คณะกรรมการของแอควาสตาร์ยับยั้งใบลาไว้ และให้ลดบทบาทที่ระโนดลง

ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะอยู่กับแอควาสตาร์ไปได้นานอีกเท่าไร จากนี้ไปฝรั่งพูดไทย ตัวสูง ๆ พูดจานิ่มนวล เป็นมิตรกับทุกคน ที่ใคร ๆ เรียกกันว่า "คุณกานต์" คนนี้อาจจะมีตัวตนเป็นแค่ความทรงจำของชาวระโนดเท่านั้น

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us