|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บลจ.ซีมิโก้ ติดเครื่องกองทุนรวม ชูคอนเซปต์ Blue Ocean เน้นสร้างความแตกต่างของสินค้าภายใต้ต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำ พร้อมส่งกองทุน 3 ซีรีส์ลุยตลาด ทั้งฟรีดอม แอดวานซ์และโนวา ภายใต้แบรนด์ "เดอะมันนี่ โปร" ชูจุดขายทุกกองทุนมีฟีเจอร์ไม่เหมือนใคร แถมยังให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ประเดิมกองทุนใหม่ปีนี้ 6 กองทุน เน้นจับกลุ่มลูกค้าที่ไม่เคยลงทุนกองทุนรวมมาก่อน และกลุ่มลูกค้าทั่วไป พร้อมรุกเปิดสาขาไซเบอร์บรานซ์ ขยายฐานลูกค้าต่างจังหวัด
นางดวงพร เติมวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซีมิโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทมีความพร้อมแล้วประมาณ 80-90% ที่จะดำเนินธุรกิจกองทุนรวม ทั้งในเรื่องของคนและระบบการบริหารจัดการต่างๆ โดยบริษัทได้เลือกกองทุนเปิดเอคควิตี้โปร หุ้นระยะยาว ซึ่งเป็นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) เปิดขายหน่วยลงทุนเป็นกองทุนแรก เนื่องจากกองทุนประเภทดังกล่าวสามารถจัดตั้งได้ถึงสิ้นเดือนนี้เท่านั้น ทั้งนี้ การที่ธุรกิจกองทุนรวมเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ดังนั้นในการดำเนินงานบลจ.ซีมิโก้ จึงเน้นใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า Blue Ocean ซึ่งจะเน้นสร้างความแตกต่างของสินค้าภายใต้ต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำ เพื่อให้บริษัทสามารถแข่งขันในตลาดได้ โดยกลยุทธ์ดังกล่าวถือเป็นการนำมาใช้ในธุรกิจทางด้านการเงินเป็นครั้งแรก
สำหรับแผนการออกกองทุนของบริษัท จะเน้นกองทุนที่แตกต่างจากกองทุนที่มีอยู่ในตลาดเป็นหลัก ไมว่าจะเป็นกองทุนตราสารหนี้ หรือกองทุนหุ้น โดยเฉพาะกองทุนหุ้นนั้น จะแตกต่างจากกองทุนที่มีอยู่โดยสิ้นเชิง โดยจะเน้นการลงทุนระยะสั้นพร้อมทั้งรักษาเงินลงทุนของลูกค้าเอาไว้ ขณะเดียวกันก็จะสร้างจุดเด่นด้วยผลตอบแทนของกองทุนที่สูงกว่า ซึ่งรวมถึงกองทุนประเภทตราสารหนี้ด้วย
ทั้งนี้ บริษัทจะแบ่งรูปแแบกองทุนออกเป็น 3 ซีรีส์ตามความเสี่ยงของกองทุน ซึ่งประกอบด้วย กองทุนซีรีส์ฟรีดอม แอดวานซ์และโนวา ภายใต้แบรนด์ เดอะมันนี่ โปร (The Money Pro) โดยกองทุนที่อยู่ในซีรีส์ฟรีดอมนั้น จะเน้นกลุ่มนักลงทุนที่ไม่เคยลงทุนกับกองทุนรวมมาก่อน รวมทั้งกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่ยังไม่เข้าใจการลงทุนในกองทุนรวมมากนัก ซึ่งกองทุนที่จะเสนอขายให้กับนักลงทุนกลุ่มนี้ จะเน้นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและเน้นรักษาเงินของลูกค้าเอาไว้
ส่วนกองทุนในซีรีส์แอดวานซ์ จะเป็นกองทุนรวมทั่วไปแต่นโยบายการลงทุนจะไม่เหมือนกัน โดยจะเน้นกลุ่มนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนรวมอื่นๆ อยู่แล้ว ซึ่งกองทุนในซีรีส์นี้จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่ากองทุนทั่วไป โดยเฉพาะกองทุนหุ้นที่บริษัทมั่นใจว่า กองทุนที่จะเปิดขายหน่วยลงทุนเร็วๆนี้ ให้ผลตอบแทนสูงกว่ากองทุนทั่วไปแน่นอน
ในขณะที่กองทุนในซีรีส์โนวา จะเป็นกองทุนพิเศษที่ไม่ใช่กองทุนธรรมดาทั่วไป เช่นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนที่เน้นลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใหม่ที่ยังไม่มีในตลาดกองทุนรวมในประเทศไทย โดยในส่วนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์นั้น ขณะนี้กำลังศึกษารูปแบบของกองทุนอยู่ โดยในเบื้องต้นก็จะแตกต่างจากกองทุนที่มีอยู่ในตลาดเช่นกัน เพราะจะมีการจัดชั้นระหว่างผู้ลงทุนอย่างชัดเจน ทั้งรายย่อย สถาบันหรือเจ้าของสินทรัพย์เดิม รวมทั้งความชัดเจนของผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับด้วย เนื่องจากเราเห็นว่า ผู้ลงทุนมีสิทธิในผลประโยชน์ในระดับที่เท่าเทียมกัน ซึ่งหากเป็นเช่นนี้เชื่อว่าจะทำให้กองทุนไม่มีปัญหาสภาพคล่องด้วย
"ปีนี้เราคาดว่าจะสามารถออกกองทุนได้ประมาณ 6 กองทุน ซึ่งจะมาจากกองทุนทั้ง 3 ซีรีส์ โดยจะแบ่งออกเป็นกองทุนตราสารหนี้ประมาณ 2-3 กองทุน กองทุนหุ้นอีก 2 กองทุน และกองทุนที่เน้นลงทุนในสินทรัพย์ใหม่ที่ยังไม่มีในตลาดอีก 1 กองทุน ซึ่งกองทุนแต่ละกองของเรา จะมีนโยบายการลงทุนที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าบริหารเพื่ออะไร และมีความเสี่ยงอย่างไร ซึ่งผู้จัดการกองทุนสามารถปรับเปลี่ยนได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบนโยบายหลักของกองทุนที่กำหนดไว้แล้ว"นางดวงพรกล่าว
นางดวงพรกล่าวว่า สำหรับกลุ่มเป้าหมายของบริษัท ในช่วงแรกจะเน้นขยายฐานจากลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์ ซีมีโก้เป็นหลัก หลังจากนั้นก็จะขยายไปสู่ฐานลูกค้ารายใหม่ ด้วยการเพิ่มช่องทางการขายหน่วยลงทุนอื่นๆ เช่น การลงทุนแบบออนไลน์ที่ผู้ลงทุนสามารถเปิดบัญชีผ่านอินเทอร์เน็ตแล้วซื้อขายหน่วยลงทุนได้ภายใน 20 นาที การเพิ่มช่องทางให้กลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดสามารถติดต่อกับบริษัทได้ การขายหน่วยลงทุนผ่านตัวแทนขายอิสระ รวมถึงการเปิดสาขาอิเล็กทรอนิกส์ (ไซเบอร์บรานซ์) ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะเปิดให้บริการประมาณ 10 สาขาตามพื้นที่ต่างที่เราเห็นว่ามีศักยภาพ ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา
สำหรับเป้าหมายในการดำเนินงานของบริษัท คาดว่าประมาณ 1 ปีครึ่ง หรือภายในปีหน้า บริษัทจะมีกำไรก่อนหักอัตราดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (อิบิด้า) ถึงจุดคุ้มทุน
|
|
|
|
|