ตลาดสื่อทีวีครึ่งปีหลังส่อแววเดือด หลังจากค่ายใหญ่แห่ปรับผังรายการ ทั้งโมเดิร์นไนน์ที่เงียบไปนาน เปิดผังรายการใหม่แล้ว ชูคอนเซ็ปท์ โมเดิร์นไนน์พลัส หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทั้งช่อง 3 และช่องทีไอทีวีได้เปิดโผรายการมาก่อน แม้จะไม่ปรับใหญ่ แต่ก็มีผลที่น่าจับตามองทั้งหมด เพื่อหวังแย่งชิงฐานคนดู และเม็ดเงินโฆษณาที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะเติบโตมาก
สถานการณ์การแข่งขันของสื่อทีวีโดยเฉพาะในแง่ของการปรับผังรายการใหม่ในช่วงไตรมาสที่สามนี้ ดูเหมือนว่าจะเกิดความคึกคักขึ้นมาหลังจากที่สื่อทีวีนั้นเงียบเหงาไปนาน จากปัญหาของสถานีไอทีวีหรือทีไอทีวี รวมไปถึงโมเดิร์นไนน์ที่ก่อนหน้านี้อยู่ในช่วงสุญญากาศเพราะยังไม่มีตัวกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่
อย่างไรก็ตาม ถึงวันนี้ ทุกสถานีโทรทัศน์มีความพร้อมอย่างชัดเจนแล้วในการประกาศศึกเพื่อแย่งชิงเรตติ้งรายการและคนดูจากตลาดรวม กับผังรายการใหม่ไตรมาสที่สามนี้ ที่มีการปรับเปลี่ยนกันชนิดเปลี่ยนแปลงมากเลยทีเดียว
ขณะที่เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อทีวีในเดือนพฤษภคมปีนี้เพียงเดือนเดียวจากนีลเส็นมีเดียรีเสิร์ชรายงานว่า สื่อทีวีมีมูลค่าโฆษณารวม 4,261 ล้านบาท ลดลง 7.69% จากเดิมในเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่มี 4,616 ล้านบาท ขณะที่ช่วง 5 เดือนแรกปีนี้สื่อทีวีมีมูลค่า 21,369 ล้านบาท ติดลบ 1.39% จากเดิมช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่มี 21,670 ล้านบาท
ทั้งนี้การปรับผังรายการของสื่อทีวีในยามนี้ นอกจากจะเป็นการพยายามแย่งฐานคนดูซึ่งกันและกันแล้วนั้น ยังต้องเหนื่อยหนักกับการแย่งชิงเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมที่ยังไม่มีการเติบโตมากขึ้นเท่าใดอีกด้วย
ผังใหม่โมเดิร์นไนน์พลัส
ที่น่าจับตามองมากที่สุดคือ ช่องโมเดิร์นไนน์ ที่นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ ได้แสดงฝีมือในการปรับผังรายการเป็นครั้งแรกหลังจากที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อไม่นานนี้กับการเปิดตัวคอนเซ็ปท์ “โมเดิร์นไนน์ พลัส ” คิดดี ทำดี ดูดี ซึ่งยังคงเน้นสานต่อ สังคมอุดมปัญญา เดิมที่โมเดิร์นไนน์ทำมาก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ผังใหม่ของโมเดิร์นไนน์ ในไตรมาสที่สามนี้ มีการปรับประมาณ 20% เท่านั้นทั้งนอนไพร์มไทม์และไพร์มไทม์ ยังไม่ถือว่ารื้อใหญ่แต่ก็มากพอที่จะพลิกโฉมหน้าได้ ซึ่งยังคงสัดส่วนรายการข่าว 40% วาระ 30% บันเทิง 20% และอื่นๆ 10% ซึ่งเน้นหนักที่รายการประเภทข่าวมากขึ้น เช่น เพิ่มข่าวกีฬาโดยสยามกีฬาผลิต วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.30-06.00 น. ข่าวเที่ยงวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 12.00-12.30 น. และข่าวเย็น 17.00 น. วันจันทร์-ศุกร์
ขณะเดียวกันได้ยกเลิกรายการประเภทหุ้นออกไป ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ช่วงบ่าย แล้วโยกไปสู่เวลาใหม่ในช่วงข่าวต่างๆ เนื่องจากเห็นว่าเป็นรายการที่เฉพาะเจาะจงมากเกินไป ทำให้มีผู้ดูจำนวนหนึ่งเท่านั้น
อีกทั้งรายการประเภทฮาร์ดทอล์คหรือสารคดีหนักๆในช่วงกลางคืนนั้นทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ที่เพิ่งใช้มาเมื่อช่วงต้นปีนี้ และเป็นรายการที่โมเดิร์นไนน์ผลิตเองและผู้จัดผลิต นั้นก็ได้ยกเลิกไปคือ จันทร์ชวนคิด (ของอสมท วันจันทร์), จุดชนวนความคิด (ของเนชั่น วันอังคาร) , รายการคมความคิด (ของเอเชียเทเลวิชั่นฯ วันพุธ), รายการปมเด่นประเด็นร้อน (ของอสมท วันพฤหัสบดี-ศุกร์ ) ปรับเป็นรายการลักษณะ ซอฟท์ทอล์คมากขึ้น เพื่อไม่ให้อารมณ์ตึงเครียดก่อนเข้านอน เช่น รายการ วาไรตี้ทอล์คแนวใหม่ ของบริษัท อินไซท์ อินโฟร์ จำกัด วันจันทร์ เวลา 23.00-24.00 น. และรายการสัญญาทอล์ค เวลา 23.00-24.00 น. วันอังคาร-ศุกร์
นอกจากนั้นยังจะมีการเพิ่มรายการเกี่ยวกับเด็กด้วยเช่น แผ่นดินเดียวกันบ้านฉันบ้านเธอ ไอเดียเด็ด การ์ตูนไทย
อีกประเด็นที่เห็นชัดคือ การเข้ามาร่วมชายคาโมเดิร์นไนน์ของผู้จัดทีไอทีวีกว่า 20 รายทั้งเล็กและใหญ่ ซึ่งมีทั้งที่โยกรายการมาแล้วปรับใหม่ รวมทั้งที่มาผลิตให้โมเดิร์นไนน์ใหม่ๆ สด ๆ เลยก็มี ไม่ว่าจะเป็น ค่ายทีวีธันเดอร์ ที่มาพร้อมกับรายการใหม่ 1 รายการ กับ อีก 2 รายการของ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ นอกนั้นก็มีค่ายเอทีแอนด์เอ็มของนางยุวดี บุญครอง, ค่ายดีทอล์ค, ค่ายทราฟฟิคคอร์เนอร์, ค่ายสยามกีฬา เป็นต้น
เป้าหมายของผังใหม่นี้ โมเดิร์นไนน์ต้องการที่จะขยายไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น เช่นกรณีการปรับผังรายการประเภทหุ้นจะเห็นได้ชัด และคาดหวังว่าในช่วง 3 เดือนนี้หลังจากปรับผังจะช่วยทำให้รายได้เพิ่มไม่ต่ำกว่า 1%
ช่อง3เพิ่มรายการแนวใหม่
ขณะที่ช่อง 3 ที่เป็นรายใหญ่และดูเหมือนว่าในช่วงก่อนหน้านี้ เรตติ้งรายการและเรตติ้งคนดูจะพุ่งทะยานเหลือหลาย ก็ปรับตัวได้พอสมน้ำสมเนื้อ โดยผังรายการนั้นได้ทำการปรับในบางส่วน แต่ยังคงเน้นหนักในเง่ของรายการประเภทข่าวสาร และตามด้วยรายการประเภทวาไรตี้ และบันเทิงละคร เพราะช่อง 3 เชื่อมั่นว่ารายการประเภทละครของตัวเองนั้นแข็งแกร่งแล้ว
นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีซี ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ช่อง 3 พยายามสร้างรายการเด็กให้อยู่ในผังรายการมากขึ้น และมีแนวคิดจะสร้างรายการเฉพาะที่เกี่ยวกับผู้ชายด้วย เช่นเดียวกับรายการข่าวและรายการละคร ซึ่งประสบความสำเร็จมาแล้ว เพื่อที่จะสร้างฐานคนดูให้เพิ่มมากขึ้นอีก
ทุกวันนี้ช่อง 3 มีรายการประเภทข่าวประมาณ 50% ของผังรายการทั้งหมด ซึ่งถือว่ามาก โดยมีครอบครัวตัวข่าวเป็นคอนเซ็ปท์หลัก จนกระทั่งทำให้รายได้ของรายการข่าวเพิ่มสัดส่วนมาเป็น 25% แล้ว และมีเวลาออกอากาศมากกว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน จาก 23 รายการ
ล่าสุดก็ยังนำเอารายการเก่ามาปัดฝุ่นใหม่เพราะเชื่อมั่นว่ายังขายได้ คือ รายการ จับเข่าคุย ของสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา มาออกอากาศ ในช่วงวันเสาร์ เวลา 22.30น.
อย่างไรก็ตาม ผังของช่อง 3 นั้นมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลาอยู่แล้ว แม้ว่จะยังไม่ได้ปรับผังใหญ่ในช่วงนี้ก็ตาม แต่ก็มีการนำเอารายการใหม่เข้ามาปรับเปลี่ยนรายการเก่าบางรายการ ที่น่าจะถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยนออกได้แล้ว
เช่นล่าสุดในเดือนมิถุนายนนี้ จะมี 2 รายการใหม่ เข้ามาออนแอร์คือ รายการ แกะดำ และรายการ ปากต่อปาก ซึ่งทั้งสองรายการนี้เข้ามาแทนรายการ ผู้หญิงถึงผู้หญิงสวย ในวันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนในเดือนกรกฎาคมก็จะมีรายการเกมโชว์รูปแบบใหม่ ที่ทางบีอีซีเทโรซื้อลิขสิทธิ์มาจากอเมริกา คือ คุณฉลาดกว่าเด็กประถม5หรือเปล่า และอีกรายการคือ เกมโชว์ 1 ต่อ 100
จะเห็นได้ว่าช่อง 3 มีลูกเล่นที่น่าจะสร้างเรตติ้งคนดูได้ไม่น้อย กับรายการใหม่ซิงๆ ที่เพิ่มสีสัน นอกเหนือจากการพุ่งเป้าหมายไปที่ละครเพียงอย่างเดียว
ข่าวเช้าช่อง5ติดลมบน
ทางด้านช่อง 5 แม้จะไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้นำ แต่ก็พยายามที่จะสร้างเรตติ้งของตัวเองได้อย่างดี กับการปรับรูปแบบการนำเสนอแต่ละรายการที่สามารถสร้างเรตติ้งให้สูงขึ้นได้เรียกว่าทีละเล็กทีละน้อยสะสมไปเรื่อยๆ
ขณะนี้ทางช่อง 5 ก็ได้ประกาศเชิญชวนผู้จัดรายการทั้งหลายให้ยื่นเสนอรายละเอียดของรายการใหม่ๆได้แล้ว เพื่อให้ช่อง 5 พิจารณาบรรจุเข้าในผังใหม่ของปี 2551 ที่ต้องใช้เวลาพิจารณาอย่างละเอียดและรอบคอบ
ขณะที่ผังรายการที่ใช้อยู่นี้ก็มีการปรับเปลี่ยนตลอด โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่สามนี้ เพื่อพร้อมที่จะเปิดเกมรุกแย่งชิงคนดู ทั้งรายการข่าว ละคร วาไรตี้ เกมโชว์ ทอล์คโชว์
รายการข่าวช่วงเช้าของช่อง 5 ในระยะหลังนี้ค่อนข้างจะทำได้ดี เรตติ้งเพิ่มตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นรายการ เปิดข่าวเช้า สยามเช้านี้ สถานีสนามเป้า ที่เริ่มตั้งแต่เวลา 05.30 น. มาถึง 08.30 น. ที่สามารถสร้างเรตติ้งคนดูและเม็ดเงินโฆษณาได้ไม่น้อยเลย
ช่อง11เพิ่มผลิตเอง
สำหรับความเคลื่อนไหวอีกช่องคือ ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ นั้น มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยช่อง 11 มีแนวคิดที่จะสร้างรูปแบบรายการที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อขยายฐานกลุ่มคนดูให้มากขึ้น เช่น การเพิ่มรายการเกี่ยวกับเด็กเข้ามาสู่ผังมากขึ้น เพื่อขยายสู่กลุ่มเยาวชนระดับมัธยมขึ้นไป หรือแม้แต่การเพิ่มรายการประเภททอลค์โชว์และรายการประเภทวาไรตี้ ให้มากขึ้น เพื่อสร้างเสน่ห์ หลังจากที่ช่อง 11 มักจะถูกมองว่า มีแต่รายการที่เกี่ยวกับสารคดี และสาระความรุ้มากจนเกินไปไม่สามารถดึงดูดฐานผู้ชมกลุ่มเด็กได้ อีกทั้งยังมีแนวคิดที่จะเพิ่มจำนวนเวลาในการผลิตเองจากเดิม 4 ชั่วโมงเป็น 6 ชั่วโมงอีกด้วย
ทางด้านช่องทีไอทีวี วันนี้ค่อนข้างมีความชัดเจนแล้วว่า พนักงานจะได้รับเงินเดือนย้อนหลังโดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ลาออกจากทีไอทีวี
ดังนั้นเมื่อมีเงินมาหล่อเลี้ยงองค์กร แน่นอนว่า การปรับเปลี่ยนผังรายการจึงน่าจะเป็นสิ่งที่ตามมาหลังจากนี้
|