Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน19 มิถุนายน 2550
N-PARKปรับแผนขาย4พันล้านหุ้นใหม่             
 


   
search resources

แนเชอรัล พาร์ค, บมจ.




แนเชอรัล พาร์คฯแจงผลการขายหุ้นของบริษัท ระบุขายได้ 2.96 แสนหุ้น จากที่เสนอกว่า 4,028.580 ล้านหุ้น เตรียมเสนอคณะกรรมการพิจารณาปรับแผนการขายหุ้น ยอมรับผลเรื่องคดีทำให้นักลงทุนที่สนใจชะลอดูคดีสิ้นสุดก่อน เปรยผลสำเร็จหลังเปิดเว็บไซต์แจกแจงปัญหาทั้งหมด มีคนแห่เข้าเพียบ

นายจุมพลภัทร์ พูลทรัพย์ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ N-PARK แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ตามที่ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ มีมติอนุมัติ

ให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 4,028,580,000 บาท จากทุนจดทะเบียนจำนวน 8,057,160,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 12,085,740,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 4,028,580,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และให้นำหุ้นสามัญที่ออกใหม่ทั้งจำนวน ออกจัดสรรและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.55 บาท ซึ่งเท่ากับมูลค่าทางบัญชีของบริษัท ณ 31 ธันวาคม 2549 โดยที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทกำหนดระยะเวลาการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวันที่ 11-15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ได้ครบกำหนดระยะเวลาการจองซื้อหุ้นดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่าผลการขายหุ้นสามัญของบริษัทดังกล่าวคือ บริษัทขายหุ้นสามัญได้จำนวน 296,000 หุ้น หรือคิดเป็นจำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด 0.0073% โดยได้รับเงินจากการขายครั้งนี้รวม 162,800 บาท และมีหุ้นใหม่คงเหลือในการเสนอขายจำนวน 4,028,284,000 หุ้น

ทั้งนี้ ทางบริษัทได้ชี้แจงสาเหตุการเพิ่มทุนใหม่ในครั้งนี้ผ่านทางเว็บไซต์ โดยระบุว่า เกิดจากความสับสนในสถานะของบริษัท ทำให้ผู้ถือหุ้นเดิมและนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงไม่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน

ซึ่งในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทในครั้งที่ผ่านมา ได้กำหนดไว้ว่า หากผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิไม่ครบ หุ้นที่เหลือจะถูกเสนอขายให้แก่นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงต่อไป

" จริๆงแล้ว มีผู้ลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจที่จะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท แต่เจอปัญหาเรื่องการฟ้องร้องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้การขายหุ้นเพิ่มทุนที่เหลือแก่นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงที่เคยสนใจจะซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่เหลือในราคา 0.55 บาท ได้ชะลอการตัดสินใจจนกว่าเรื่องของคดีจะชัดเจน" ผู้สื่อข่าวรายงาน

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่บริษัทได้ประสบปัญหาการถูกฟ้องร้องจากเจ้าหนี้และรวมถึงที่สถาบันการเงิน โดยธนาคารนครหลวงไทย ได้มีการประกาศจะนำหุ้นในบริษัท แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PA และบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่ทางบริษัทแนเชอรัล พาร์คฯนำมาเป็นหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อ ซึ่งล่าสุดทางบริษัทและธนาคารนครหลวงไทย ได้บรรลุข้อตกลงในแผนการปรับโครงสร้างหนี้ โดยทางบริษัทแนเชอรัลฯ ได้นำเงินประมาณ 45 ล้านบาทที่ได้จากการขายหุ้นในบริษัท ฟินันซ่า จำกัด ทำการชำระหนี้แก่ธนาคารในข้อที่ 1 แล้ว และอยู่ระหว่างที่จะหาผู้ลงทุนมาซื้อหุ้นของบริษัทแสนสิริ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังที่บริษัทได้จัดทำเว็บไซต์เพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางและปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัท ปรากฎว่า ได้มีทั้งนักลงทุนและประชาชนเข้าไปตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์ของบริษัทถึง 700 ราย โดยเป็นตัวเลขสุทธิจากการที่มีผู้เข้ามาชมครั้งเดียว และต่อให้มีการเข้ามาในเว็บไซต์หลายครั้ง จะถูกบันทึกเป็นครั้งเดียว ล่าสุดทางบริษัทอาจจะมีแนวคิดที่จะจัดทีมเพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ที่เข้ามาสอบถามโดยตรงผ่านเว็บไซต์

ก่อนหน้านี้ บริษัท แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ฯ ได้มีการจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ คือ บริษัท สมุย โฮลดิ้ง จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 10,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยมีบริษัทฯถือหุ้น 100% ซึ่งใช้แหล่งเงินกู้ยืมจากบริษัท โดยทางบริษัทจะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้บริษัทในอัตรา 7.5% ต่อปี ซึ่งวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง เพื่อลงทุนในธุรกิจโรงแรมและอื่นๆ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us