|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
บล.กสิกรไทย ลั่นปีนี้เบรกอีเวนท์ หลังเปิดบริการเพียง2 ปีกว่าเร็วกว่าคาดการณ์ เหตุ มาร์เก็ตแชร์โตเร็ว ชี้สิ้นปีนี้แตะ 1.5% -รับรู้รายได้งานไอบีขนาดใหญ่ เข้าตลท.“ดีแทค” เตรียมหาพันธมิตรต่างประเทศ “ผู้บริหาร” เผย พร้อมเปิด"ไซเบอร์บลานซ์" ในสาขาแบงก์แม่ 200 สาขา
นางณัฐรินทร์ ตาลทอง กรรมการบริหาร สายงานนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะสามารถถึงจุดคุ้มทุน(Break Even) ได้ภายในสิ้นปีนี้ หลังจากที่เปิดดำเนินการมาเป็นเวลาประมาณ 2 ปีครึ่ง ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ เนื่องมาจากสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) การซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่างต่อเนื่องและเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และบริษัทรับรู้รายได้จากการเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ TAC
ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมี มาร์เก็ตแชร์ ประมาณ 0.95 % จากในช่วงต้นปีที่ผ่านมาที่ 0.55 %หรือเพิ่มขึ้น กว่า 0.40% ภายในระยะเวลา 6 เดือน และหลังจากนี้คาดว่าจะมีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง โดยตั้งเป้าหมายว่าสิ้นปีนี้บล.จะต้องมีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นเป็น 1.5% หรือเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1%
"เรามั่นใจว่าจะสามารถ Break Even ได้ภายในสิ้นปีนี้ เพราะมาร์เก็ตแชร์ที่เพิ่มขึ้น และได้ดีลใหญ่อย่างดีแทคเข้ามา แม้ว่าจะเป็นบริษัทที่เปิดใหม่มาไม่ถึง 3 ปี ซึ่งนับเป็นความสำเร็จอย่างมากของการทำธุรกิจ ส่วนจะมีผลกำไรกลับไปให้ธนาคารได้ภายในปีนี้หรือไม่ยังไม่แน่ใจ อย่างไรก็ตามการที่บล.สามารถถึงจุดคุ้มทุนได้ภายใน 2 ปีครึ่ง ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้ ทางผู้บริหารของธนาคารก็พอใจมากแล้ว "
สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นลูกค้าที่มาจากฐานลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งแม้จะเป็นลูกค้ารายย่อยแต่มีปริมาณการซื้อขายที่สูง ส่วนพันธมิตรที่จะเข้ามาเสริมธุรกิจของบริษัทนั้นขณะนี้บริษัทยังไม่เร่งรีบในการหาพันธมิตร แต่จะมีการสรุปในเรื่องดังกล่าวให้ได้ภายใน 3 ปีหลังจากนี้ ซึ่งพันธมิตรดังกล่าวจะเข้ามาเสริมในส่วนลูกค้าต่างประเทศ
นางณัฐรินทร์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะเปิดสาขาหลักทรัพย์ในสาขาของธนาคารกสิกรไทย (ไซเบอร์บลานซ์) ที่จะเข้ามาเพิ่มช่องทางการขยายฐานนักลงทุนมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทมีความพร้อมที่จะเปิดไซเบอร์บลานซ์ในสาขาของธนาคารกสิกรไทยจำนวน 200 สาขา ครอบคลุมทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแล้ว
นางณัฐรินทร์ กล่าวถึงสถานการณ์การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ว่า ด้านการลงทุน เห็นว่านักลงทุนควรเลือกลงทุนในระยะกลางและระยะยาวมากกว่าการลงทุนในระยะสั้น ส่วนปัญหาการเมืองที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นในขณะนี้อาจจะเป็นปัจจัยที่กดดันต่อการลงทุน แต่ถ้าเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาแล้ว ยังมีความรุนแรงที่น้อยกว่ามาก ทำให้ยังไม่น่าวิตกมากนัก ทั้งนี้ในช่วงครึ่งหลังของปี ถ้าสถานการณ์ทางการเมืองมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ก็จะทำให้การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์กลับสู่ภาวะปกติ
|
|
 |
|
|