Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน18 มิถุนายน 2550
พิษบาทแข็งฉุดกำไรส่งออก-ผู้ผลิตก๊อกน้ำหันขายไทย             
 


   
search resources

Sanitary Wares




"วีอาร์เอช" ผู้ส่งออกก๊อกน้ำ อุปกรณ์ห้องน้ำ และฝักบัวสเตนเลส โอดค่าบาทแข็ง-วัตถุดิบราคาพุ่งกระทบยอดส่งออก หวังเพิ่มยอดขายสร้างฐานตลาดในประเทศลดความเสี่ยงจาการผันผวนในตลาดส่งออก หันเจาะกลุ่มคอนโดฯ ส่งก๊อกประหยัดน้ำทำตลาด ตั้งเป้าปี 50 ยอดขาย 600 ล้านบาท

นายสุวี หทัยพันธลักษณ์ ประธานกรรมการบริษัท วี.อาร์แฮนด์เดิล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย ฟิตติ้ง อุปกรณ์ห้องน้ำ ห้องครัว ฝักบัว และก๊อกน้ำ สเตนเลส แบรนด์ "VRH" และรับจ้างผลิตภายใต้แบรนด์สินค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ปัจจุบัน บริษัทมีโรงงานผลิตสินค้า 2 แห่งโดยโรงงานแห่งแรกตั้งอยู่ที่ถนนเพชรเกษม 91 และโรงงานแห่งที่ 2 ที่บริษัทได้มีการลงทุนใหม่ตั้งอยู่ที่ เขตกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีพื้นที่ก่อสร้างโรงงานกว่า 8 ไร่ ใช้งบประมาณในการลงทุนก่อสร้าง 200 ล้านบาท ซึ่งหลังจากที่บริษัทมีการขยายโรงงานผลิตใหม่เพิ่มทำให้บริษัทมีกำลังผลิตต่อเดือนเพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านบาทต่อเดือนจากเดิมที่บริษัทมีกำลังการผลิตที่ 20 ล้านบาทต่อเดือน

ทั้งนี้ สาเหตุที่บริษัทตัดสินใจขยายโรงงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณการใช้ก๊อกน้ำของตลาดในประเทศเพิ่มสูงขึ้นตามอัตราการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวสูง และแนวโน้มการเปลี่ยนมาใช้ก๊อกน้ำพรีเมียมที่ผลิตจากสเตนเลสเพิ่มจำนวนสูงขึ้นเพราะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จากกระแสคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพมากขึ้น โดยก๊อกนำที่ผลิตจากสเตลเลสมีค่าปนเปื้อนจากโลหะหนักในระดับที่ต่ำกว่ามาตรฐานกลางที่( สำนักมาตรฐานกลางเพื่อการส่งเสริมอุตสาหกรรม (มสอ.) ตรวจชื่อสำนักงานที่ถูกต้องให้ด้วย ) กำหนดไว้ ในขณะนี้ที่ผลิตภัณฑ์ก๊อกน้ำที่ใช้อยู่ในปัจจุบันส่วนใหญ่เกือบ 100% ผลิตมาจากทองเหลืองชุบโคเมี่ยม ซึ่งมีการปนเปื้อนสารโลหะหนักที่ปริมาณที่สูงค่ามาตรฐาน

ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนการส่งออกในต่างประเทศ 60% และจำหน่ายในประเทศ 40% โดยในจำนวนการส่งออกสินค้าของบริษัททั้ง100% นั้นแบ่งออกเป็นการผลิต และส่งออกภายใต้แบรนด์"VRH" 15% ส่วนที่เหลืออีก85% เป็นการผลิตและส่งออกภายใต้แบรนด์ของบริษัทอื่น ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าที่ที่บริษทรับผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของลูกค้ามีอยู่ประมาณ 10 กว่าแบรนด์ โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทจะเป็นกลุ่มลูกค้าในประเทศ แม็กซิโก,สเปน,อังกฤษ, เบลเยี่ยม,เนเธอร์แลนด์ และประเทศในกลุ่มอาเซียน เช่น สิงคโปร์

สำหรับตลาดในประเทศนั้น บริษัท ผลิตและจำหน่ายภายใต้แบรนด์ "VRH" เป็นส่วนใหญ่โดยมีสัดส่วนประมาณ 80-90% ส่วนที่เหลืออีกกว่า 10% เป็นการรับจ้างผลิต เช่น แบรนด์ อเมริกันสแตนดาด์ แบรนด์กะรัต ซึ่งส่วนใหญ่บริษัทจะผลิตเฉพาะชิ้นส่วนของท่อน้ำทิ้ง ก้านฝักบัวและอะไหล่ขนาดเล็กให้เท่านั้น

นายสุวี กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนจะขยายสัดส่วนการขายตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้ก๊อกนำในประเทศมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับแนวโน้มตลาดในต่างประเทศเริ่มได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท และการปรับตัวของราคาวัตถุดิบในการผลิต ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกของบริษัท ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างฐานตลาดหลักในประเทศให้แข็งแกร่งและลดความเสียงจากการส่งออก ที่มีความผันผวน บริษัทจึงมีแผนการขยายตลาดในประเทศเพิ่ม

" ที่ผ่านมาราคาสเตนเสล ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่บริษัทนำเข้า 100% มีราคาสูงขึ้น เนื่องจากการขึ้นต้นทุนราคาน้ำมัน โดยราคาสเตนเลสมีการปรับราคาขายเพิ่มถึง 10% ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตของบริษัทเพิ่มขึ้นไปด้วย ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาบริษัทจึงได้มีการปรับราคาขายของสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 15% เพื่อให้ต้นทุนวัตถุดิบและราคาขายสินค้าสมดุลกัน"

ทั้งนี้ในการขยายตลาดของบริษัทนั้น จะเน้นการเปิดตลาดใหม่โดยเฉพาะตลาดโครงการจัดสรรและตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะเน้นกลุ่มโครงการอาคารสูง คอนโดมิเนียมอาคารสำนักงานเช่า และอาคารขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้าที่เปิดใหม่ รวมถึง โรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆ ซึ่งโครงการต่างๆ ในกลุ่มนี้จะมีปริมาณการใช้ก๊อกน้ำจำนวนมากในระบบประปา และระบบจ่ายน้ำ โดยอัตราการเติบโตของโครงการประเภทดังกล่าวมีสัดส่วนการขยายตัวที่สูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาสินค้าของบริษัทได้มีการเสนอขายเข้าไปในโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการของบริษัท แลนด์แอนด์ เฮาส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีการนำไปใช้ในบ้านตัวอย่างให้ลูกค้าดู โครงการบ้านเพลินทะเล ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) โครงการ ของบริษัท ชาญอิสระ ซึ่งค้ดว่าในปีนี้ออเดอร์สินค้าจะมีจำนวนที่เพิ่มขึ้น

สำหรับ สินค้าที่บริษัทจะใช้รุกตลาดในปีนี้ คือก๊อกประหยัดน้ำ ซึ่งสามารถช่วยประหยัดน้ำได้สูงถึง 5 เท่าจากก๊อกน้ำปกติ ซึ่งในช่วงแรกจะเน้นรุกเข้าไปในโรงเรียนก่อน และโครงการแนวสูงก่อน โดยจะเน้นการขายผ่านห้างสรรพสินค้าโมเดิลเทรด และตัวแทนจำหน่ายในต่างจังหวัดซึ่งขณะนี้มีอยู่ 600 รายทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ในปีนี้บริษัทจะมีอัตราการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 600 ล้านบาท จากเดิมที่มียอดขายอยู่ที่ 200 ล้านบาทต่อปี   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us