|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
นักลงทุนคลายกังวลหลังคมช.-รัฐบาลออกมาสยบสารพัดข่าวลือ สอดรับข่าว"ทักษิณ"ยันไม่กลับไทย เตือนยังต้องจับมาการชุมนุมในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ห่วงปะทะเดือดฉุดความมั่นใจ "ภัทรียา" เตือนนักลงทุนอย่าตื่นข่าวลือ ขอให้ตั้งสติก่อนตัดสินใจ ขณะที่โบรกเกอร์เชื่อคมช.มีแผนจัดการม็อบเพื่อให้การประท้วงยุติก่อน 24 มิ.ย.แน่ แนะถือเงินสดดีที่สุด รอจังหวะกลับมาลงทุนหลังปัญหายุติ
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (14 มิ.ย.) หลังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ออกมาสยบข่าวลือไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปฎิวัติซ้อน การประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก. ฉุกเฉิน) ข่าวการเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ประท้วงเพื่อขับไล่คมช. รวมถึงการปฎิเสธที่จะกลับมาสู้คดีของอดีตนายกรัฐมนตรีภายในเดือนนี้ ส่งผลทำให้นักลงทุนคลายความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองแม้ว่าจะมีการประกาศอย่างชัดเจนจากกลุ่มผู้ชุมนุมว่าจะมีการนัดชุมชุนใหญ่ในวันที่ 16 มิ.ย.ก็ตาม
โดยตลอดทั้งวันดัชนีแกว่งตัวในแดนบวก่อนปิดที่ 734.93 จุด เพิ่มขึ้น 8.33 จุด หรือ 1.15% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 737.67 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 732.13 จุด มูลค่าการซื้อขาย 10,884.33 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 498.44 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 351.19 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 147.26 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์การยึดอำนาจการปกครองของคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เมื่อค่ำวันที่ 18 ก.ย.49 - 13 มิ.ย.50 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 81,029.29 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 9,891.23 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 71,138.06 ล้านบาท
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้(14 มิ.ย.) ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากก่อหน้านี้นักลงทุนมีความกังวลต่อข่าวลือต่างๆที่ออกมาในช่วงบายของวันที่ 13 มิ.ย. 50 ไม่ว่าจะเป็นการประกาศพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน การเคลื่อนไหวของกลุ่มชุมนุมซึ่งรัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้นักลงทุนกลับเข้ามาลงทุน
ทั้งนี้การลงทุนในตลาดหุ้นไทยนั้นมีความอ่อนไหวตามกระแสข่าวที่ออกมาทำให้นักลงทุนตกใ# 92;จึงมีการขายหุ้นออกมา ซึ่งนักลงทุนควรที่จะใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูลเพื่อใช้ประเมินการซื้อขาย และเมื่อมีข่าวลือเกิดขึ้นนั้นควรที่จะต้องมีการตรวจสอบข่าวลือว่าจริงหรือไม่ เพื่อที่จะไม่ได้รับความเสียหายและเสียโอกาสในการลงทุน ทำให้ต้องกลับมาซื้อหุ้นในราคาที่สูงขึ้น
"จากนี้ไปเชื่อว่าจะมีกระแสข่าวลือออกมาเรื่อยๆในช่วงที่ปัจจัยการเมืองยังไม่นิ่ง นักลงทุนไม่ควรที่จะตกใจอ่อนไหวกับข่าวที่ออกมา โดยจะต้องตรวจสอบข่าวลือก่อนเพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหายจากการลงทุน หรือาจจะต้องกลับมาซื้อหุ้นในราคาที่สูงขึ้น" นางภัทรียากล่าว
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การที่ดัชนีปรับตัวขึ้นในวานนี้นั้น สาเหตุหลักเนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลหลังวานก่อนหน้ามีแรงเทขายออกมาจำนวนมากเพราะกังวลว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาประเทศไทย เพื่อแก้ข้อกล่าวหากับทางคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงอาจจะทำให้การชุมนุมประท้วงของ "แนวร่วมประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ" ยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
"การจะกลับหรือไม่กลับไม่ใช้ปัญหาที่ใหญ่มากนัก แต่ขึ้นอยู่กับว่าถ้ากลับมาแล้วม็อบจะยิ่งแรงขึ้นหรือไม่ แต่ตอนนี้ออกมาบอกแล้วว่าจะยังไม่กลับมาในขณะนี้ ก็น่าจะทำให้ม็อบลดความรุนแรงลงได้ในระดับหนึ่ง "
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลควรจะแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าต้องการรักษาสถานการณ์ทางการเมืองให้สงบจนถึงเดือนสิงหาคม ซึ่งจะมีการออกลงประชามติเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หรือจนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง จะถือว่าเป็นเรื่องดีและจะส่งผลดีทั้งต่อระบบเศรษฐกิจและตลาดทุน
สำหรับการลงทุนในสัปดาห์หน้า ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง คาดว่าดัชนีน่าจะผันผวน ให้แนวรับ-แนวต้านที่ 720-743 จุด ทั้งนี้ถ้าดัชนีสามารถปรับตัวขึ้นไปถึงระดับ 743 จุดได้ น่าจะเกิดการเทขายทำกำไรออกมาอีกครั้ง
นางจิตติมา อังสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายที่ปรึกษาการลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า นอกเหนือจากสถานการณ์ทางการเมืองที่นักลงทุนคลายกังวลมากขึ้น ตลาดหุ้นไทยยังได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นวานนี้หากเทียบกับตลาดหุ้นในประเทศต่างๆยังถือว่าน้อยมาก อย่างไรก็ตามคาดว่าถ้าในช่วงสุดสัปดาห์นี้ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ดัชนีอาจจะกลับขึ้นไปที่ระดับ 750 จุดได้อีกครั้งหนึ่ง
นายทวีรัชต์ มัททวีวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บล.ไซรัส กล่าวว่า แม้ในขณะนี้ข่าวลือจะลดลงในระดับหนึ่ง แต่นักลงทุนยังเกรงกลัวสถานการณ์ และยังมองว่าเป็นความเสี่ยงอยู่ค่อนข้างมาก ทำให้บางส่วนเลือกที่จะถือเงินสดมากกว่าการเข้ามาลงทุน ส่วนการที่ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น เนื่องมาจากข่าวลือต่างๆ ที่ไม่เป็นความจริงแต่คาดว่าการปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นน่าจะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น
โบรกฯจี้คมช.คุมม็อบ
นายฉัตรชัย กิจธิคุณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.สินเอเซีย กล่าวว่า การ ชุมนุมของกลุ่มผู้ไม่เห็นตัวกับคมช.คงต้องมีจุดจบก่อนที่จะเกิดความวุ่นวายในวันที่ 24 มิถุนายน 50 นี้อย่างแน่นอน เนื่องจากภาครัฐจะต้องมีวิธีการจัดการกับกลุ่มผู้ ชุมนุมไม่ให้ยืดเยื้อไปมากกว่านี้เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประเทศ
"การกลับประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เราเชื่อว่าคงจะไม่กลับมาเพราะว่าพ.ต.ท.ยังอยู่ในฐานะที่เป็นรองอยู่ซึ่งหากกลับมาคงไม่เป็นผลดีกับตัวเองแน่"นายฉัตรชัยกล่าว
สำหรับแนวโน้มการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดวันนี้คาดว่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากใกล้วันหยุดสุดสัปดาห์ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการช่วง วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ โดยประเมินแนวรับที่ 720-726 จุด และแนวต้านที่ 737-740 จุด
|
|
 |
|
|