|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
หุ้นเก็งกำไรไปไม่รอด ราคารูดระนาว หลังตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งห้ามเน็ท-มาร์จิ้น "ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น" โดยหุ้นร่วง 8% ขณะที่ APURE ทรุดหนักกว่า 21% "ภัทรียา"ระบุตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังจับตาอีก 2-3 บริษัทที่ราคาเคลื่อนไหวหวือหวา โบรกเกอร์ ระบุสถานการณ์การเมืองไม่นิ่งกระทบความมั่นใจ รายย่อยแห่ทิ้งหุ้นทั้งเล็ก-ใหญ่
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นเก็งกำไรหลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสั่งห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) ของบริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ LIVE ชั่วคราวเป็นเวลา 30 วันทำการ เนื่องจากพบความผิดปกติในการซื้อขาย ซึ่งเรื่องดังกล่าวส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของหุ้นเก็งกำไรอีกหลายบริษัท ไม่ว่าจะเป็นบริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APURE, บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS, บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER เป็นต้น
ทั้งนี้ ราคาหุ้น LIVE วานนี้ (13 มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันแรกที่ตลท.สั่งห้ามซื้อขายเน็ตเช็ตเทิลเมนต์และมาร์จิ้นเทรดดิ้ง ราคาปิดที่ 3.14 บาท ลดลง 0.28 บาท หรือ 8.19% มูลค่าการซื้อขาย 123.91 ล้านบาท, หุ้น APURE ราคาปิดที่ 1.72 บาท ลดลง 0.46 บาท หรือ 21.10% มูลค่าการซื้อขาย 208.89 ล้านบาท, หุ้น BLISS ราคาปิดที่ 4.00 บาท ลดลง 0.22 บาท หรือ 5.21% มูลค่าการซื้อขาย 35.69 ล้านบาท, หุ้น EVER ราคาปิดที่ 1.78 บาท ลดลง 0.19 บาท หรือ 9.64% มูลค่าการซื้อขาย 68.55 ล้านบาท
ขณะที่หุ้นในกลุ่มเก็งกำไรโดยเฉพาะ APURE ในช่วงที่ผ่านมาตั้งวันที่ 30 พ.ค.50 ถึง 12 มิ.ย. 50 ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดมากกว่า 75% ซึ่งตลท.เคยมีการสอบถามถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง โดยภายหลังผู้บริหารได้ชี้แจงว่าบริษัทไม่มีการพัฒนาใดๆ ที่สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง กล่าวว่า การที่หุ้นเก้งกำไรในในวานนี้ปรับตัวลดลงนั้น มีความเป็นไปได้ที่สาเหตุอาจจะเกิดมาจากความกังวลของนักลงทุนหลังจากตลท.สั่งห้าม LIVE ทำการซื้อขายในลักษณะเน็ตเซ็ทเทิลเมนต์และมาร์จิ้นเทรดดิ้ง ประกอบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์วานนี้ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง
นายพงศ์พันธุ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า การที่หุ้นในกลุ่มเก็งกำไรในขณะนี้ปรับตัวลดลงน่าจะเกิดมาจากนักลงทุนมีความกังวลต่อภาวะทางการเมืองมากขึ้น ทำให้ภาวะตลาดกลับมาเป็นขาลง และส่งผลให้นักลงทุนไม่กล้าจะเข้าไปซื้อหุ้นในกลุ่มเก็งกำไร ซึ่งลักษณะแบบนี้น่าจะเกิดขึ้นอีกระยะ
"หุ้นเก็งกำไรนั้นจะลดลงอย่างมากอยู่แล้วในช่วงที่ตลาดอยู่ในขาลง เพราะไม่มีแรงเข้าไปปั่นให้หุ้นขึ้น ส่วนใหญ่นักลงทุนมักจะเข้าไปเล่นหุ้นเก็งกำไรก็ต้องรอให้ตลาดหุ้นไม่เคลื่อนไหว ราคาหุ้นใหญ่ไม่ขยับ หรือนักลงทุนชะลอการลงทุนมากกว่านี้ " นายพงศ์พันธุ์กล่าว
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์มีการติดตามการซื้อขายของหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวที่หวือหวาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกเหนือจากบมจ.ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น ที่ตลาดหลักทรัพย์สั่งห้ามซื้อขายเน็ตเช็ตเทิลเมนต์และมาร์จิ้นเทรดดิ้งชั่วคราว ยังมีอีกอย่างน้อย 2-3 บริษัทที่ตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างการติดตามการซื้อขาย
ทั้งนี้ ในตลาดหุ้นยังมีหุ้นที่มีความน่าสนใจที่จะเข้ามาลงทุนอีกหลายบริษัท เพราะราคาหุ้นในปัจจุบันยังมีอีกเป็นจำนวนมากที่ราคายังต่ำกว่ามูลค่าราคาตามปัจจัยพื้นฐาน
|
|
 |
|
|